Skip to main content
sharethis

บริษัทโรช ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกประกาศซีแอล (การบังคับใช้สิทธิเหรือสิทธิบัตร) ยามะเร็ง กำลังร้องศาลลอสแองเจลิส เพื่อขอให้ประกาศซีแอลในยารักษาภาวะโลหิตจาง


ซึ่งโรชไปละเมิดสิทธิบัตรของบริษัทแอมเจนในสหรัฐฯและมีแนวโน้มว่าศาลฯจะให้ใช้ซีแอลในกรณีนี้


เห็นได้ว่า ในสหรัฐและประเทศพัฒนาแล้วใช้ซีแอลแพร่หลายไม่ใช่แค่ประกาศบังคับใช้สิทธิโดยรัฐดังในกรณีไทย แต่บริษัทเอกชนก็สามารถขอบังคับใช้สิทธิได้ผ่านกระบวนการศาลได้


 


สำนักข่าวรอยเตอร์ ลอสแองเจลิส รายงานเมื่อวันพุธที่ 26 มี.ค. ว่า ผู้พิพากษาศาลส่วนกลางที่รับผิดชอบพิจารณาคดีที่บริษัทแอมเจน (Amgen Inc) ฟ้องร้องบริษัทโรช โฮลดิ้ง เอจี (Roche


Holding AG) ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรของบริษัทได้มีคำสั่งให้แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำเปรียบเทียบปริมาณยาและราคายารักษาภาวะโลหิตจางของทั้งสองบริษัท


 


คำสั่งศาลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาทำให้ศาลต้องเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปจนกระทั่งกลางเดือนมิถุนายน


ว่าจะมีคำสั่งให้บริษัทโรชระงับการจำหน่ายยา Mircera ของบริษัทในประเทศสหรัฐฯ หรือไม่ โฆษกศาลกล่าว


 


ในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ลูกขุนในศาลชั้นต้นสหรัฐในกรุงบอสตันพบว่า ยารักษาภาวะโลหิตจางของบริษัทแอมเจนมีสิทธิบัตรคุ้มครองเป็นผลให้ยา Mircera ซึ่งได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาภาวะโลหิตจางในผู้ป่วยโรคไตของโรชละเมิดสิทธิบัตรยาทั้งสามรายการของบริษัทแอมเจน


 


วิลเลี่ยม ยัง ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นปฎิเสธที่จะมีคำสั่งถาวรให้บริษัทโรชระงับการจำหน่ายยา Mircera ในสหรัฐฯ พร้อมกล่าวว่า ศาลอาจมีคำสั่งใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิเพื่ออนุญาตให้บริษัทโรชวางจำหน่ายยาของบริษัทได้หากสามารถตกลงเงื่อนไขกันได้ ทั้งนี้ยา Mircera มีปริมาณการใช้ไม่บ่อยครั้งเท่ายาEpogen และ Aranesp ของบริษัทแอมเจน


 


แม้ว่าบริษัทแอมเจนจะชนะคดีสิทธิบัตร แต่มีแนวโน้มว่าศาลจะมีคำสั่งใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิ โดยถือตามคำวินิจฉัยของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ปี 2549 ในคดีระหว่างบริษัทอีเบย์ (eBay) กับเมิร์คเอ็กซ์เชนจ์


(MercExchange) ซึ่งส่งผลให้ศาลมีคำสั่งระงับการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิในเทคโนโลยีได้ยากขึ้น


 


วิลเลี่ยม ยัง ผู้พิพากษากล่าวว่า สำหรับกรณีนี้การสั่งระงับการจำหน่ายยา Mircera อาจไม่ส่งผลดีต่อประโยชน์สาธารณะ อีกทั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทโรชตกลงรับข้อเสนอเงื่อนไขสำหรับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตร รวมถึงการจ่ายค่าตอบแทนการใช้สิทธิแก่บริษัทแอมเจนในอัตราร้อยละ 22.5 พร้อมตั้งราคาจำหน่ายยาให้กับระบบประกันสุขภาพ Medicare ของสหรัฐฯ ต่ำกว่าราคายา Epogen


 


ในคำสั่งดังกล่าว ผู้พิพากษา วิลเลี่ยม ยัง ระบุว่าเขา "พยายามที่จะทำความเข้าใจในประเด็นซับซ้อนต่างๆ


ตามข้อเรียกร้องของบริษัทแอมเจน" ซึ่งต้องการให้ศาลมีคำสั่งถาวรให้ระงับการจำหน่ายยา พร้อมร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแต่งตั้ง "Special Master" หรือผู้ดูแลการทำตามคำสั่งศาล เพื่อให้คำแนะนำเปรียบเทียบราคาและอัตราเปรียบเทียบปริมาณยาที่ผู้ป่วยต้องใช้ระหว่างยา Mircera และ Epogen


 


จากท่าทีของผู้พิพากษา "ชี้ให้เห็นว่าศาลกำลังพิจารณาให้วางจำหน่ายยา Mircera แม้ว่าบริษัทแอมเจนจะมีข้อโต้แย้งว่า หากศาลไม่มีคำสั่งถาวรเพื่อบังคับคดีอาจจะสร้างความเสียหายให้กับระบบสิทธิบัตรของสหรัฐฯได้" ยารอน เวอร์เบอร์ นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊พระบุในงานวิจัยชิ้นหนึ่ง


 


อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษา วิลเลี่ยม ยัง ให้เวลาบริษัทแอมเจนและโรช 15 วัน เพื่อยื่นเสนอรายชื่อผู้เชี่ยวชาญ โดยที่ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งจากศาลจะมีเวลา 60 วันในการแสดงความเห็นดังระบุข้างต้น พร้อมกันนี้ บริษัทแอมเจนได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ผู้พิพากษาดำเนินการพิจารณาให้มีการชดใช้ค่าเสียหายเต็มจำนวนแก่บริษัทแอมเจน หากบริษัทโรชได้รับอนุญาตให้จำหน่ายยาดังกล่าวในประเทศสหรัฐฯ


 


บริษัทแอมเจนแถลงข่าวว่า บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าคำสั่งบังคับคดีเป็นการถาวรนั้นเป็นมาตรการเยียวยาที่เหมาะสมในกรณีนี้ และบริษัทจะถอนคำร้องหากศาลมีคำสั่งบังคับคดีเป็นการถาวร


 


"การจ่ายค่าตอบแทนการใช้สิทธิและมาตรการเยียวยาต่างๆที่ได้หารือกันในศาลเมื่อเร็วๆ นี้ยังไม่อาจชดเชยผลกำไรที่แอมเจนต้องสูญเสียไปได้ทั้งหมด" บริษัทแอมเจนกล่าว


 


Mark Schoenebaum นักวิเคราะห์ของแบร์สเติร์นกล่าวในการประชุมผ่านโทรศัพท์ว่า เขาคาดหวังจะเห็นยอดขายรวมของยารักษาโรคไต Epogen และ Aranesp ของบริษัทแอมเจนเติบโตถึง 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีหน้า พร้อมกับประเมิณว่า ยอดขายทุกๆ 100 ล้านเหรียญสหรัฐที่ต้องสูญเสียให้กับบริษัทโรช ทำให้กำไรสุทธิต่อปีต่อหุ้นของบริษัทแอมเจนตกลงถึงหุ้นละ 5 เซนต์


 


หุ้นของบริษัทแอมเจนเพิ่มขึ้น 1.16 เหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 2.84 และปิดตลาด (แนสแดค) ที่ 42 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นของบริษัทตกต่ำสุดในรอบ 12 เดือนท่ามกลางความวิตกกังวลในตลาดอีกครั้งเกี่ยวกับความปลอดภัยของยารักษาภาวะโลหิตจางต่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง


 


(รายงานโดย Deena Beasley; บรรณาธิการ: Carol Bishopric และ Leslie Gevirtz)

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net