Skip to main content
sharethis





การเมือง


 


ถูกถามเรื่องพันธมิตรฯ "สมัคร" ตอบ "ไม่" คำเดียว


เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันนี้ (30 มี.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศลาวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนไม่รู้ ไม่ได้ติดตามดู


 


เมื่อถามว่าประชาชนจะเกิดอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ชี้ เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มคัดค้านเข้ามาป่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร และปาหินทำร้ายผู้มาร่วมชุมนุม โดยอ้างว่ามีกลุ่ม นปก.อยู่เบื้องหลัง นายสมัคร กล่าวว่า ไม่เห็น เมื่อถามย้ำว่าจะมีการฟ้องกลับกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ นายสมัคร กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่ๆๆ


 


"ทักษิณ" เผยอยู่เมืองไทยสองอาทิตย์ ไปอีสานเพื่อทำบุญ


เว็บไซต์แนว - เมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (30 มี.ค.) ที่ห้องฟีนิกซ์ อิมแพค เมืองทองธานี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการซื้อ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ นักฟุตบอลจากสโมสรทอตแนม ฮอตสเปอร์สว่า ยังไม่มีความคืบหน้า   เรื่องนี้ต้องไปถาม สเวน โกรัน อีริคสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้


 


เมื่อถามถึงระยะเวลาในการอยู่ประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า 2 สัปดาห์ เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะเป็นการเดินทางแบบไปๆมาๆใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนต้องไปเป็นผู้บรรยายหลักที่ดูไบ จัดโดยบิสสิเนส วีค เมื่อถามถึงกรณีที่มาเตรียมต้อนรับนักลงทุนรายใหญ่จากต่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จะเป็นการหารือเรื่องเหล็กและเรื่องไบโอดีเซล เมื่อถามว่าได้คุยไว้นานหรือยัง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่ ตนเป็นผู้ชวนมาลงทุนเอง ส่วนเม็ดเงินที่คาดว่าจะนำมาลงทุนในไทยนั้นยังตอบไม่ได้ แต่เขาเป็นเศรษฐีระดับโลก


 


เมื่อถามวว่ามีข่าวจะเดินทางไปภาคอีสานกำหนดวันเวลาหรือยัง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้ถ้าจะเดินทางไปไหนก็ไปทำบุญ ไม่มีอะไร เมื่อถามว่าวันที่ 11 เม.ย. จะเดินทางไปเชียงใหม่แน่นอนใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไปทำบุญ


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเสร็จพิธีบรรดาแฟนคลับทักษิณ ซึ่งติดตามการเดินทางกลับตั้งแต่สนามบินจนถึงอิมแพคเมืองทองธานี้นั้น ทักษิณ ได้หยุดทักทายแจกรายเซ็นต์ ซึ่งนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้กล่าวกับบรรดาแฟนคลับว่า โอกาสหน้าจะจัดคอฟฟี่เบรกให้กับแฟนคลับ ส่วนการคุ้มกันอดีตนายกนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นายกระจายการคุ้ยกันทักษิณ และคนในครอบครัวอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในช่วงการเดินทางนั้น ได้มีรถนำขบวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหลายสิบคันตามประกบ   ทั้งนี้อดีตนายกฯมีกำหนดการรับประทานอาหารเย็นพร้อมครอบครัวที่โรงแรมโอเรียลเตล ส่วนสถานที่พักผ่อนนั้นมีรายงานว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะพักที่บ้านจันทร์ส่องหล้า


 


ส่วนบรรยากาศการมาเป็นประธานในพิธีปิดโครงการเด็กไทยคมไปแมนฯซิตี้ ณ  ห้องฟีนิกซ์  อิมแพค เมืองทองธานี โดยเยาวชนไทย 123  คนที่เข้าวโครงการและผ่านการคัดเลือกไปแมนฯซิตี้15คนเพื่อฝึกซ้อมกับสโมสรแมนฯซิตี้ระหว่างวันที่22เม.ย.-1พ.ค.นั้น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวปิดงานว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่มาทำงานเกี่ยวกับสาธารณกุศลหลังจากตกงานเกือบสองปี หลังจากที่ตนซื้อสโมสรแมนฯซิตี้แล้ว ตนก็นึกถึงมูลนิธิและอยากให้ทั้งสองอย่างนี้ทำงานร่วมกัน  ตนก็คิดถึงเยาวชนไทยที่มีใจรักกีฬา เพราะกีฬาคือหัวใจสำคัญของสุขภาพกายและจิต เมื่อเราอยู่ในการแข่งขัน การเคารพกฎกติกา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยคือสิ่งสำคัญและเป็นหัวใจของทุกด้าน กีฬาจึงเป็นสิ่งปลูกฝังที่ดีที่สุด เพราะทำให้คนเป็นคนดี มีวินัย ทำงานเป็นทีมได้


 


พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตนและครอบครัวที่ตั้งมูลนิธินี้ก็เพราะด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จมาเปิดสถานีไทยคม  และสมเด็จพระเทพพระรัตราชสุดาฯ เสด็จทอดพระเนตรการปล่อยดาวเทียมไทยคม1 ที่เฟรนซ์เกียนาฯ และมูลนิธิก็ได้ทำงานการกุศลครั้งแรกคือการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมเพื่อเยาวชนและพยายามทำทุกอย่างด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และจะทำทุกอย่างถวายเจ้านายทุกพระองค์ และมูลนิธินี้จะช่วยงานสาธารณกุศาลให้สังคมไทยในทุกด้านต่อไป


 


พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตอนที่ตนอยู่อังกฤษได้ไปอิมพีเรียลคอลเลจและพบศาตราจารย์คนหนึ่งที่เก่งด้านสื่อสารโทรคมนาคม ที่ทำไมโครชิพไปฝังหลังหูเพื่อให้คนหูหนวกได้ยิน และยังช่วยคนตาบอดมองเห็นได้โดยทำเรตินาเทียม  ตนจึงเชิญมาบรรรยายในไทยเพื่อช่วยเหลือคนไทย ฉะนั้นการเดินทางไปต่างประเทศหากไปเชฉยมันก็ไม่ได้อะไร แต่หากไปเรียนรู้และเห็นอะไรมากมายนั้นมันจะเป็นประโยชน์ เพราะโลกข้างหน้าแข่งขันด้วยปัญญาที่ต้องกล้าคิดกล้าทำกล้าแสดงออกตนขอให้เยาวชนที่ไม่ได้ไปแมนฯ ซิตี้เอาประสบการณ์ตรงนี้ไปใช้ในการดำรงชีวิต เพราะเรามีประสบการณ์แล้วก็ได้เปรียบคนอื่น เพราะประสบการณ์ทุกอย่าง ไม่ว่าโง่ ฉลาด ดี เลว มันให้ประโยชน์กับตัวเราในการพัฒนาตัวเอง เพราะปัญญาต้องสู้ด้วยปัญญา


 


 






เศรษฐกิจ


 


รัฐทุ่ม 800 ล้านให้โรงจำนำช่วงเปิดเทอม


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 30 มี.ค.51 นายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ได้กำชับให้สถานธนานุเคราะห์หรือโรงรับจำนำ ลดภาระผู้ปกครองที่ใช้บริการโรงจำนำในช่วงเปิดภาคเรียน โดยเน้นกลุ่มคนรากหญ้าเป็นพิเศษ ซึ่งการปรับขยายวงเงินรับจำนำครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ไปใช้บริการไม่ต่ำกว่า 4 แสนคน


 


สำหรับคณะกรรมการสถานธนานุเคราะห์ ได้มีมติขยายวงเงินรับจำนำให้สูงขึ้นเป็นเวลา 3 เดือน โดยใช้งบ 800 ล้านบาท ขยายวงเงินใหม่จากเดิม 1- 3,000 บาท เป็น 1-5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน 3,000-10,000 บาท เป็น 5,000-10,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1 และ 10,000 - 50,000 บาท เป็น 10,000-60,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 โดยให้ขยายไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2551 มีผลวันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป


 


เมินอาร์เอสเก็บลิขสิทธิ์บอลยูโรดูจากมาเลย์ได้


เว็บไซต์คมชัดลึก - หลังจากที่บริษัทอาร์เอสโปรโมชั่นได้ออกมาเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์จากผู้ประกอบการทั้งสถานบันเทิง ร้านอาหาร ที่มีการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2008 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 7-29 มิถุนายน 25510 จนส่งผลให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค


 


เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวล่าสุด  นายสรจักร  จูทอง  กรรมการสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาและในฐานะอดีตนายกสมาคมธุรกิจบันเทิงจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า  การเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ของบริษัทอาร์เอสดังกล่าวนั้น นับว่าเป็นการค้ากำไรเกินควร  ซึ่งอยากให้มีการทบทวนถึงผลกระทบในภาพลักษณ์การทำธุรกิจ เพราะเชื่อว่าเป็นการทำลายฐานลูกค้าของตนเองที่มีอยู่ทั่วประเทศ


 


ทั้งนี้ในปัจจุบันทางเลือกการรับสัญญาณการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลต่างๆ ตลอดจนฟุตบอลยูโร 2008 นับว่า มีหลายช่องทางที่ประชาชนสามารถเลือกชมได้ ทั้งจากสถานีเคเบิลท้องถิ่น ทรูวิชั่น  ยูบีซี  ซึ่งในบางพื้นที่ของ จ.สงขลา อย่าง อ.สะเดา และ บางจุดของ อ.หาดใหญ่ ก็สามารถรับสัญญาณโทรทัศน์จากประเทศมาเลเซียได้


 


"การเรียกเก็บลิขสิทธิ์ในส่วนดังกล่าว ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.สงขลา เท่าใดนัก เนื่องจากช่องทางการรับสัญญาณ มีให้เลือกหลายช่องทาง ที่สำคัญในส่วนของการรับสัญญาณจากประเทศมาเลเซีย ก็นับว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่ผู้ประกอบการสามารถเปิดให้ลูกค้าชมได้ เนื่องจากบางจุดของ จ.สงขลา โดยเฉพาะผับ ร้านอาหาร บริเวณตะเข็บชายแดนสามารถรับสัญญาณจากประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี"  นายสรจักร  กล่าว


 


 






คุณภาพชีวิต


 


ราชินีทรงห่วงผลจาก "ไฟป่า" และหมอกควัน


เดลินิวส์ - ที่สโมสรค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มี.ค. พล.ท.สำเริง ศิวาดำรงค์ แม่ทัพภาคที่ 3 (มทภ.3) เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมการป้องกันไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ โดยมีนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ประธานชมรมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลระดับจังหวัด และผู้บังคับหน่วยทหาร ในเขตพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เข้าร่วมในการประชุมกว่า 100 คน


 


พล.ท.สำเริง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์ไฟป่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรง เพราะสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้ผลัดใบจึงจัดประชุมขึ้นเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบสถานการณ์ไฟป่าที่ผ่านมา, แนวโน้มสถาน การณ์ไฟป่าในห้วงต่อไป, การปฏิบัติงานที่ผ่านมา รวมถึงความต้องการของทุกจังหวัดใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน แต่ที่สำคัญสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยสุขภาพของประชาชนในเขตพื้นที่ภาคเหนือเรื่องหมอกควันและไฟป่า โดยให้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดให้หมด ตนจึงเห็นว่ากำลังเจ้าหน้าที่ทหารนั้นมีกำลังและอุปกรณ์ที่เพียงพอสามารถเข้าไปช่วยเหลือ ในเรื่องของไฟป่า เรื่องของการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือเพื่อวางแนวทางในการปฏิบัติ


 


"ขณะนี้จะให้ทางจังหวัด อบจ. อบต. เทศบาล ออกเทศบัญญัติเรื่องของการเผา ไม่ว่าจะเผาป่า เผาขยะ ไม่ว่าจะในพื้นที่ซึ่งเป็นบ้านของตนเอง หรือในพื้นที่อื่นใดก็ตามหากพบว่ามีการเผาก็ให้ทำการจับกุมทันที เพราะถือว่าทำลายสุขภาพชีวิตของประชาชนรอบข้างและทั่วไป นอกจากนั้นก็จะมีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ลาดตระเวนในพื้นที่ซึ่งเป็นทหารที่ออกตรวจตามตะเข็บชายแดน ตามเส้นทางต่าง ๆ ที่เป็นเส้นทางยาเสพติด การปลูกฝิ่น ให้รับหน้าที่เพิ่มอีกอย่างคือเป็นหน่วยดับไฟป่าไปด้วย หากพบว่าเกิดไฟป่าก็ให้เข้าควบคุมและรายงานสถานการณ์ให้ทราบทันที หากพบผู้ที่กำลังเผาป่าไม่ว่าจะเผาเพื่อล่าสัตว์ เผาเพื่อทำการเกษตร เผาเพื่อให้ได้เห็ดก็ตามถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดให้จับกุมทันที และให้ทำการบล็อกป่าไม้ที่สำคัญไม่ให้มีใครเข้าไปบุกรุกไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้เป็นป่าปิด" พล.ท.สำเริง กล่าว


 


พล.ท.สำเริง กล่าวด้วยว่า เราไม่ได้ห้ามหรือขัดขวางไม่ให้มีการปลูกพืชไร่ แต่ท่านต้องไม่ทำการเผาอย่างเด็ดขาด ท่านจะต้องทำเป็นปุ๋ยหรือไม่ก็ฝังกลบเท่านั้น เพราะทุกวันนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ค่อยอยากเดินทางมาภาคเหนือแล้วเพราะเขาห่วงเรื่องสุขภาพ ถึงแม้จะมีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามก็ตาม แต่หากเจอปัญหาเรื่องสุขภาพก็ไม่มีใครอยากจะมา จึงต้องช่วยกันขจัดปัญหาหมอกควันและการเผาป่าให้หมดไป ซึ่งภารกิจนี้ถึงแม้ไม่ใช่ภารกิจของทหารโดยตรง แต่ไม่ว่าเป็นภัยพิบัติอะไรก็ตามทางทหารยินดีเข้าไปช่วยเหลือเสมอ


 


ด้านนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รอง ผวจ. เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศให้พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ควบคุมไฟป่าแล้ว โดยในปีนี้เกิดขึ้นมาแค่ 2 วันเท่านั้น และก็ไม่เกิดขึ้นมาอีก เพราะหลายฝ่ายมีการช่วยกันรณรงค์และป้องกันอย่างหนัก นอกจากนี้ก็มีการจัดทำสื่อสปอตวิทยุพื้นบ้าน 5 ภาษา เป็นภาษาคำเมือง ปะกากะญอ ม้ง ลีซอ และมูเซอ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจถึงปัญหา หลังจากที่ทำสื่อออกไปก็ทำให้สภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่ปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีการประชุมและหารือกันตลอด จึงอยากให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมั่นใจว่าปีนี้อากาศเชียงใหม่จะดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน


 


วันเดียวกัน ดร.พิเชษฐ์ หวังเทพ  อนุเคราะห์ โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากสถาน การณ์ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือที่พบในขณะนี้กระทรวงฯ ได้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุด้วยการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม NOAA-18 เปรียบ เทียบจุด Hotspot หรือจุดความร้อนที่วัดได้จากภาพถ่ายดาวเทียมจนพบว่าในช่วงระหว่างวันที่ 20-23 มี.ค. มีจุดความร้อนเพิ่มในพื้นที่ภาคเหนืออย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งการเพิ่มจุดความร้อนดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มของการเผาในที่โล่งทางภาคเหนือของประเทศไทย คาดว่าเป็นสาเหตุหลักของการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่ที่น่าสนใจ พบว่าในวันที่ 25 มี.ค. ที่ประเทศพม่ามีจุดความร้อน 70 จุด แต่พอในวันที่ 26 มี.ค. กลับสูงขึ้นเป็น 251 จุด ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน วัดจากสถานี รร.ยุพราช จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน มีค่าสูงถึง 115.3 และ 104.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ ถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ


 


กาชาดไม่รับเลือด "ชายรักชาย" เสียเวลาคัดแยกเชื้อเอชไอวี


เว็บไซต์แนวหน้า - เมื่อวันที่ 30 มี.ค. พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า หลังจากสภาการชาดไทยตรวจพบเลือดที่ได้การบริจาคว่า มีการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มสูงขึ้น จนต้องคัดแยกเลือดทิ้งวันละหลายยูนิตเพื่อความปลอดภัย ดังนั้น สภากาชาดไทยจึงจำเป็นต้องยืนยันที่จะปฏิเสธการรับเลือดบริจาคจากผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศและผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายในประเทศที่มีการระบาดของโรคเอดส์สูง โดยคณะอนุกรรมการวิชาการของสภากาชาดไทย มีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะไม่ตัดข้อสอบถามในใบสมัครผู้บริจาคโลหิตข้อ12 ที่ระบุว่า ท่าน หรือคู่ของท่านมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันใช่หรือไม่ออกไป ตามที่องค์กรเครือข่ายอัตลักษณ์ทางเพศร้องเรียนว่าเป็นการจำกัดสิทธิของกลุ่มเพศที่3 นอกจากนี้ ยังเพิ่มข้อความใหม่ในข้อที่11 ของเอกสารดังกล่าว ด้วยว่า ท่านหรือคู่ของท่าน ทั้งชายและหญิงมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศกับผู้อื่นใช่หรือไม่ รวมทั้งยังเพิ่มข้อความในข้อที่12 ใหม่ เป็น ท่าน หรือคู่ของท่าน ทั้งชายและหญิงมีเพศสัมพันธ์กับเพศชายด้วยกันใช่หรือไม่อีกด้วย


 


พญ.สร้อยสอางค์ กล่าวต่อว่า ข้อสรุปดังกล่าวจะนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการสภากาชาดไทยชุดใหญ่อีกครั้ง ซึ่งในที่ประชุมคณะอนุกรรมการมีข้อถกเถียงในรายละเอียดเรื่องถ้อยคำบางส่วนที่อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ข้อความในข้อที่ 12 เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับเพศชายด้วยกันนั้น จะเป็นการตอกย้ำกลุ่มชายรักชายหรือไม่ ซึ่งในที่ประชุมใหญ่ก็อาจหารือกันอีกครั้ง แต่คาดว่าคงจะใช้ตามที่คณะอนุกรรมการเสนอ


 


"ในแต่ละวันมีการคัดเลือดจากผู้บริจาคทิ้ง เนื่องจากพบว่าเลือดดังกล่าวมีเชื้อเอชไอวีอยู่ หลังจากนั้นจะเชิญผู้บริจาคมาสอบถามสาเหตุ ซึ่งมีทั้งหญิงและชาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย และเมื่อสอบถามถึงพฤติกรรมเชิงลึกพบว่า ชายเหล่านั้นเป็นกลุ่มรักร่วมเพศโดยไม่เปิดเผยและได้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันโรค ดังนั้น ถ้ามีบุคคลที่เป็นตุ๊ด แต๋ว หรือชายแต่งหญิงมาบริจาคโลหิตคงต้องคัดผู้บริจาคเหล่านี้ วันนี้ต้องถามสังคมและโยนความรับผิดชอบให้กับผู้บริจาคโลหิตทุกคนที่ต้องการจะมาทำบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันว่า เลือดในตัวคุณเองมีคุณภาพมากเพียงใด และการอยากทำบุญเหมือนกับใส่บาตรกับพระสงฆ์ ก็ต้องทำอาหารที่ดี ชั้นเลิศถวายพระ กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน จำเป็นต้องถามตัวเองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ซ้ำร้ายบางคนยังคิดว่าจะมาบริจาคเลือดเพื่อถือโอกาสตรวจร่างกาย ตรวจเลือดตัวเองเป็นเรื่องหลักและการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เป็นเรื่องรองด้วยซ้ำ ซึ่งความเชื่อผิดๆ เหล่านี้เกิดขึ้นแล้วในสังคมไทย"พญ.สร้อยสอางค์ กล่าว


 


ด้าน นายนที ธีระโรจนพงษ์ ผอ.กลุ่มเกย์การเมืองไทย กล่าวว่า ยอมรับว่าปัจจุบันความเสี่ยงในกาติดเชื้อเอชไอวีของกลุ่มเกย์สูงจริง โดยเฉพาะบรรดาเกย์ที่นิยมไปใช้บริการเซาน่าเกย์ ซึ่งในอดีตจะคัดกรองลูกค้า แต่ปัจจุบันปรากฏว่า ซาวน่าเกย์เปิดกันอย่างโจ๋งครึ่ม ตามย่านต่างๆ ใน กทม. เช่น คลองตัน งามดูพลี ไปจนถึงบนตึกต่างๆ ย่านถนนสีลม โดยส่วนใหญ่จะบรรยากาศเย้ายวนต่อการมีเพศสัมพันธ์ เช่น ไปสลัว ทำห้องมืดๆ เช่น ห้องอบไอน้ำ หรือแม้แต่ห้องเวิร์ก ซึ่งจัดเพื่อการมีเพศสัมพันธ์โดยตรง


 


นายนที กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดเผยตัวเลขการทำสำรวจการติดเชื้อเอดส์ในกลุ่มชายรักชายว่ามีอัตราเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะมีการติดเชื้อในเซาน่าที่ให้บริการเฉพาะกลุ่มชาวเกย์ โดยเฉพาะใน กทม.มีการติดเชื้อเอชไอวีสูงถึง 28% ขณะที่ทั่วประเทศมีอัตราการติดเชื้อเฉลี่ยประมาณ17% ทำให้เกิดความระแวงต่อกลุ่มเกย์ และชายรักชายที่ไม่ใช่กะเทย โดยทางสภากาชาดไทยได้ออกประกาศงดรับการบริจาคโลหิตจากผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ซึ่งบรรดาเครือข่ายองค์กรเกย์ได้มีการหารือกับทางสภากาชาดไทยแล้วก็ได้รับการยืนยันว่าสภากาชาดไทยจำเป็นต้องมีมาตรการในการคัดกรองโลหิตที่มีความปลอดภัยให้แก่ผู้รับบริจาค และกลุ่มเกย์ กะเทยที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศก็เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ทางสภากาชาดไทยคงต้องขอปฏิเสธที่จะรับบริจาคเลือด


 


 






วิทยาการ


 


ทร.สร้างลำแรกของไทย ยานใต้น้ำ


เว็บไซต์มติชน - พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีปฐมฤกษ์สร้างยานใต้น้ำขนาดเล็ก ที่บริษัท อู่กรุงเทพฯ จำกัด เมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยยานใต้น้ำดังกล่าว สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ (สวพ.ทร.) ได้ว่าจ้างให้บริษัทอู่กรุงเทพฯ จำกัด จัดสร้างเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งการจ้างสร้างยานใต้น้ำขนาดเล็กนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยและพัฒนาที่ สวพ.ทร. เป็นหน่วยเจ้าของโครงการ มี พล.ร.ต.พงศ์สรร ถวิลประวัติ เป็นนายทหารโครงการ ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  กระทรวงกลาโหม จำนวน 24,953,200 บาท และจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 5 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ระหว่างปี 2549-2552


 


พล.ร.ต.พงศ์สรรกล่าวว่า ที่ผ่านมากองทัพเรือเคยมีเรือดำน้ำเข้าประจำการประมาณ 70 ปีที่ผ่านมา จำนวน 4 ลำ แต่ได้ปลดระวางไปตามวาระ กองทัพเรือจึงมีแนวคิดที่จะวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับยานใต้น้ำกลับคืนขึ้นมาอีกครั้ง โดยมอบหมายให้ สวพ.ทร.เป็นผู้ดำเนินการวิจัย และนำเสนอให้สำนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม ให้ความเห็นชอบ โดยโครงการวิจัยยานใต้นำขนาดเล็กเริ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2548 ซึ่งประโยชน์ที่ได้ คือการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของยานใต้น้ำขึ้นในประเทศไทย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทางด้านกิจการพลเรือนการทหาร เช่น การสำรวจแหล่งทรัพยากรใต้น้ำ การสำรวจวิจัยพื้นผิวท้องทะเล ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สนับสนุนการตรวจซ่อมโครงสร้างใต้ทะเล เช่น ฐานแท่นขุดเจาะ ท่อใต้ทะเล และสายเคเบิลใต้น้ำ


 


พล.ร.ต.พงศ์สรรกล่าวว่า โครงการแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะที่หนึ่ง ศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับขีดความสามารถของยานใต้น้ำเบื้องต้น ค้นหาข้อมูลเพื่อเสนองบฯในการสร้างยานใต้น้ำ ส่วนระยะที่ 2 ซึ่งเป็นระยะปัจจุบัน เมื่อผ่านการดำเนินการระยะที่ 1 ทำให้คณะวิจัยมั่นใจว่า สามารถสร้างยานใต้น้ำขึ้นในประเทศไทยได้เอง จึงได้มีการออกแบบ ถ่ายโอนเทคโนโลยีที่จำเป็นจากต่างประเทศในส่วนที่ต้องการความปลอดภัยสูงและที่จำเป็นต่อการสร้างยานใต้น้ำ เพื่อนำไปสู่การสร้างยานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดคือ 4 ปี


 


"คณะวิจัยกำหนดขนาดมิติและขีดความสามารถของยานใต้น้ำ ดังนี้ ขนาดความยาว 11 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.8 เมตร ระวางน้ำประมาณ 27 ตัน ส่วนขีดความสามารถ สามารถปฏิบัติการที่น้ำลึกไม่เกิน 50 เมตร ระยะเวลาปฏิบัติการใต้น้ำ 3-5 ชั่วโมง ความเร็ว 5 น็อต บรรจุลูกเรือได้ 3 คน ทั้งนี้ ยานใต้น้ำเป็นการออกแบบเพื่อประยุกต์ใช้กับภารกิจอื่น" พล.ร.ต.พงศ์สรรกล่าว


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงกลาโหมอนุมัติให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเรือดำน้ำขนาดเล็กในประเทศ เมื่อปี 2547 และโครงการวิจัยยานใต้น้ำขนาดเล็กนี้เป็นขั้นที่ 2 ในการต่อยอดองค์ความรู้ โดยกำหนดวัตถุประสงค์การสร้างต้นแบบยานใต้น้ำขนาดเล็ก ระวางขับน้ำประมาณ 27 ตัน ในประเทศไทย ผลจากการวิจัยนี้จะทำให้กองทัพเรือมียานใต้น้ำขนาดเล็กสำหรับใช้ในการฝึกหัดกำลังพลในการสร้างความคุ้นเคยกับการปฏิบัติการใต้น้ำใช้ดัดแปลงในการทำภารกิจต่างๆ ทั้งทางยุทธการ การหาข่าว การสำรวจใต้น้ำ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังเป็นการพัฒนาการต่อเรือในประเทศให้มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีจากการวิจัยนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับกองทัพเรือและประเทศชาติ


 


ทั้งนี้ เมื่อ 70 ปีที่ผ่านมากองทัพเรือเคยมีเรือดำน้ำประจำการ จำนวน 4 ลำ คือเรือดำน้ำมัจฉานุ เรือดำน้ำพลายชุมพล เรือดำน้ำสุดสาคร และเรือดำน้ำวิรุณ ซึ่งเป็นเรือที่ซื้อมาจากประเทศญี่ปุ่น แต่ต้องยุติการใช้งานและปลดประจำการหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ที่ประเทศญี่ปุ่นแพ้สงคราม ทำให้ถูกสั่งห้ามผลิตอะไหล่ เป็นเหตุให้กองทัพเรือไม่ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีจนต้องปลดประจำการไป


 


 






ต่างประเทศ


 


มหาธีร์ควันออกหู สส.ดัทช์โพสต์หนังต้านอิสลามลงเน็ต


แนวหน้า - สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซีย รายงานว่า ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวอย่างโกรธแค้น กรณีนายกีต วิลเดอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายขวาของเนเธอร์แลนด์ ที่เผยแพร่ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาต่อต้านศาสนาอิสลามลงอินเตอร์เน็ต โดยระบุว่าเป็นผลมาจากความเข้าใจที่ผิดพลาดต่อศาสนาอิสลาม และเชื่อว่าน่าจะมีมูลเหตุทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง อดีตผู้นำมาเลเซียยังเรียกร้องให้ชาวมุสลิมเป็นเอกภาพ เพื่อง่ายต่อการใช้มาตรการตอบโต้ เพราะหากชาวมุสลิมทั่วโลกที่มีอยู่ราว 1,300 ล้านคนมีความเป็นเอกภาพร่วมกันคว่ำบาตรสินค้าจากเนเธอร์แลนด์ ก็จะเป็นการลงโทษที่มีประสิทธิภาพมาก


 


สำหรับภาพยนต์เรื่อง "ฟิตน่า" ซึ่งบรรยายการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรง โดยเชื่อมโยงกับบทบัญญัติในคัมภีร์อัล-กุรอาน ได้ถูกนำมาลงไว้ในเว็บไซต์ liveleak.com เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศมาเลเซียออกแถลงการณ์กล่าวประณามนายวิลเดอร์ ผู้สร้างภาพยนต์เรื่องนี้ว่า การแสดงภาพของศาสนาอิสลามสนับสนุนพวกสุดโต่ง ไม่แต่เพียงเป็นความเข้าใจผิด แต่ยังเป็นการไม่ให้ความเคารพต่อศาสนาอิสลามและความอ่อนไหวของโลกมุสลิม ด้านนายหว่อง กัน เส็ง รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวประณามภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยชี้ว่าเป็นการละเมิดชาวมุสลิม และว่าการให้เสรีภาพการแสดงออก ไม่ได้หมายความว่าเป็นการอนุญาตให้ดูถูกดูแคลนศาสนาหรือเชื้อชาติของผู้อื่น ซึ่งเขาเชื่อมั่นว่า ชาวสิงคโปร์จะแสดงออกต่อภาพยนต์เรื่องนี้อย่างมีเหตุผล ส่วนนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติประสานเสียงกับชาติมุสลิมแสดงความไม่พอใจต่อภาพยนต์ดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการละเมิด ในขณะที่อิหร่าน บังกลาเทศและอินโดนีเซีย ไม่อนุญาตให้นำภาพยนต์เรื่องนี้เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์เด็ดขาด

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net