Skip to main content
sharethis

วานนี้ (30 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป.ในฐานะผู้ประสานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ ประธานชมรมชุมชนสันติอโศก ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณี น.ส.พนมธรรม นาวาบุญนิยม อายุ 39 ปี พร้อมด้วยสมาชิกกองทัพธรรมประมาณ 10 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม หลังถูกกลุ่มคนร้ายขว้างปาก้อนหิน ขวด ภาชนะบรรจุน้ำปัสสาวะใส่จนได้รับบาดเจ็บขณะเดินทางกลับจากการร่วมงานสัมมนา "ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ" ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เมื่อคืนวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา


 


 


ให้เวลาตำรวจหาคนทำร้ายพันธมิตร 10 วัน ไม่เช่นนั้นจะลงมือสอบสวนเอง


นายสุริยะใส กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากลุ่มคนที่มาชุมนุมต่อต้านพันธมิตรฯ ที่หน้า มธ. เป็นมวลชนของกลุ่ม นปก. กลุ่มมหาประชาชนเพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตย และกลุ่มคนรักทักษิณ ถูกจัดตั้งให้มาก่อความวุ่นวายเป็นการเฉพาะ แม้ก่อนหน้านี้แกนนำจะปฏิเสธไม่จัดชุมนุมก็ตาม แต่หลังฉากกลับจัดตั้งคนออกมาก่อความวุ่นวาย ไร้แกนนำ หลอกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในขณะเดียวกันคำสั่งของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ไม่มีความหมายอีกต่อไปเพราะคนในพรรคไม่ให้ความสำคัญ ชี้ให้เห็นว่าหัวหน้าพรรคเป็นเพียงนอมินีไม่ใช่ผู้มีอำนาจสูงสุดตัวจริง


 


นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า การลอบทำร้ายสมาชิกมูลนิธิกองทัพธรรม มวลชนของพันธมิตรฯ นั้นได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ชนะสงคราม เราจะให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 10 วัน หากไม่มีความคืบหน้าจะไปทวงถามความจริงที่ สน.ชนะสงคราม และพันธมิตรฯ อาจต้องลงมือสอบสวนและหาตัวคนผิดเอง เพราะจากพยานหลักฐานและกล้องบันทึกวีดีโอของเจ้าหน้าที่ได้บันทึกกลุ่มคนที่มาก่อความวุ่นวายตลอดเวลา จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะนำสืบและสอบสวนขยายผลว่าใครเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายสมาชิกมูลนิธิกองทัพธรรมครั้งนี้จนได้รับบาดเจ็บหลายคน


 


"พันธมิตรฯยั่งยึดมั่นการเคลื่อนไหวในแนวทางสันติวิธีและจะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ซึ่งเชื่อว่าการก่อกวนของกลุ่มดังกล่าวจะยังคงมีต่อไปจึงมีความจำเป็นที่พันธมิตรฯ จะต้องสร้างมาตรการป้องกันการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ในครั้งต่อๆ ไปด้วย" นายสุริยะใส กล่าว


 


 


ยันเคลื่อนไหวค้านแก้ รธน.แน่


นายสุริยะใส กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ครั้งที่ 1 ว่า ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดมีผู้เข้าร่วมกว่า 15,000 คน จนล้นหอประชุมใหญ่ มธ.จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ราวๆ 5,000 คน แม้จะถูกสกัดกั้นทุกวิถีทางทั้งการข่มขู่ การจัดม็อบมาป่วน สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปอยู่ระหว่างการหารือของแกนนำ


 


"พันธมิตรฯ ยังจะเดินสายจัดรายการสัมมนาประชาชนในจังหวัดต่างๆ ต่อไป โดยขณะนี้มีหลายจังหวัดทั้งทางภาคเหนือ อีสาน ใต้ และภาคตะวันออก ได้แจ้งความจำนงขอเป็นเจ้าภาพมาแล้ว ส่วนการเคลื่อนไหวในส่วนกลางนั้นจะต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดให้กับคนในรัฐบาลนั้นจะมีการเคลื่อนไหวทันที ซึ่งพันธมิตรฯ เชื่อว่ารัฐบาลจะรวบรัดตัดตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 237 ในช่วงเดือนเมษายนนี้ พันธมิตรฯก็จะเคลื่อนไหวคัดค้านทันที ถ้าญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดเข้าสภาฯ" นายสุริยะใส กล่าว


 


นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีที่มีการปล่อยข่าวการปฏิวัติของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีด้วยว่า เท่าที่ทราบเป็นข้อมูลที่ปั้นเรื่องมาจากคนในพรรคพลังประชาชน (พปช.) เอง โดยหวังผล 2 ทาง คือ หวังสกัดและทำลายความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ และหวังทำลายเสถียรภาพของการนำของนายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะนายกรัฐมนตรี


 


"ผมอยากเตือนนายสมัครว่า ต้องระมัดระวัง เพราะท่านเป็นนายกรัฐมนตี ไม่ใช่อธิบดีกรมปั้นน้ำเป็นตัว ข่าวสารหรือข้อมูลที่เข้ามาต้องมีการกลั่นกรองและคิดให้มากก่อนพูด เพราะอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ส่วนเรื่องการปฏิวัตินั้นเงื่อนไขมาจากการบริหารงานของรัฐบาลเป็นสำคัญ หากลุแก่อำนาจ ทุจริตคอรัปชั่น และใช้อำนาจไม่มีธรรมาภิบาล เหมือนในสมัยรัฐบาลทักษิณ การรัฐประหารก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน แม้ประชาชนจะไม่เห็นด้วย แต่ทหารก็คงไม่มาขออนุญาตประชาชนเพื่อทำรัฐประหาร" นายสุริยะใส กล่าว


 


 


เชิญ "ประชา" จัดสัมมนา แต่ขอร้องอย่าปากว่าตาขยิบ


นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ระบุว่ากลุ่มมหาประชาชนเพื่อพิทักษ์ประชาธิปไตยจะจัดงานสัมมนารัฐธรรมนูญเพื่อให้ความรู้ประชาชนที่ มธ.ด้วยว่า เชิญเลย อยากให้นายประชา ทำอะไรก็ได้ที่เป็นสาระให้ประชาชนมีความรู้ เป็น ส.ส.ทำอะไรดี ดีให้ประชาชน ถ้าจะให้ดีให้เดินสายไปให้ความรู้กับประชาชนในต่างจังหวัดด้วย นายประชา คงหางบจัดสัมมนาได้ไม่ยาก หาจากพรรคพลังประชาชนก็ได้


 


"คุณประชา จะจัดกิจกรรมอะไร เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่อย่าใช้วิธีการปากว่าตาขยิบแล้วกัน เหมือนอย่างบอกว่าจะไม่ให้ผู้ชุมนุมเผชิญหน้ากับพันธมิตรฯ แต่ก็ไปเกณฑ์คนมาชุมนุมเผชิญหน้ากัน เชื่อว่าเบื้อหลังกลุ่มผู้ชุมนุมต้องเป็นคนไม่ธรรมดาแน่นอน และการที่นายกฯ และนายจักรภพ เพ็ญแขรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่รู้ไม่เห็นนั้น เป็นไปไม่ได้" นายสุริยะใส กล่าว


 


ขณะเดียวกันก็ขอเรียกร้องให้สภาฯเร่งประกาศแต่งตั้งกรรมาธิการประจำสภาโดยเร็ว เพราะในขณะนี้รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้วกว่า 2 เดือน แต่ยังไม่มีกรรมาธิการ ทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถถ่วงดุลตรวจสอบรัฐบาลหรือฝ่ายบริหารได้อย่างเต็มที่ การแต่งตั้งกรรมาธิการล่าช้านั้น เกิดจากเกมการเมืองในพรรคพลังประชาชนพรรคแกนนำ


 


"รัฐบาลที่ใช้ตำแหน่งกรรมาธิการต่อรองทางการเมืองและจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว จนนายสุขุมพงษ์ โง่นคำ รองประธานวิปรัฐบาลต้องประกาศลาออก เพราะทนแรงกดดันในพรรคไม่ไหว การแต่งตั้งกรรมาธิการล่าช้ายังส่งผลให้ประชาชนทั่วไปเสียประโยชน์ เพราะช่องทางร้องเรียนของประชาชนต่อสภาผู้แทนราษฎรไม่มีและไม่ทำงาน อาจส่งผลให้ฝ่ายบริหารใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจและกระทบต่อประชาชนได้ในที่สุด" นายสุริยะใส กล่าว


 


ที่มา: เรียบเรียงจากผู้จัดการออนไลน์

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net