Skip to main content
sharethis

บรรยากาศ "งานรำลึกวันชาติมอญ ครั้งที่ 61" ในวันที่ 3 ก.พ. ณ วัดบ้านไร่เจิรญผล จังหวัดสมุทรสาคร คลายความตึงเครียด หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าหน้าที่รัฐราว 300 -400 นาย รับคำสั่งจาก นายวีรยุทธ เอี่ยมอำภา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปวัดบ้านไร่เจริญผลตั้งแต่ช่วงเช้าโดยระบุว่ามาดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากหวั่นเกรงมีเหตุการณ์ที่กระทบกับความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้ยังมีการตั้งด่านตรวจรอบทางเข้าวัดอีกหลายจุดซึ่งได้สนธิกำลังจากหลายหน่วยมาจับตางานนี้ จนทำให้งานวันรำลึกวันชาติมอญวันแรกเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด


 


อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็น พ.ต.ท.ชาติชาย นาถึง ผู้กำกับ สภ.อ.โคกขาม และ พ.อ.จักราวุธ สินพูลผล หัวหน้าส่วนติดตามสถานการณ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ( กอ.รมน.) จังหวัดสมุทรสาคร ได้มาพบกับพระสุทัศน์ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ฯและเจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้ได้ตกลงว่าจะเจ้าหน้าที่จะถอนด่านตรวจและให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลภายในเพียง 3-4 คนเท่านั้น


 


ทำให้บรรยากาศงานในวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งเป็นวันทำบุญรำลึกถึงบรรพบุรษชาวมอญ และอุทิศส่วนกุศลถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มีผู้มาร่วมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีชาวไทยเชื้อสายมอญ จากพื้นที่อื่นๆมาร่วม เช่น ปทุมธานี ลพบุรี อยุธยา ราชบุรี นครปฐม เป็นต้น รวมแล้วประมาณกว่า 500 คน


 


อย่างไรก็ตาม สำหรับแรงงานต่างด้าวเชื้อสายมอญที่มีจำนวนมากในจังหวัดสมุทรสาครซึ่งคาดว่าจะเข้ามาร่วมงานด้วย เพราะกลุ่มแรงงานเชื้อสายมอญชอบทำบุญและยึดถือประเพณีวัฒนธรรมมอญเป็นเรื่องปกติ งานนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าแทบจะไม่ได้มาร่วมงานเลย เพราะมีเสียงพูดกันภายในงานว่าเมื่อวันที่ 2 ก.พ. มีแรงงานต่างด้าวทั้งที่มีบัตรและแรงงานที่ไม่บัตรถูกตรวจและจับกุมอย่างน้อย 2 ราย


 


สำหรับก่อนเริ่มพิธีการการเปิดงานอย่างเป็นทางการ และการทำบุญตามกำหนดการ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เข้ามาหารือกับนางเตือนใจ กุญชร ณ อยุธยา ดีเทศน์ ประธานเปิดงานรำลึกวันชาติมอญ ครั้งที่ 61 ที่วัดบ้านไร่ฯ และรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน


 


หลังการหารือ นางเตือนใจ กล่าวกับ "ประชาไท" ว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครชี้แจงสาเหตุที่ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากมาดูแลเข้มงวดเมื่อวานนี้ เพราะทางผู้ว่าราชการจังหวัดมอบให้ทาง กอ.รมน. เป็นผู้ดูแล แต่ข้อมูลที่ฝ่ายความมั่นคงให้แก่ทางจังหวัดนั้นเป็นข้อมูลเก่า ซึ่งคาดการณ์ว่าวันงานจะมีคนมานับหมื่นคน จะมีการชักธงชาติมอญ และติดธงชาติมอญรอบวัด ซึ่งถ้าไทยยอมเกรงว่าประเทศเพื่อนบ้านจะไม่พอใจเพราะอาจเข้าใจว่ารัฐไทยสนับสนุนให้มอญมีเอกราช แต่ทางผู้จัดก็เรียนให้ทราบว่ามีการประสานงานไปที่ พ.อ.จักราวุธ เพื่ออธิบายให้เข้าใจว่าเป็นงานวัฒนธรรมตั้งแต่ก่อนจัดงานแล้ว และในเมื่อวานนี้ พ.อ.จักราวุธก็มาเห็นกับตาด้วยตนเองซึ่งไม่มีเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ทางผู้จัดจึงถามว่าทำไมเรื่องที่ทำให้ชาวบ้านกังวลใจจึงเกิดขึ้น


 


นางเตือนใจ ให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการยืนยันว่าการข่าวในบ้านเราต้องปรับปรุง เพราะการข่าวที่ผิดพลาดจะทำให้แนวทางสมานฉันท์มีปัญหา ก่อนส่งกำลังเจ้าหน้าที่ลงมาควรมีการตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อน และควรมีวิธีการจัดการที่นุ่มนวลในประเด็นอ่อนไหวแบบนี้


 


"ชาวบ้านบอกว่าไม่สบายใจและเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น จะนำเรื่องนี้เข้าไปคุยใน กรรมธิการวุฒิสภาที่ทำงานเรื่องชาติพันธุ์" นางเตือนใจ ระบุบ


 


พร้อมอธิบายต่อว่า ถ้ามองจากจุดยืนของยูเนสโกจะพบว่า ให้ความสำคัญกับภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งสนับสนุนให้อนุรักษ์ภาษาที่มีในโลก คาดว่าน่าจะมีกว่า 20,000 ภาษา ดังนั้น ต้องเข้าใจว่าละเลยการใช้ภาษาแม่ไม่ได้ ในสมุทรสาครมีแรงงานมอญกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ต้องให้เขาใช้ภาษามอญเป็นภาษาแม่ก่อนแล้วค่อยให้เรียนภาษาไทยควบกันไป เพื่อทำให้ผู้ที่เข้ามาอยู่รวมด้วยได้มีส่วนร่วม นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้ตั้งด่านเพื่อเก็บเงินจากแรงงานข้ามชาติ ซึ่งหากเก็บเงินเพื่อเอาเงินเข้ารัฐนั้น ชาวบ้านบอกว่าจะไม่ว่าอะไรแต่ถ้านำเข้าตัวเจ้าหน้าที่เองเป็นเรื่องที่รับไม่ได้


 


สำหรับแนวทางแก้ไข นางเตือนใจเสนอว่า ต้องแยกคนมอญต่างด้าวออกจากคนมอญที่อยู่ในไทยดั้งเดิม แต่ต้องมีมุมมองต่อแรงงานต่างด้าวในแง่ดี เช่น ถ้าไม่มีคนกลุ่มนี้ เศรษฐกิจประมงก็จะเสีย เพราะเป็นงานที่คนไทยไม่ค่อยทำ ต้องใช้หลักมนุษยธรรมมองควบคู่กันไป ในประเด็นที่เกรงว่าแรงงานข้ามชาติจะเข้ามีทีละครอบครัวก็ต้องไปแก้ที่การเข้ามา เพราะมีปัญฆาเรื่องการลักลอบนำเข้าที่เป็นการค้ามนุษย์ด้วย เช่น นำคนซ่อนไว้ในรถใต้กองผัก  มีหลายคนเสียชีวิตจากกรณีแบบนี้ ต้องยกเรื่องใต้ดินให้มาอยู่บนดิน


 


ทั้งนี้ ปัจจุบันที่ยังแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวไม่ได้ไม่ใช่เพราะกฎหมายไม่ดี แต่เป็นเพราะการจัดระบบไม่เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าการทุจริตมีมากจะแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องหันหน้าเขาหากัน รู้ปัญหาแล้วนำมาแก้ไข


 


สำหับสิ่งที่เกิดขึ้นในงานนี้ ทางรองผู้ว่าฯได้ขอให้ นายองค์ บรรจุน ประธานชมรมเยาวชนมอญ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการจัดงานทำรายงานเสนอ เพื่อจะได้นำไปแก้ไขในระดับจังหวัด และอาจเป็นแบบอย่างให้ที่อื่นนำไปแก้ไขปัญหาลักษณะเดียวกัน


 


ด้าน นางสุนี ไชยรส คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หลังได้รับรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ จึงเดินทางมาร่วมงานในวันที่ 3 ก.พ.ด้วย โดยระบุว่า จะเชิญฝ่ายความมั่นคงมาที่คณะกรรมการสิทธิฯเพื่อแลกเปลี่ยนหารือถึงแนวทางปฏิบัติ กรณีนี้เป็นความต่อเนื่องมาจากคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด แม้จะเป็นการบอกว่าทำเพื่อปราม แต่จากคำสั่งนี้นำมาซึ่งมติของ กอ.รมน.และเกิดผลกระทบจนชาวบ้านไม่กล้าที่จะเข้ามาร่วมงานบุญและงานแสดงทางวัฒนธรรมมอญที่วัดบ้านไร่ฯ ทั้งที่บริเวณนี้ก็เป็นชุมชนมอญ ผลที่เกิดอาจจะส่งผลให้มีความกลัวต่อเนื่องไปถึงงานฝังลูกนิมิตรของวัดที่จะมีขึ้นใน วันที่ 7 ก.พ. ด้วย


 


"แม้แต่แรงงานข้ามชาติที่ขึ้นทะเบียนแล้วก็ควรได้รับโอกาสเรียนรู้ผูกพัน แต่งานนี้พบว่าเขากลัว เขาไม่กล้ามา การที่เจ้าหน้าที่มากันมากมายในวันแรกทำให้คนกลัว ไม่กล้าเข้ามาร่วมงาน" นางสุนีย์ กล่าว


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net