Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา 10.00 . ณ ที่ว่าการอำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านเครือข่ายชุมชนอุบลราชธานีที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไร้สิทธิในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมาขอพบนายอำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยนายศักดิ์สิทธิ์ บุญญะบาล แกนนำเครือข่ายชุมชนอุบลราชธานี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า


 


"สาเหตุที่ชาวบ้านต้องเดินทางมาพบนายอำเภอในวันนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2550 ได้มีจดหมายจากสำนักงานที่ดินจังหวัดแจ้งให้ชาวบ้านทราบว่าทางสำนักงานที่ดินฯ จะส่งเจ้าหน้าที่มารังวัดที่ดินบ้านปลาดุกเพื่อออกหนังสือที่หลวง หรือ นสล. ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2550 โดยอ้างว่าเป็นการดำเนินการตามที่ทางอำเภอเมืองร้องขอไปยังสำนักงานที่ดินฯ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความกังขาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมากว่าเหตุใดจึงได้นัดหมายในเวลาดังกล่าว เพราะเป็นเวลาเดียวกับที่ชาวบ้านต้องเข้าเจรจาหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับพลเอกนิพนธ์ ศิริพร หัวหน้า สำนักนายกรัฐมนตรีที่เดินทางมาติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดิน นอกจากนี้กลุ่มผู้เดือดร้อนยังมาเพื่อร้องขอให้ทางอำเภอได้แก้ไขปัญหากรณีองค์การบริหารส่วนตำบลกุดลาดไม่ยอมลงนามอนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการประปาเข้าไปติดตั้งระบบสาธารณูปโภคในชุมชนอีกด้วย"


 


หลังจากที่ชาวบ้านนั่งรอประมาณ 30 นาที นายสว่าง ฉวีวรรณ นายอำเภอเมืองอุบลราชธานี ได้ลงมาพบและชี้แจงกับชาวบ้านว่า "จดหมายนัดรังวัดที่ดินบ้านปลาดุกเพื่อออก นสล. ที่ออกโดยสำนักงานที่ดินนั้นเป็นการนัดหมายตามแผนงานเดิมที่เคยพูดคุยไว้กับนายอำเภอคนเก่าซึ่งได้ย้ายออกไปแล้ว มิได้เป็นการนัดหมายโดยตนแต่อย่างใด ซึ่งทางอำเภอจะประสานงานไปยังสำนักงานที่ดินเพื่อขอเลื่อนกำหนดการการรังวัดที่ดินออกไป ส่วนกรณีที่องค์การส่วนบริหารตำบลกุดลาดคัดค้านเรื่องการติดตั้งสาธารณูปโภค น้ำ-ไฟ นั้น ทางอำเภอไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายอำนาจการบริหารงานได้มากนักเนื่องจาก อบต. มีสถานะเป็นนิติบุคคลที่มีอำนาจในการตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง แต่ทางอำเภอจะเชิญนายก อบต. กุดลาดมาร่วมพูดคุยเพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าว"


 


หลังจากเจรจากับนายอำเภอเมืองจนได้ผลที่น่าพอใจแล้ว วันรุ่งขึ้น 21 พ.ย. 50 ทางกลุ่มผู้เดือดร้อนได้เดินทางไปปักหลักยังศาลากลางจังหวัดเพื่อร่วมประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินกับ พล.อ.นิพนธ์ ศิริพร หัวหน้า สำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้มีการนัดหมายกับชาวบ้านไว้เมื่อครั้งเดินทางเข้าไปพบที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2550 ที่ผ่านมา


 


โดยนายศักดิ์สิทธิ์ บุญญะบาล แกนนำเครือข่ายชุมชนเมืองอุบลราชธานี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านที่ประสบปัญหาเรื่องสิทธิในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยได้รวมตัวกันเพื่อรอเข้าพบกับ พล.อ.นิพนธ์มาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยการเข้าพบครั้งนี้ทางกลุ่มได้มีข้อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาสิทธิในที่ดินทำกินให้ชาวบ้านโดยเร็วที่สุด โดยแบ่งปัญหาออกเป็น 5 กรณี ได้แก่ กรณีที่ต้องเช่าพื้นที่ ได้แก่ ชุมชนวังทอง และชุมชนคุรุมิตร กรณีกลุ่มพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) ได้แก่ ชุมชนสะพานใหม่ ชุมชนหาดวัดใต้ และชุมชนศรีประดู่ กรณีกลุ่มปัญหาที่ทางสำนักงานที่ดินรังวัดที่หลวงทับซ้อนที่อยู่อาศัย ได้แก่ ชุมชนสี่แยกบายพาสกุดลาดและบ้านปลาดุก กรณีกลุ่มปัญหานายทุนออกโฉนดทับที่ชาวบ้าน ได้แก่ ตำบลบุ่งหวายและหนองกินเพล กรณีการออกโฉนดตกค้าง รวมทั้งกรณีที่ทาง อบต.กุดลาดแจ้งดำเนินคดีกับชาวบ้านในข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ชาวบ้านรอได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ชาวบ้านเดินทางไปเข้าพบพล.อ.นิพนธ์ที่ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มลฑลทหารบกที่ 22 ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.วารินชำราบ สร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้านที่ยืนกรานว่าจะรอพบ พล.อ.นิพนธ์ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเท่านั้น และได้นั่งรอที่หน้าศาลากลางจังหวัดต่อไป จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.20 น. พล.อ.นิพนธ์ จึงได้เดินทางมาพบกลุ่มผู้เดือดร้อนที่ศาลากลางจังหวัดและเชิญแกนนำชาวบ้านเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมมิตรไมตรี 2


 


หลังจากใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง การประชุมจึงเสร็จสิ้นลง โดยนายศักดิ์สิทธิ์ บุญญะบาล แกนนำเครือข่ายชุมชนเมืองอุบลราชธานีกล่าวถึงผลการประชุมว่า จากการประชุมทำให้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าการดำเนินงานแก้ไขปัญหากรณีตำบลบุ่งหวายและหนองกินเพลนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอเวลาดำเนินการอีก 1 เดือน ในส่วนของกรณีที่ของชุมชนที่เข้าสู่การพิจารณาของ กบร. ชุมชนกุดลาด และบ้านปลาดุกซึ่งต้องรอผลการอ่านภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2550


 


ในส่วนกรณีที่ อบต. กุดลาดได้แจ้งดำเนินคดีชาวบ้านในข้อบุกรุกที่สาธารณะนั้นได้มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินคดีไว้ก่อน และกรณีชุมชนที่ต้องติดต่อขอเช่าที่นั้นทางนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้รับเป็นตัวกลางในการเจรจา รวมทั้งจะจัดให้มีการประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเป็นระยะๆ


 


ด้านนางสาวสุปราณี ทับสกุล ชาวบ้านบ้านปลาดุกได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่าในเบื้องต้นรู้สึกพอใจกับข้อสรุป แต่คงต้องติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาต่อไปเป็นระยะๆ เพื่อให้เกิดการดำเนินงานแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมทั้งยังต้องรอว่าผลสุดท้ายแล้วการแก้ปัญหาจะได้ข้อสรุปอย่างไร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net