Skip to main content
sharethis





การเมือง


 


"สนธิ" ขอประสานคตส. ปัดไม่คุยรถหุ้มเกราะยูเครน


โลกวันนี้ - พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แถลงภายหลังเข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) วันนี้ (22 ต.ค.) เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ว่าเป็นการเดินทางมาเยี่ยมหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้น และที่ผ่านมาเคยพบกัน 1-2 ครั้งแล้ว แต่วันนี้มาในฐานะรองนายกรัฐมนตรี เพื่อสอบถามถึงปัญหาการทำงานและมายืนยันว่ายังทำงานด้วยกันอยู่ทั้งรัฐบาลและ คตส. ซึ่งได้อาสากับ คตส. ว่าหากมีปัญหาอะไรในการทำงานก็พร้อมที่จะเป็นตัวกลางประสานเพื่อให้การทำงานสะดวกมากขึ้น ส่วนกรณีที่มีการฟ้องกรรมการใน คตส. หลายคดีก็ไม่น่ากังวลเพราะทุกคนเป็นนักกฎหมาย จึงทราบดีว่าการฟ้องดังกล่าวเป็นอย่างไร


 


"มาประสานงานกับ คตส. ว่าจะให้รัฐบาลเป็นตัวช่วยอย่างไรได้บ้าง ซึ่งหน่วยงานที่ไม่ให้ความร่วมมือถือเป็นปัญหาเก่า เพราะขณะนี้ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี วันนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรที่เป็นอุปสรรค"


 


พล.อ.สนธิยังกล่าวถึงภาพรวมการทำงานของ คตส. ว่าเป็นองค์กรอิสระเดียวที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จัดตั้งขึ้นและทำงานได้ผลที่สุด ส่วนที่มีความล่าช้าบ้างถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงานตามกฎหมาย หากรีบอาจเกิดความไม่ถูกต้อง ให้ทำช้าแต่รอบคอบดีกว่า ซึ่งขณะนี้ คตส. ได้พิจารณาคดีต่างๆ 13-15 คดี ถือว่ามาก และตนก็พอใจในทุกเรื่องที่มีผลปรากฏชัดเจน


 


ต่อข้อถามว่าได้มีการพูดถึงการจัดซื้อรถหุ้มเกราะจากยูเครนหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่าไม่ได้มีการพูดคุยกัน เรื่องดังกล่าวถือว่าทหารทำถูกต้องแล้ว แต่ที่มีปัญหาถือเป็นธรรมชาติที่ผู้เสียประโยชน์จะมีการร้องเรียน หากกองทัพบกทำถูกต้องตามขั้นตอนก็ไม่ต้องกังวล เพราะปัญหาความมั่นคงของชาติจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้ รถถังคันละ 25 ล้านบาท จะบอกว่าแพงเกินเหตุได้อย่างไร ถ้าซื้อในยุโรปจะมีราคาถึงคันละ 80-90 ล้านบาท


 


สำหรับกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าเป็นการจัดซื้อรถเก่านำมาทำใหม่นั้น พล.อ.สนธิกล่าวว่าไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากที่มีการตัดสินใจสั่งซื้อได้ให้นายทหารไปดูแล้วว่ามีโรงงานและมีพนักงานเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ซึ่งหากใครสงสัยสามารถไปขอดูภาพถ่ายได้ที่กองทัพบก


 


"ประชัย" ยันไม่รวมพรรคชี้ตัวใครตัวมัน


ไทยรัฐ - เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่อาคารทีพีไอ ถนนสาทร นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงกรณีการควบรวมพรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคประชาราชและพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่เกิดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม ที่บ้านในซอย ราชครูของพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีว่า พรรคมัชฌิมาธิปไตยเป็นพรรคสายกลาง ใครมีเรื่องเดือดร้อนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ ในช่วงคืนวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม ตนได้พูดคุยกับผู้มาร่วมประชุมบางคนถึงเรื่องทิศทางทางการเมืองเรื่องการเดินสายกลาง และอยากหาข้อสรุป จึงนัดพูดคุยกันอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะมีการแถลงร่วมกันอีกครั้งเมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้น อาจจะเป็นรัฐบาลผสม แต่จะมีพรรคไหนบ้าง สื่อมวลชนคงรู้ หลังจากเห็นภาพการเจรจากันที่ออกมาผ่านสื่อโทรทัศน์ ซึ่งเผยแพร่ ภาพอย่างชัดเจน แต่หนทางที่ดีที่สุดของทุกพรรคในขณะนี้คือต่างคนต่างเดิน ใครอยากมาเป็นสมาชิกก็พร้อมอ้าแขนรับเข้าพรรคสำหรับทุกคนเป็นมิตรกับเรา และวันนี้ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเรียกสื่อมวลชนไป เพราะตนไม่ได้เป็นผู้เรียก ไม่รู้ว่าข่าวรั่วไปได้อย่างไร


 


นายประชัยกล่าวต่อว่า ไม่เคยฝันเห็น พล.อ.ชาติชาย เพราะเวลานอนก็จะหลับไปเลย ส่วนที่นายกรบอกว่าตนฝันว่า พล.อ.ชาติชายมาเรียกประชุมนั้น นายกรอาจจะมีมุกตลกอะไรของท่าน จริงๆวันนั้นเป็นการสังสรรค์พูดคุยกันธรรมดาเท่านั้น เราไม่ชอบการจัดฉากและไม่รู้ว่าใครจัด ตอนแรกจะเป็นการคุยกันภายใน ไม่มีใครไปไม่มีใครมาทั้งนั้น และหลังจากนั้นพรรคใครพรรคเขา เรามัชฌิมาเป็นทางสายกลาง


 


ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวนายทหารบางคนจะเข้าร่วมพรรคมัชฌิมาธิปไตย รวมทั้ง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม นายประชัยตอบว่า พล.อ.สพรั่งยังเป็นข้าราชการประจำอยู่ แต่เมื่อเกษียณอายุราชการเราก็ยินดีต้อนรับเข้ามาร่วมงาน เพราะ พล.อ.สพรั่งเป็นคนดี


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายประชัยกำลังแถลงข่าวอยู่นั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา รวมทั้งอดีต ส.ส.กลุ่มมัชฌิมา ได้มานั่งฟังการแถลงข่าวร่วมกับผู้สื่อข่าวตลอดเวลา โดยนายสมศักดิ์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เพียงแต่ระบุสั้นๆว่า เหตุการณ์ในวันที่มีประชุมที่บ้านราชครู ได้รับโทรศัพท์ให้เข้ามาร่วมหารือ ขณะที่อยู่จังหวัดสุโขทัย และยังไม่ทราบว่าทั้งหมดมีการพูดคุยอะไรกันไว้ก่อนหน้า แต่เมื่อมาถึงก็เห็นผู้สื่อข่าวอยู่เป็นจำนวนมากก็ตกใจ และสุดท้ายก็วงแตก เหมือนคนแอบเล่นการพนัน พอตำรวจจับได้ต่างก็ปฏิเสธว่าใครเป็นเจ้ามือ เพราะผู้ที่เป็นเจ้ามือมีโทษตามกฎหมายหนักที่สุด



"สดศรี"แจ้งความท่อเหล็กตกใส่หน้า


มติชน - วานนี้ (22 ต.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านพรรคการเมือง เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ระหว่างไหว้ศาลพระภูมิภายในบ้านพัก ได้มีท่อเหล็กขนาด 6 เมตร ตกเข้าไปในบ้านพักเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุธรรมดา เพราะเป็นการขว้างลักษณะจงใจ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องการเมือง จากกลุ่มที่เสียประโยชน์ในการพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่เปลี่ยนจากการจ้างบริษัทเอกชนมาเป็นโรงพิมพ์ของรัฐแทน โดยได้แจ้ง กกต.คนอื่นๆ ทราบแล้ว และมีความเป็นไปได้ว่าจะขอให้ตำรวจมาอารักขาความปลอดภัยให้กับ กกต.เป็นรายบุคคล


 


นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะเป็นอุบัติเหตุ หรือตกลงมาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ แต่เชื่อว่าจะไม่มีการข่มขู่คุกคาม กกต. เพราะเราทำหน้าที่ตรงไปตรงมา และไม่จำเป็นต้องจัดระบบเรื่องรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสดศรีได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ตลาดพลู เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและสันนิษฐานว่า นอกจากประสงค์จะทำร้ายนางสดศรีแล้ว ในบริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้างอาคารสูงอยู่ เป็นไปได้ว่าเป็นแค่อุบัติเหตุจากการก่อสร้างอาคารดังกล่าว


 


กกต.ห้ามผู้สมัครสส.ใช้เงินเกิน1.5ล้าน


โพสต์ทูเดย์ —นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขา ธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าววานนี้ (22 ต.ค.) ว่า ที่ประชุม กกต.ได้มีมติในเรื่องค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร ส.ส.โดยกำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายหาเสียงในแบบแบ่งเขต ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายของผู้สมัครในระบบสัดส่วนไม่เกิน 1.5 ล้านบาทคูณจำนวนคนที่ส่งสมัคร


 


นอกจากนี้ กกต.ได้กำหนดให้มีเงินค่าใช้จ่ายกลางของพรรคไม่เกิน 20% ของค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ในแบบสัดส่วน


 


สำหรับขนาดของป้ายหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ในแบบเขต กำหนดให้ป้ายขนาดประกาศ (โปสเตอร์) 12 คูณ 16.5 นิ้ว หรือขนาด เอ3 ไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง ขนาดคัตเอาต์ขนาด 1.3 เมตรคูณ 2.45 เมตร ให้ติดจำนวน 5 เท่าต่อหน่วยเลือกตั้ง


 


ส่วนการจัดหาเสียงติดป้ายในรถหาเสียงเคลื่อนที่สามารถทำได้โดยให้คำนวณเป็นค่าใช้จ่าย รวมทั้งการหาเสียงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต สติกเกอร์ หรือหนังสือพิมพ์สามารถทำได้แต่ให้คำนวณเป็นค่าใช้จ่าย


 


อย่างไรก็ตาม ในกรณีการจัดแห่ผู้สมัครหรือการจัดกลองยาวมาสนับสนุนผู้สมัครในวันสมัครจะมีการหารืออีกครั้งในวันที่ 24 ต.ค. จะสรุปอีกครั้ง


 


นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต.จะสามารถเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบสัดส่วนได้วันที่ 7-11 พ.ย. และ ส.ส.เขต วันที่ 12-16 พ.ย.


 


ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งจะมีผลบังคับใช้ วันที่ 24 ต.ค. เมื่อมีผลบังคับใช้กฎหมายการเลือกตั้งทั้ง 3 ฉบับก็จะมีผลบังคับใช้เช่นกัน ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมากที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจ


 


ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง กล่าวว่า เรื่องการซื้อตัว ส.ส. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) น่าจะต้องไปหาข้อมูลรายละเอียด รวมทั้งการเปิดรับข้อมูลจากพรรคการเมือง ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายตรวจสอบข้อมูล ไม่ใช่คณะกรรมการ แต่ก็จะช่วย กกต.อีกทางหนึ่ง


 


"บุญรอด"หาโอกาสเตือน"บรรณวิทย์"


พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีพล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม เข้าไปมีส่วนร่วมกับการรวมพรรคการเมือง ว่า กำลังเร่งให้มีการตรวจสอบ กรณีผิดวินัยทางทหารอยู่ ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าแม้จะไม่ใช่ความผิดชัดเจน แต่ถือว่าไม่เหมาะสมและต้องหาโอกาสเรียกตักเตือน แต่ในช่วงนี้ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ อยู่ในระหว่างลาหยุด แต่อย่างไรก็ตาม ตามหลักวินัยทางทหาร ต้องลาออกจากราชการก่อนลงเล่นการเมือง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหนังสือลาออก แต่เชื่อว่ามีแนวโน้มสูง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า พล.ร.อ.บรรณวิทย์ จะไม่ชักชวนให้ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ลาออกด้วย เพราะ 2 คนนี้มีบุคลิกที่แตกต่างกัน


 


พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชนระบุว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ( คมช.) จะให้เงินอุดหนุนกับพรรคการเมืองนั้น ตนไม่เชื่อ  จนกว่าจะได้เห็นด้วยตัวเอง โดยเชื่อว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ฝ่ายตรงข้ามจะจ้องจับผิด โดยจะขอดูข้อเท็จจริงอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังคงเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งตามที่ทุกฝ่ายต้องการ พร้อมมั่นใจพื้นที่ที่ยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกจะไม่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง เพราะเหตุผลที่ยังไม่มีการยกเลิกเป็นเพราะเป็นพื้นที่ชายแดน ซึ่งมีภัยคุกคามตามปกติและจำเป็นต้องใช้กำลังทหารในการควบคุม


 


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังระบุถึงการจัดซื้อรถหุ้มเกราะจากประเทศยูเครน ว่า พร้อมจะชี้แจงให้ต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เพื่อไม่ให้ สตง.ติดใจ ก่อนจะลงนามให้จัดซื้อ


 


"สุรยุทธ์"สั่งสมช.เลิกอัยการศึกเพิ่ม


เว็บไซต์มติชน - เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติในหลักการที่จะยกเลิกกฎอัยการศึกเพิ่มเติมตามที่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ แต่ให้ไปพิจารณารายอำเภอเพิ่มเติมแล้วเสนอมายัง ครม.อีกครั้ง ดังนั้น วันนี้ประกาศกฎอัยการศึก ยังคงไว้เหมือนเดิม ตามที่ได้ประกาศและได้ยกเลิกไปก่อนหน้านี้คือจาก 35 จังหวัด ได้ยกเลิกไป 11 จังหวัด ส่วน 3 จังหวัดที่ประกาศกฎอัยการเพิ่มเติมในการประชุม ครม.ครั้งที่แล้ว ก็ยังเป็นอยู่อย่างเดิม


 


ส่วนสาเหตุที่ ครม.ยังไม่อนุมัติยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก นายไชยากล่าวว่า เพราะนายกฯห่วงในเรื่องสำคัญ คือความมั่นคง การเมืองและยาเสพติด โดยเฉพาะอำเภอเมือง อย่าง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.อ.สุรยุทธ์สั่งการให้ สมช.ไปพิจารณาเพื่อไม่ให้มีความรู้สึกว่า รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง ต้องการสกัดกั้นทางการเมือง ส่วนอำเภอต่างๆ ที่เหลือก็ให้ สมช.ไปพิจารณาทบทวนในอำเภอที่ไม่ติดชายแดน โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง สมช.จะนำมาเสนอที่ประชุม ครม.ใหม่ในสัปดาห์หน้า


 


"พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวย้ำว่า หากจะบอกว่า เน้นในเรื่องความมั่นคงและยาเสพติดด้วย ก็น่าจะมีการประกาศกฎอัยการศึกในอีก 3-4 จังหวัด เช่น กทม. นนทบุรี ปทุมธานีและนครปฐมด้วย ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ปรารภถึงความห่วงใยว่าพื้นที่เหล่านี้ น่าจะมีมากที่สุด จึงให้ สมช.กลับไปทบทวนใหม่ ซึ่งเป็นการอุปมาอุปไมย แต่ไม่ใช่การสั่งการให้ สมช.ไปพิจารณา" นายไชยากล่าว


 


พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ได้ให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมไปว่า ในพื้นที่บางจังหวัด ที่มีการประกาศกฎอัยการศึกเต็มจังหวัดนั้น ขอให้ สมช.ทบทวน โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณแนวชายแดน และบางอำเภอที่อาจจะมีความจำเป็น รวมทั้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความจำเป็นที่ต้องใช้กฎอัยการศึกอยู่ โดยพิจารณาถึงปัญหาจะเป็นปัญหายาเสพติด ผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และนำเสนอมาอีกครั้งในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้า


 


'สนธิ'แจงคงกฏอัยการศึกบางพื้นที่ ไม่กระทบภาพพจน์ประเทศ


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - ขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณายกเลิกการประกาศกฎอัยการศึก โดยพิจารณาเป็นรายอำเภอ เพื่อให้คงเหลือกฎอัยการศึกน้อยและจำเป็นที่สุด


 


เมื่อถามว่ายังคงเหลือกฎอัยการศึกกี่จังหวัด พล.อ.สนธิ กล่าวว่า การพิจารณาครั้งนี้ลดลงมาจำนวนมาก อำเภอใดในจังหวัดใดที่ไม่จำเป็นก็จะตัดออก


 


เมื่อถามว่า จะทำให้ฝ่ายการเมืองลดความระแวง และอึดอัดลงได้หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ความจริงได้พยายามอธิบายมาตลอดว่าอย่าเอาความมั่นคง และการเมืองไปปนกัน ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความยุ่งยาก


 


เมื่อถามว่า การที่ไทยยังคงกฎอัยการศึกไว้ในช่วงเลือกตั้ง จะทำให้ต่างชาติมองภาพพจน์ของประเทศไทยไม่ดีได้ พล.อ.สนธิ กล่าวปฏิเสธว่า คงไม่ใช่เช่นนั้น เพราะวัฒนธรรมบ้านเราเป็นอย่างนี้ เราต้องเอาความมั่นคงและผลประโยชน์ของประเทศชาติไว้ก่อน


 


ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์ และแก้ปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง ที่เป็นประธาน ก็จะดำเนินการไปชี้แจงประเด็นเหล่านี้ในบางส่วน


 


 






เศรษฐกิจ


 


ครม.ไฟเขียวกู้จีน ดอกเบี้ยปีละ 3%


เว็บไซต์มติชน - นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2550 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติร่างกรอบความตกลงทั่วไประหว่างกระทรวงการคลังไทยกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีนว่าด้วยวงเงินกู้ไม่เกิน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ


 


สำหรับสาระสำคัญของร่างดังกล่าว ประกอบด้วย รัฐบาลจีนเสนอให้ Preferential Export Buyer Credits แก่รัฐบาลไทยผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน (China Exim Bank) เพื่อสนับสนุนการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์จากจีนตามโครงการลงทุนขนาดใหญ่ สัดส่วนสินค้าจากจีนจะไม่น้อยกว่า 50% ของโครงการที่ได้รับความเห็นชอบทั้งสองประเทศ และจะพิจารณาการใช้เงินกู้เป็นรายโครงการ ดังนั้น จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะใช้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงหรือไม่ "ทางจีนจะคิดอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ระยะเงินกู้ 15 ปี ปลอดหนี้ 5 ปี ค่าธรรมเนียมเงินกู้ 0.5% ต่อปีของวงเงินที่ได้เบิกจ่าย และค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.5% ของเงินกู้ ทั้งนี้ ไทยจะต้องจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้งในวันที่ 21 มกราคม และ 21 กรกฎาคมของทุกปี ซึ่งการทำสัญญาครั้งนี้ ครม. มอบหมายให้กระทรวงการคลังหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามกับธนาคารของจีนต่อไป" นายโชติชัยกล่าว


 


ผุดรถไฟรางคู่ 2 หมื่นล้านเล็งใช้เงินกองทุนน้ำมัน


โพสต์ทูเดย์ - นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติโครงการนำร่องการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งสินค้าและบริการ ตามที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เสนอ 2 เส้นทาง คือ การก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางขอนแก่น- นครราชสีมา-ท่าเรือแหลมฉบัง และเส้นทาง นครสวรรค์-ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเป็นต้นแบบในการสนับสนุนให้มีการขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ทางรถไฟ โดยมีการรวบรวมและกระจายสินค้าที่ย่านกองเก็บตู้สินค้าในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยลดเวลาและต้นทุนการขนส่ง


 


นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม กล่าวว่า โครงการนำร่องดังกล่าวอาจใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยสิ้นเดือน ต.ค.นี้ นาย ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน และนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง จะหารือในรายละเอียดถึงหลักเกณฑ์การกู้เงิน โดยกำหนดกรอบการกู้เงินไว้ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท


 


ส่วนระยะเวลาของการกู้เงิน นั้น ต้องการให้อยู่ในช่วงเวลา 3-5 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวง


 


คลังเจ้าภาพหากู้ให้แอร์พอร์ตลิ้งสุวรรณภูมิ


บ้านเมือง - นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้องโครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรถไฟ เชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link Project) หรือ แอร์พอร์ตลิงค์ว่า ที่ประชุมในวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาได้นำมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาหารือกัน โดยเฉพาะเรื่องของเงินกู้จำนวน 9,900 ล้านบาท


 


ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชอบผิดชอบแหล่งเงินกู้ ส่วนเรื่องของกรอบระยะเวลาก่อสร้าง วิธีการจ่ายเงิน การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.นั้น ต้องเร่งหารือกับบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ในฐานะเป็นบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการดังกล่าว ภายใน 2 สัปดาห์จะต้องได้ข้อชัดเจน ส่วนกรณีเงินก่อสร้างจำนวน 18,000 ล้านบาท ขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการจัดหาแหล่งเงินกู้ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังก็เป็นผู้ค้ำประกันแหล่งเงินกู้ด้วย


 


นอกจากนี้ รฟท.จะต้องไปศึกษารายละเอียดถึงแนวทางและรูปแบบการเดินรถ การจัดตั้งบริษัทลูกเกี่ยวกับเพื่อเดินรถว่าจะมีรูปแบบใดในการบริหาร รวมทั้งนี้ให้ทำรายละเอียดจุดเชื่อมอุโมงค์รถไฟฟ้าบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าจะมีการบริหารลักษณะใดแบบกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.และได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข.ให้ดูรายละเอียดจุดต่อเชื่อม ระหว่าง บางซื่อ-สุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ เพราะในอนาคตจุดต่อเชื่อมดังกล่าวจะมีรถไฟฟ้าหลายเส้นทางทำการต่อเชื่อม ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกสบายในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตาม แผนรายละเอียดทั้งหมดที่มอบหมายให้ไปดำเนินการจะต้องแล้วเสร็จนับจากนี้ 1 เดือน


 


ได้เร่งรัดให้ รฟท.ศึกษารายละเอียดรูปแบบเดินรถ การจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถ อุโมงค์จุดเชื่อมรถไฟฟ้าบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่าการเช่าหรือแบบใดกับ ทอท. รวมถึง สนข.ที่ต้องศึกษาจุดเชื่อมต่อระหว่าง บางซื่อ-สุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ เพื่อการรับการขนส่งในอนาคตด้วย ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่ง ทั้งนี้ แผนรายละเอียดทั้งหมด จะต้องได้ความชัดเจนภายใน 1 เดือน นับจากนี้เพื่อจะได้นำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ต่อไป นายสรรเสริญ กล่าว


 


ด้านนายจักรกฤศฐิ์ พาราพันธกุล สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ครม. อนุมัติกรอบข้อตกลงระหว่างกระทรวงการคลัง และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน ในการกู้วงเงินไม่เกิน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ทางจีนกำหนดเงื่อนไจให้กู้เพื่อใช้ในการนำเข้าวัสดุ เครื่องจักร และอุปกรณ์จากจีน มูลค่าไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่าโครงการ การกู้เงินจากจีน ครั้งนี้เพื่อไว้รองรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง กรณีที่ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (เจบิค) ไม่ปล่อยกู้ แต่ไทยยังคงรอการพิจารณาเรื่องการปล่อยกู้จากเจบิค ซึ่งยังมีเวลาจนกระทั่งถึงช่วงที่จะเปิดประมูล


 


 






คุณภาพชีวิต


 


เขื่อนดินริมเจ้าพระยาพังน้ำทะลักอ่างทอง


เดลินิวส์ - ด้านสถานการณ์น้ำท่วม จ.อ่างทอง เมื่อวันที่ 22 ต.ค. เขื่อนดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหมู่ 1 ต.ย่านซื่อ อ.เมือง พังทลายเป็นระยะทางกว่า 30 เมตร ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 3 ชาวบ้านต้องเก็บของและหนีตายกันอย่างโกลาหล โดยน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 300 กว่าครัวเรือนทันที ด้านนายศุทธนะ ธีวีระปัญญา ผวจ. อ่างทอง กล่าวว่า จุดดังกล่าวถือว่าสำคัญที่สุด หากน้ำไหลเข้ามาได้ย่านเศรษฐกิจ เทศบาลอ่างทอง หน่วยราชการต้องได้รับความเสียหาย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เร่งซ่อมแซมจุดดังกล่าวแล้ว


 


นายศุทธนะ กล่าวว่า จุดที่พังนั้น เป็นจุดที่แข็งแรง ไม่น่าเชื่อว่าจะพังเพราะแรง น้ำได้ น่าจะมีการกลั่นแกล้งกัน เบื้องต้นทราบว่ามีการพนันเกิดขึ้นในพื้นที่เป็นเงินจำนวนมาก โดยจากการวิเคราะห์แล้วเป็นการพังแบบผิดธรรมชาติมากกว่าพังเอง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พบวัยรุ่นกำลัง ดึงกระสอบทรายบริเวณดังกล่าวอยู่ และได้เรียกวัยรุ่นคนดังกล่าวมาตักเตือนไม่ได้ดำเนินคดีแต่อย่างใด ที่ จ.สิงห์บุรี พบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 3 ซม. ขณะที่ระดับน้ำไหลผ่านจังหวัดสิงห์บุรี 2,627 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ ต.บางน้ำเชียว อ.พรหมบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลตำบลบางน้ำ เชี่ยว ทั้ง 4 หมู่บ้านท่วมทั้งหมด 352 หลังคาเรือน


 


ด้านนางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รอง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ กทม.ว่า ในระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค. จะมีสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะในวันที่ 28 ต.ค. จะมีระดับน้ำขึ้นสูงสุด 1.90 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทาง กทม. ได้ทำการเรียงกระสอบทรายเพื่อกั้นน้ำไว้ที่ความสูง 2.50 เมตร และเสริมสะพานให้สูงขึ้นจากคันกั้นน้ำแล้ว มั่นใจว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อื่น ยกเว้นชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเท่านั้น ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนนอกแนวคันกั้นน้ำให้ย้ายสิ่งของและปลั๊กไฟขึ้นที่สูงเพื่อระมัดระวังการเกิดปัญหาไฟฟ้าช็อต


 


 


กทม.เตรียมศึกษาระบบป้องกันรับมือน้ำท่วม สร้างคันกั้นเป็นระบบปิดล้อมย่อยแต่ละพื้นที่


เดลินิวส์ - นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการแก้ปัญหา    แผนการรับมือปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯในอนาคต เนื่องจากตามที่สถาบันเวิร์ลวอทซ์ ระบุว่าผลการศึกษาที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) จัดทำขึ้น พบว่ากรุงเทพฯเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเสี่ยงต้องเผชิญอันตรายจากน้ำท่วม เนื่องจากภาวะน้ำทะเลสูง ว่า ระดับน้ำทะเลหนุนสูงทำให้กรุงเทพฯได้รับผลกระทบเพราะเป็นพื้นที่บริเวณชายฝั่งนั้น จากผลการศึกษาพบว่าใน 10 ปี จะมีปริมาณน้ำสูงขึ้น 2-3 เซนติเมตร ซึ่งในปัจจุบันไม่น่าจะได้รับผลกระทบ ยกเว้นในช่วงน้ำขึ้น-น้ำลง เท่านั้น ทั้งนี้พื้นที่ กทม.เป็นพื้นที่ต่ำจึงได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งในส่วนนี้อาจจะต้องพิจารณาทำพื้นที่ปิดล้อมย่อยในแต่ละพื้นที่เพื่อเป็นการป้องกันและบังคับน้ำให้ไหลสู่ระบบระบายโดยไม่ให้ไหลเข้าพื้นที่ นอกเหนือจากการสร้างระบบปิดล้อมใหญ่คือการสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ความยาว 76 กม. ซึ่งขณะนี้สร้างเสร็จไปกว่า 50 กม.แล้ว


 


นางบรรณโศภิษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.นั้น ปัจจุบันมีหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯเกิดปัญหาน้ำท่วมทั้งที่ไม่เคยพบปัญหาดังกล่าวมาก่อน เช่น บางพื้นที่ของเขตบางกะปิ เขตวังทองหลาง ซึ่งจากการศึกษาเบื้องต้นของสำนักการระบายน้ำ (สนน.) พบว่าปัญหาน้ำท่วมดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาพื้นที่และการใช้ประโยชน์ของที่ดินเปลี่ยนไป เช่น การถมที่เพื่อสร้างโครงการบ้านจัดสรร การสร้างตึก คอนโด ทำให้น้ำไม่มีที่ระบายออกได้ ก็จะไหลลงมารวมกันในพื้นที่ที่ต่ำกว่า ซึ่งที่ผ่านมา กทม. แก้ไขปัญหาด้วยการเสริมพื้นถนนให้สูงขึ้น เพื่อให้น้ำระบายลงท่อและระบายออกตามระบบ ซึ่งขณะนี้ สนน.ได้เริ่มทำการศึกษาแล้ว คิดว่าการแก้ไขปัญหานั้น เขตควรจะทำคันกั้นน้ำหรือระบบปิดล้อมย่อยในพื้นที่มากกว่าการเสริมถนนอย่างที่ กทม.เคยทำ เพราะการปิดล้อมย่อยจะทำให้น้ำไม่เข้าสู่พื้นที่และไหลลงตามเส้นทางระบายน้ำมากกว่าการยกพื้นถนนที่ไม่มีความแน่นอนว่าน้ำจะไม่ไหลเข้าพื้นที่ต่ำ ซึ่งผลการศึกษาการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ของ สนน.นั้นคาดว่าภายในปีนี้น่าจะแล้วเสร็จและคาดว่าจะนำมาใช้แก้ปัญหาต่อไป


 


นอกจากนี้การแก้ไขปัญหาอีกทางหนึ่ง คือ สำหรับพื้นที่ที่มีการพัฒนาไปแล้ว สำนักผังเมือง (สผม.) กทม.ได้ทำเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย (มท.) เพื่อกำหนดการจัดสรรพื้นที่รับน้ำหรือแก้มลิง ในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งขณะนี้เริ่มมีบางหมู่บ้านดำเนินการไปบ้างแล้ว


 


 






ต่างประเทศ


 


ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์อิหร่านคนใหม่ จะเจรจาครั้งแรก กับ หน.นโยบายตปท.อียู


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายซาอีด จาลิลี ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์อิหร่านคนใหม่ จะเปิดเจรจาเป็นครั้งแรกกับนายฮาเวียร์ โซลานา หัวหน้านโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรป หรืออียู ในวันอังคารนี้ เกี่ยวกับวิกฤตินิวเคลียร์กับชาติตะวันตก นายจาลิลี จะพบปะกับนายโซลานา ที่กรุงโรม ของอิตาลี แต่คาดว่ายังไม่น่าที่จะมีการเสนอประนีประนอมเพื่อแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ยืดเยื้อมาถึง 4 ปี


 


นายจาลิลี เข้ารับตำแหน่งผู้แทนเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน หลังจากนายอาลี ลาริจานี ที่ครองตำแหน่งดังกล่าวมานานถึง 2 ปี ลาออกไปเมื่อวันเสาร์ หลังจากขัดแย้งกับประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด เกี่ยวกับการจัดการปัญหานิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายลาริจานี อาจเข้าร่วมเจรจาที่กรุงโรมด้วย ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้สังเกตการณ์อย่างยิ่ง แต่มีรายงานว่า นายลาริจานี จะยังคงมีที่นั่งในสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดต่อไป ในฐานะผู้แทนของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน


 


อย่างไรก็ตาม อิหร่าน ยืนยันว่า นโยบายนิวเคลียร์ของอิหร่านจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หลังการแต่งตั้งนายจาลิลี ด้านนักวิเคราะห์ชาวตะวันตกเกรงว่า นายจาลิลี อาจยึดมั่นในหลักการ และมีแนวโน้มที่จะไม่ยอมเจรจาใดๆ กับมหาอำนาจตะวันตก


 


ตุรกียืนยันใช้ช่องทางทางการทูตทุกวิธีก่อนที่จะโจมตีกลุ่มกบฏเคิร์ด


กรมประชาสัมพันธ์ - ตุรกียืนยันจะพยายามใช้ช่องทางทางการทูตทุกวิธี   ก่อนที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดในภาคเหนือของอิรัก ซึ่งสังหารทหารตุรกีอย่างน้อย 12 นาย ในการสู้รบเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


 


ตุรกีได้เสริมกำลังตามแนวพรมแดนที่ติดกับอิรักแล้ว เพื่อเตรียมโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดในอิรัก  แต่นายกรัฐมนตรีไตยึบ แอร์ดวน  ของตุรกีระบุว่าเขาจะระงับการโจมตีไว้ก่อน 2 - 3 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้สหรัฐใช้ความพยายามควบคุมกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดก่อน    ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้แสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการโจมตีกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดเพราะจะทำให้ภาคเหนือของอิรักที่ถือว่าสงบสุขที่สุดเกิดความไร้เสถียรภาพและได้แจ้งให้ประธานาธิบดีอับดุลลาห์ กูล ของตุรกีทราบว่า สหรัฐจะเรียกร้องอิรักให้ช่วยจัดการกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดเอง


 


ขณะเดียวกันมีรายงานว่า  นักศึกษาประมาณ 10,000 คน ได้ร่วมกับกลุ่มผู้ต่อต้านกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดได้จัดการชุมนุมในกรุงอังการ่า เมืองหลวงของตุรกีเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการประท้วงใหญ่อีกครั้งหนึ่งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลส่งกองกำลังข้ามพรมแดนเข้าไปปราบปรามกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดทันที

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net