Skip to main content
sharethis


 


 



 


ประชาไท - 8 ส.ค. 50 เวลาประมาณ 10.00น. ผู้ชุมนุมจากคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) และเครือข่ายเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์ ประเทศไทย (FACT) รวมตัวกันที่บริเวณหน้าที่ทำการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักเรื่องผลกระทบจากกฎหมายสื่อที่จะส่งผลต่อสิทธิเสรีภาพของพลเมือง โดยขณะเดียวกันภายในอาคารยูเอ็น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดการสัมมนาเรื่อง "การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และการเตรียมความพร้อมกับกฎหมายใหม่"


 


โดยผู้ชุมนุมถือป้ายผ้าใบสีดำเขียนข้อความ "เสรีภาพในการแสดงออก ไม่ใช่อาชญากรรม" และ "Freedom of Expression is not a crime" พร้อมทั้งนำกระดาษรูปหน้าคนถูกรูดซิปปากมาปิดบริเวณใบหน้า เพื่อสื่อว่า การเก็บข้อมูล instant message หรือ SMS ระหว่างบุคคล ตามมาตรา 26 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.. 2550 ทำให้ประชาชนกำลังถูกรูดซิปปาก ห้ามพูดแม้กระทั่งในพื้นที่ส่วนบุคคล โดยรัฐมีสิทธิขอข้อมูลได้ตลอด ไม่ต่างจากการถูกสอดแนมในชีวิตประจำวัน ทั้งที่เสรีภาพการสื่อสารระหว่างบุคคลไม่ใช่อาชญากรรม นอกจากนี้ยังมีการแจกเอกสารเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.. 2550 ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาด้วย


 



 


นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการ คปส. กล่าวว่า แม้จะแก้ พ.ร.บ.ตัวนี้ไม่ได้แล้ว แต่หากประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้าน รัฐก็อาจใช้อำนาจที่ไม่ชอบได้ลำบากขึ้น การคุ้มครองเสรีภาพส่วนบุคคลกับการป้องปรามอาชญากรรมนั้นต้องพิจารณาว่าจะมีจุดแบ่งอย่างไร โดยต้องการความชัดเจนในการปฎิบัติ การสร้างบรรยากาศแห่งความกลัวเช่นนี้จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ โดยเฉพาะของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง


 


เด็บบี้ ชาน นักศึกษาปริญญาโท โครงการสิทธิมนุษยชนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การเซ็นเซอร์ควรจะมีอย่างจำกัด โดยเห็นว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องควบคุม เพราะเมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าไม่จริงก็พิสูจน์กัน การพยายามกล่าวหาด้วยข้อหาเป็นภัยต่อความั่นคง ทำให้แม้แต่ในอินเตอร์เนตที่น่าจะแสดงความเห็นได้อิสระ กลายเป็นแสดงความเห็นไม่ได้


 


ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะรวมตัวกันบริเวณหน้าที่ทำการองค์การสหประชาชาตินั้น ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งซึ่งเข้าไปด้านในอาคาร ได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขอตรวจป้ายผ้าใบสีดำที่ถือเข้าไป และได้รับแจ้งว่า ไม่อนุญาตให้นำป้ายประท้วงเข้าไปในงาน จึงพากันมาชุมนุมที่ด้านหน้าแทน


 



 



.............................


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


คปส.-FACT ยืนยัน สิทธิเสรีภาพพลเมือง แม้จะเห็นต่าง

เอกสารประกอบ

เอกสารประกอบการรณรงค์ ชำแหละพ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net