ประชาไท - 14 ก.ค. 50 จากกรณีที่บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการวางแนวท่อส่งก๊าซจากโรงแยกก๊าซไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ โดยนำอุปกรณ์ขุดเจาะพร้อมทั้งสารเคมี ไปลงในพื้นที่ของนางเน๊าะ หัดยุมสา ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านป่างาม หมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลานั้น

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 50 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นำโดยนายวสันต์ พาณิช ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำชายฝั่งและแร่ ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยนางสาวส. รัตนมณี พลกล้า นายบรรจง นะแส คณะอนุกรรมการชุดเดียวกัน ได้ลงพื้นที่บ้านป่างาม หมู่ที่3 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิชุมชน และการใช้ความรุนแรงในโครงการวางแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จากโรงแยกก๊าซไทย - มาเลเซีย ไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ ผ่านกลางหมู่บ้านป่างาม ตามหนังสือร้องเรียนของกลุ่มคัดค้านท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซียและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ลงวันที่ 19 มิ.ย.50 มีตัวแทนกลุ่มคัดค้านประมาณ 50 คนให้การต้อนรับ

นางสุไรด๊ะ โต๊ะหลี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวกับคณะอนุกรรมการฯ ว่า ชาวบ้านไม่ยอมรับการวางแนวท่อผ่านหมู่บ้านป่างามที่ดำเนินการโดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เนื่องจากขาดความโปร่งใส และขาดการมีส่วนร่วมจากชาวบ้าน ส่งผลให้มีการละเมิดสิทธิชุมชนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่โครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย - มาเลเซีย มาจนถึงการวางท่อส่งก๊าซไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ ที่ยังคงดำเนินการในรูปแบบเดิม คือ ใช้กำลังตำรวจมาคอยอำนวยความสะดวก

ก่อนหน้านี้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการผิดหลักการศาสนาอิสลามอย่างรุนแรง ด้วยการฮุบที่ดินวะกัฟไปก่อสร้างโรงแยกก๊าซ จนถึงปัจจุบันปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งถือเป็นการย่ำยีหลักการศาสนาอิสลามอย่างรุนแรง  

นางสุไรด๊ะ กล่าวว่า ประเด็นหลักที่ชาวบ้านต้องการร้องเรียน คือ การวางแนวท่อส่งก๊าซผ่านกลางชุมชน ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวั่นวิตกเกรงว่า อาจจะเกิดปัญหาท่อก๊าซรั่วหรือระเบิด และมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เพราะแนวท่ออยู่ใกล้ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน มัสยิด กุโบร์ หวั่นตกกับท่อก๊าซรั่ว ท่อก๊าซระเบิด ทั้งที่สามารถหลีกเลี่ยงไปวางท่อให้ห่างไกลชุมชนได้

"บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คิดอย่างไรถึงได้วางแนวท่อส่งก๊าซใกล้กับมัสยิด ซึ่งเป็นศาสนสถานสำคัญของชุมชนมุสลิม  เพราะเป็นสถานที่ประกอบพิธีละหมาด  การที่พี่น้องมุสลิมต้องละหมาด โดยมีท่อก๊าซอยู่ใกล้ๆ จะทำให้จิตใจของพี่น้องมุสลิมสงบในยามประกอบพิธีกรรมรำลึกถึงพระเจ้าได้อย่างไร" นางสุไรด๊ะ กล่าว

นายรอเฝด หัดยุมสา ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ตำบลตลิ่งชัน กล่าวว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ละเมิดสิทธิชุมชนอย่างรุนแรง ถึงขั้นข่มขู่คุกคามกลุ่มคัดค้านฯ มาตลอด แม้แต่ลูกชายตนอายุไม่ถึงสิบขวบ ยังถูกคนงานข่มขู่จะยิงทิ้ง ห้ามไม่ให้เข้าไปเกะกะบริเวณแนวท่อก๊าซ ทั้งที่ลูกชายตนแค่เดินผ่านไปเลี้ยงวัวเท่านั้น นอกจากนี้ คนงานยังได้ล็อกคอและกระชากแย่งกล้องถ่ายรูป จากมือเยาวชนกลุ่มคัดค้านฯ ที่เข้าไปใกล้บริเวณไซต์งาน พร้อมกับขู่จะฆ่าและทำร้ายร่างกายต่างๆ นานา

นายสอและ ดูหมัน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน จากหมู่ที่ 3 กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการออกมาคัดค้านของชาวบ้าน เพราะบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้สร้างความแตกแยกในชุมชนมุสลิม และละเมิดหลักการศาสนา กรณีเจาะลอดที่ดินเพื่อวางท่อผ่านที่ดินของนางเน๊าะ หัดยุมสา ทั้งที่นางเน๊าะไม่อนุญาต เพราะตามหลักการศาสนาระบุชัดว่า ที่ดินที่เจ้าของไม่ให้ ใบไม้ใบเดียวก็เอาไปไม่ได้ ที่ดินแม้กำมือหนึ่งก็ไม่สามารถเอาไปใช้ได้ จะเดินผ่านก็ยังไม่ได้

"ตามหลักการศาสนาอิสลาม เจ้าของที่ดินมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินถึงเจ็ดชั้นดิน เจ็ดชั้นฟ้า ดังนั้น การที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะเจาะที่ดินโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม จึงเป็นการละเมิดผิดต่อหลักการศาสนา ถือเป็นบาปอย่างยิ่ง" นายสอและ กล่าว

หลังจากรับฟังข้อมูลจากชาวบ้านแล้วเสร็จ นายวสันต์และคณะได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ตั้งแท่นเจาะลอดใต้ดิน เมื่อเข้าไปถึงบริเวณดังกล่าว บรรดาคนงานได้โห่ขับไล่ไม่ยอมให้เข้าไปตรวจสอบ ชาวบ้านจึงนำเดินเลี่ยงไปอีกเส้นทางหนึ่ง เพื่อดูแนวท่อส่งก๊าซ ที่วางขนานกับมัสยิดบ้านป่างาม ปรากฎว่าคนงานชุดดังกล่าว ยังคงตามไปตะโกนโห่ไล่เช่นเดิม

นายวสันต์ กล่าวกับชาวบ้านว่า จะเร่งทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ให้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและนายอำเภอจะนะให้ระงับโครงการไว้ก่อน จนกว่ากระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะแล้วเสร็จ รวมทั้งจะหารือกับประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีอีกทางหนึ่งด้วย