ผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนที่ท้องสนามหลวงเมื่อคืนวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา
(ที่มาของภาพ : คุณมังกรดำ/pantipห้องราชดำเนิน)
ประชาไท, 16 มิ.ย. 50 บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.ปราบกบฏ) วานนี้ (15 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ พ.ต.ท.
แกนนำยันภาพ-เสียงทักษิณมาแน่ 3 ทุ่ม
ส่วนบรรยากาศบนเวที มีนาย
เมื่อเวลา 18.30 น. นาย
สื่อรายงานผู้ชุมนุมไม่ตรงกัน
ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีประชาชนทยอยมาชุมนุมกว่า 20,000 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย
ทั้งนี้สื่อมวลชนต่างรายงานจำนวนตัวเลขผู้ชุมนุมไม่ตรงกัน โดย เว็บไซต์แนวหน้าระบุว่า "ประชาชนหลายพันคน" เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่ามีผู้ชุมนุม "10,000 คน" เว็บไซต์คมชัดลึกรายงานว่าได้มีประชาชนในช่วงฟังเสียงปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ "เกือบสองหมื่นคน" เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่ามีผู้ชุมนุมเมื่อเวลา 21.00 น. "ประมาณ 20,000 คน"
ทักษิณวอนผ่านเทปถูกกลั่นแกล้ง พร้อมสู้ผ่านกระบวนยุติธรรม
โดยในเวลา 21.00 น. ได้มีการเปิดเทปวีซีดีคำปราศรัยของพ.ต.ท.
"เมื่อท่านจัดการผมได้ขนาดนี้ รีบเลือกตั้งเถอะครับ ท่านจะเอาใครเป็นรัฐบาล ถ้าท่านมั่นใจ ก็ให้ประชาชนเขาพิสูจน์ เมื่อประชาชนเลือกแล้ว ก็เป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อตัวแทนประชาชนเข้ามา เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญที่ท่านร่างไม่เป็นประชาธิปไตยเขาก็แก้ไขให้มันเป็นประชาธิปไตย ซึ่งมันเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง"
จตุพรอ้างตัดสินใจใช้เทป เพราะถูกบล็อกสัญญาณ
ต่อมานายจตุพร ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า หลังจากได้มีการประกาศไปเมื่อวานนี้ (14มิ.ย.) ว่า จะมีการถ่ายทอดภาพและเสียงของ พ.ต.ท.
จึงตัดสินใจใช้ ภาพและเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเทปบันทึกภาพที่พีทีวีได้รับจากคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อช่วงเย็น โดยส่งมาทางเครื่องบิน ก่อนตัดสินใจใช้เทปดังกล่าวเนื่องจากถูกรบกวนสัญญาณทั้งวัน ทำให้ไม่สามารถให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โทรศัพท์มาที่สนามหลวง ส่วนการเดินไปที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ในวันที่ 16 มิถุนายนนั้น ยืนยันว่าขณะนี้มติยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะวิเคราะห์สถานการณ์อีกครั้ง เพราะ คมช.จะใช้ความรุนแรง โดยสั่งไม่ให้ข้าราชการทุกกระทรวงมาที่ทำงาน นายจตุพรกล่าว
สำหรับบรรยากาศระหว่างการถ่ายทอดเสียงและภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ เว็บไซต์คมชัดลึกได้ตั้งข้อสังเกตว่า ประชาชนเกือบ 2 หมื่นคน ต่างนิ่งเงียบ โดยบางช่วงของการปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุมต่างตะโกนเสียงไชโยโห่ร้อง และสนับสนุนคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะในช่วงที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ได้กล่าวว่า "พร้อมจะลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อกู้ศักดิ์ศรีและเกียรติยศของตัวเองและครอบครัวให้กลับคืนมา" แต่ในบางช่วงที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ประกาศว่าจะวางมือทางการเมือง ประชาชนที่ชุมนุมแสดงสีหน้าเสียใจเหมือนจะไม่เห็นด้วย
หลังการปราศรัยเสร็จสิ้นผู้ชุมนุมที่ฟังการปราศรัยอยู่ ต่างไชโยโห่ร้อง โดยนาย
ผบช.นครบาลยันคำพูดทักษิณไม่ยั่วยุ
และเมื่อเวลา 21.30 น. พล.ต.ท.
พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า ตนเองมาตรวจตราดูแลความปลอดภัยตามปกติ และให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์โดยทั่วไป สงบ และไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งยังไม่ถึงขั้นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เนื่องจากการประกาศฉุกเฉิน ต้องประกาศใช้ในสถานการณ์ที่ตำรวจไม่สามารถรับมือได้ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปยังไม่ถึงขั้นนั้น ตำรวจเองสามารถดูแลได้อยู่
พล.ต.ท.อดิศร ยังได้กล่าวถึงการปราศรัยของ พ.ต.ท.
ส่วนกระแสข่าวที่กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างจะมีการเคลื่อนไหวนั้น ผบช.น. กล่าวว่า ได้ให้ตำรวจทุกท้องที่ควบคุมดูแลกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างแล้ว ซึ่งก็มีจำนวนไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่เป็นการแจกใบปลิวให้ประชาชนมาฟังการปราศรัยเท่านั้น
เหวงยันใช้อหิงสาต่อสู้เพื่อเป้าหมายประชาธิปไตย
นพ.
หลายวันมานี้การชุมนุมถือเป็นการพิสูจน์ให้พวก คมช. เห็นว่าพวกเรา "ไม่โกรธ ไม่ต่อต้าน และไม่รุนแรง"
นพ.เหวงกล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่ 19 ก.ย. มีคนชุมนุมต้านรัฐประหารหลายกลุ่ม และไม่เคยเกิดความรุนแรง ดังนั้นถ้าความรุนแรงจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิดจากฝ่าย คมช. เพราะตอนพฤษภาทมิฬ 2535 มีภาพชัดว่าคนเผานางเลิ้งเป็นคนสวมเสื้อเกราะไปเผา แสดงว่า รสช. ไปทำ แต่มีการออกข่าวโดยกรมประชาสัมพันธ์ว่ามีไฟไหม้กรมประชาสัมพันธ์ก่อนไฟไหม้จริง 1 ชั่วโมง
"เราชนะแน่แต่ต้องมีขันติธรรม" นพ.เหวงกล่าว
ท้า คมช. โต้วาทีให้ประชาชนตัดสิน
นพ.เหวงกล่าวต่อไปว่า แกนนำมีมติว่า เราจะท้า เราจะขอเชิญ คมช. 8 นาย มาโต้วาทีต่อหน้าประชาชนไทยทั้งประเทศ เรียกว่า "เวทีประชาธิปไตย" จะเห็นว่าเราเสนอวิธีสันติ ไม่ได้พูดว่าจะเอาปืนไปยิงพวกมัน ไม่เหมือนนายพลบางคนที่พูดแต่ว่าจะเอาปืนมายิงพวกเรา โดยมีนาย
นอกจากนี้ นพ.
โต้สพรั่งไล่กลับบ้าน - อริสมันต์ครวญเพลงคิดถึงทักษิณแทบใจขาด!
นอกจากนี้นาย
นอกจากนี้บนเวทียังมีการประกาศเชิญชวนให้ผู้ชุมนุมเข้าร่วมการชุมนุมในวันพรุ่งนี้เพราะจะมีการแจกซีดีการปราศรัยข้ามประเทศของ พ.ต.ท.
และในช่วงท้ายของการปราศรัย นาย
ไอซีทีระบุทักษิณปราศรัยให้ม็อบฟังไม่สด - คุ้มกันสพรั่งเข้ม
ด้านนาย
"ขณะนี้ ซีดีดังกล่าวถูกนำเข้ามาในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าไม่น่าจะมีเนื้อหาที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่มีนโยบายจะปิดกั้นการถ่ายทอดภาพและเสียงดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเทปหรือปราศรัยสดผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะเชื่อว่าอดีตนายกรัฐมนตรีคงไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในชาติ" นายสิทธิชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศที่กระทรวงไอซีที ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารและพื้นที่ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากกว่าปกติ เนื่องจากทุกวันศุกร์ได้มีการประชุมคณะกรรมการ หรือบอร์ดทีโอที ซึ่งมี พล.อ.
คำปราศรัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มา : เรียบเรียงจาก ความในใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่เคารพรัก เมื่อสองวันนี้ คณะ คตส. ซึ่งตั้งโดยคณะปฏิวัติ โดยประกอบด้วยบุคคล ซึ่งที่ไม่ชอบผมทั้งสิ้น และบางคนก็มีการขัดแย้งกันมาโดยตลอดทางการเมือง ตั้งแต่ผมยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผมและครอบครัว ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ทำมาหากินด้วยความยากลำบากกว่า 20 ปี ซึ่งปรากฏชัดว่า ทรัพย์สินเหล่านั้นเกิดจากการขายกิจการของครอบครัว ข้อหนึ่งที่ คตส.กล่าวอ้าง บอกว่า หุ้นที่มีมูลค่าสูงขึ้นของชินฯ เป็นเพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี ความจริงมันถูกแค่เพียงครึ่งเดียว เพราะข้อเท็จจริงแล้วหุ้นทั้งตลาดหลักทรัพย์ขึ้นหมด ซึ่งเกิดจากการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาในประเทศไทย มีนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขึ้นมาจาก 1.5 ล้านล้านบาท ขึ้นมาถึง 5 ล้านล้านบาท ราคาหุ้นบริษัทต่างๆ ขึ้นมาแทบทุกบริษัท ไม่ว่าจะเป็นหุ้นที่พล.อ. และคตส. ก็บอกว่าเงินผมที่ขายหุ้น 7 หมื่นกว่าล้านบาท เหลือ 5 หมื่นกว่าล้านบาท มีการยักย้ายถ่ายเท เอาอะไรมาพูดครับ คำว่ายักย้ายถ่ายเท หมายถึงว่า เอาไปใส่ชื่อคนนั้นคนนี้ แต่นี่เป็นการที่ครอบครัวเก็บเงินสดได้มาเยอะก็ต้องเอาไปลงทุน(หลักการกระจายความเสี่ยง) ไม่มีใครสำหรับการลงทุน ที่เรียกว่าเอาไข่ไปไว้ในตระกร้าเดียวกัน ถ้ามีอะไรแตกก็หมด ไม่เหลือ เขาก็แบ่งเอาไปลงทุนที่ดินบ้าง เอาไปลงทุนหุ้นบ้าง ลงทุนในบริษัทต่างๆ บ้าง ลงทุนในประเทศบ้าง เอาไปลงทุนในต่างประเทศบ้าง นี่คือรูปแบบการลงทุนธรรมดา ซึ่งตรวจสอบได้ ธนาคารแห่งประเทศไทยก็สามารถตรวจสอบได้ ทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับทึกทักว่า ร่ำรวยผิดปกติ เพราะหุ้นขึ้น เอาเงินไปลงทุนก็บอกว่ายักย้ายถ่ายเท นี่คือ สิ่งที่เป็นการทั้งหมิ่นประมาท และเป็นการพิจารณาที่ขาดทั้งคุณธรรม จริยธรรม และหลักนิติธรรม พี่น้องครับ ผมถูกกลั่นแกล้งในทางการเมืองมาโดยตลอด ทั้งครอบครัว ไม่เคยคิดว่า ครั้งหนึ่งที่เราทุ่มเททำมาหากินกันมาทั้งชีวิต บางครั้งผมก็ลำบาก ตอนช่วงผมไม่มีเงินผมลำบาก ผมผลัดหนี้ ผมเช็คเด้ง ต้องขึ้นศาล ต้องแลกเช็คเสียร้อยละ 5 ต่อเดือน ร้อยละ 3.25 ต่อเดือน เพื่อดำรงให้ธุรกิจอยู่รอด จนตั้งตัวขึ้นมา ถ้าผมไม่รอด ผมติดคุก เพราะไม่มีสตางค์จ่าย ก็คงไม่มีใครรู้จักผม แต่พอผมรอด ผมมาถึงวันนี้ เมื่อผมมีฐานะดีแล้ว ผมก็คิดว่า ผมควรจะตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ผมเคยเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ผมปฏิญาณตนว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อเป็นนักเรียนทุนของรัฐบาล ก็เป็นเงินภาษีอากรจากประชาชน ผมสำนึกถึงบุญคุณเหล่านี้ ผมถึงได้อาสามาทำงานการเมือง เมื่อผมทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ผมทุ่มเทอย่างสุดชีวิต เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อชาติ เพื่อเรียกร้องให้ความน่าเชื่อถือกลับคืนมาหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลผมสามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนล่วงหน้าถึง 2 ปี เป็นที่ยกย่องไปทั่วโลก เมื่อมีเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ พวกเราก็ทุ่มเทกัน จนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ว่าประเทศไทยได้จัดการเรื่องนี้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศที่ประสบปัญหาเดียวกัน มีโรคซาร์ส มีโรคหวัดไข้นกระบาด เราก็ช่วยดูแลกันเต็มที่ พี่น้องประชาชนมีปัญหายาเสพติด เราก็ช่วยกันปราบปราม ปัญหาภาคใต้เราก็พยายามทำ ถึงขนาดนั้นก็ยังมีคนคัดค้าน จนในที่สุดวันนี้ยิ่งแย่กว่าเดิม จนวันนี้การแบ่งแยกดินแดนยิ่งมากกว่าเดิม แต่ไม่ยอมพูดความจริงกัน พี่น้องครับ ผมถูกกลั่นแกล้งในทางการเมืองมา ตั้งแต่ผมยังเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าเข้ามาแทรกแซงในระบบราชการ ที่ผมสั่งงาน และสั่งการไม่ได้ แทรกแซงระบบกระบวนการยุติธรรม และวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นปรากฏชัด เขาตั้งธงไว้ 1.ให้ผมพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่พ้นดีๆ ก็ต้องถูกลอบฆ่า ในที่สุดก็จับได้หลักฐานชัดเจน ตำรวจสั่งฟ้อง อัยการศาลทหารรับฟ้อง แต่เรื่องก็ยังเงียบอยู่ พอผมไม่ตาย ผมเดินทางมาราชการต่างประเทศ มาทำงานเพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง ก็แอบปฏิวัติลับหลัง เมื่อปฏิวัติเสร็จ ผมได้ข่าวมาตลอดว่าจะดำเนินคดี ตั้งข้อหาผมและครอบครัว แล้วก็จะหาเรื่องให้ได้ เพื่อจะเอาผมติดคุก จะหาเรื่องให้ได้เพื่อจะอายัดทรัพย์ผม แล้วก็จะยุบพรรคไทยรักไทย จะห้ามเล่นการเมือง ผมก็ประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว แต่วันนี้สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดครับว่า การอายัดทรัพย์ครั้งนี้ เพื่อต้องการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ผมไม่มีสตางค์แล้ว นักการเมืองทั้งหลายอย่าไปรวมกันอยู่ในฝั่งไทยรักไทย เพราะขณะนี้กำลังจะกำหนดว่าใครจะเป็นรัฐบาลครั้งต่อไป นี่หรือครับประชาธิปไตย คืนอำนาจให้ประชาชนเถอะครับ อย่าบังคับประชาชน ให้ประชาชนเขาตัดสินใจ ให้เขาเลือก เพราะประเทศของเขา ไม่ใช่ประเทศของพวกท่าน ประเทศของคนไทยทุกคน ที่จะรวมกันว่าจะเลือกใครมาทำหน้าที่ให้เขา ถ้าทำหน้าที่ได้ดีเขาก็เลือกต่อ ถ้าทำหน้าไม่ดีเขาก็ไม่เลือก นั้นคือกระบวนการประชาธิปไตย เราเผด็จการพอกันหรือยัง เรากำลังนำประเทศถอยหลังไปอีกหลายสิบปี เพราะเรากำลังทำอะไรที่ไร้หลักนิติธรรม เรียกว่าลวงหลอก ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกเขาเชื่อถือ ถ้าไม่เชื่อถือแล้ว ก็หมดกันประเทศไทย การลงทุนจากต่างชาติหมด ถามว่าเม็ดเงินเราพอเพียงหรือไม่ที่จะพัฒนาประเทศ ที่จะแก้ปัญหาความยากจนให้กับคนไทย วันนี้ลูกหลานไม่ได้เรียนหนังสือ หวยบนดินก็บอกว่าไม่ถูกต้อง เอาไปลงใต้ดินเอาไปคืนให้กับพันธมิตรทั้งหลาย รัฐบาลเคยกำไรจากหวยบนดินปีละหมื่นล้านบาท เพื่อนำเงินเหล่านี้มาให้เด็กยากจนได้มีโอกาสเรียนหนังสือ แต่วันนี้หมื่นล้านบาทกลับไปอยู่ในมือเจ้ามือหวยใต้ดินหมดแล้ว ถามว่าอย่างนี้ถูกต้องใช่มั๊ยครับ และสิ่งที่ผมทำอะไรก็ไม่ถูกซักอย่าง ฉากต่อไปของการกลั่นแกล้ง คือจะให้ผมเข้าคุก แล้วเรื่องทุกเรื่อง หาเรื่องทั้งนั้นครับ คนที่ไปให้การก็พยายามถามนำแล้วบังคับให้เขาตอบเพื่อมาซัดทอดผมให้ได้ เขาไม่ซัดทอดก็โยงมาเพื่อให้เขาซัดทอดให้ได้ ผมเจอหลายคนที่ถูกตรวจสอบ เขาก็มาบอกผมว่าพยายามเหลือเกิน จริงๆ แล้ว การทำงานของนายกรัฐมนตรีเป็นเพียงผู้กำหนดนโยบาย ไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ปรากฏว่าความผิดต้องเป็นผมให้ได้ เป็นกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรมที่สุด พี่น้องครับ ผมจะต่อสู้เพื่อเรียกศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิคืน แต่แค่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญครับ เรื่องสำคัญกว่านั้นก็คือว่า เพื่อจะเรียกความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม และกฎหมายไทยคืน ถ้าไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะไม่ได้รับความเชื่อถือเลย แล้วประเทศเราจะล่มจมเสียหายในที่สุด เราจะนำประเทศถอยหลังไปอีกเป็นสิบๆ ปี เพียงเพื่อสะใจ เพื่อให้คนๆ หนึ่ง หรือคนกลุ่มหนึ่งสะใจที่ได้ชนะแค่ผม ผมคนเดียว จะจัดการผมคนเดียว โดยเอาประเทศทั้งประเทศเป็นเดิมพันอย่างนั้นหรือ ความน่าเชื่อถือประเทศเป็นเดิมพันอย่างนั้นหรือ ความไม่มีประชาธิปไตยของประเทศเป็นเดิมพันอย่างนั้นหรือ ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับมานาน แต่วันนี้ท่านทั้งหลายกำลังทำประเทศถอยหลังมาก สิ่งที่ท่านเคยว่าผมวันนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ แต่ท่านทำยิ่งกว่าที่กล่าวหา เรื่องภาคใต้ก็แย่ลง เรื่องคอรัปชั่นก็เต็มไปหมด รัฐวิสาหกิจก็ร้อง ผู้รับเหมาก็ออกมาโวยวาย ไปรีดไปไถเขา แม้กระทั่งรายการโทรทัศน์ก็ยังโดย ปิดกั้นสื่อ วันนี้ท่านไม่ได้ปิดกั้น แต่เขาเรียกว่าบังคับ บางครั้งจอขาว หยุดออกอากาศดื้อๆ ผมโทรศัพท์เข้าไปในรายการหนึ่ง ความจริงแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจจะโทรศัพท์ เพราะเขาต่อสายเข้ามาขอพูดสายด้วย ผมเห็นว่าเขาให้กำลังใจ ก็เลยพูดตอบโต้ไป ก็ไปปิดสถานีวิทยุของเขา อย่างนี้เขาเรียกว่าปิดกั้นหรือเรียกอะไร...? เรื่องสนามฉันท์ แทนที่จะมีการสมานฉันท์ ก็กลับตอกลิ่มความแตกแยกมากขึ้น เพียงต้องการขจัดผม ก็ผมประกาศแล้ว ว่าผมเลิกเล่นการเมือง จะทำอะไรกับผมภายใต้ระบบกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องภายใต้ ที่เขาเรียกว่า Rule of Law เอาเลยครับ...ไม่ว่ากัน ผมพร้อมพิสูจน์ทุกรูปแบบ แต่ไม่ใช่ทำกระบวนการนอกกฎหมาย แล้วมันดังออกไปทั่วโลก แล้วมันจะบอกให้รู้ว่าประเทศไทยไม่ไหวแล้ว ระบบอย่างนี้ไม่มีได้อย่างไร ระบบที่ถูกต้อง ที่สากลยอมรับได้ ทำไมไม่มี ไม่เหลือแล้วหรือ ซึ่งเรารักษากันมา เราพัฒนากันมากี่สิบปี แต่วันนี้เพียงเพื่อจะขจัดผมคนเดียว ไม่ต้องหรอกครับ ผมเลิกเล่นการเมืองแล้ว ไม่ต้องห่วง ผมไม่ไปแข่งกันพวกท่านแล้ว ผมขออยู่มีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีเหมือนคนไทยคนหนึ่งเท่านั้นเอง รังแกผมยังไม่เป็นไร รังแกเมียผม ลูกผม ซึ่งเขาไม่รู้เรื่องเลย แล้วเขาคัดค้านด้วยซ้ำที่ผมเล่นการเมือง เพราะเขารู้ว่าการเมืองมันโหดร้าย แต่จากความที่ผมรักบ้านเมือง อยากตอบแทนบุญคุณบ้านเมือง ผมจึงได้อาสาเข้ามา ท่ามกลางที่ลูกเมียผมคัดค้าน แล้วผมขอร้องเขา ว่าเราได้ดิบได้ดีกับแผ่นดินไทย เราต้องตอบแทนแผ่นดินไทย นี่คือสิ่งที่ผมได้อาสาเข้ามา แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม มันเป็นอะไรที่ผมไม่คิดว่า มันจะเกิดในสมัยศตวรรษที่ 21 มันควรจะเป็นศตวรรษที่ 15 หรือ 16 หันหน้าเข้าหากันเถอะครับพี่น้อง ถ้าพี่น้องที่เป็นผู้สนับสนุนผม ถ้าเมื่อไหร่ที่ประเทศมีประชาธิปไตย เมื่อนั้นระบบทุกอย่างมันเป็นกลไกของมันเอง คนที่คิดทฤษฏีประชาธิปไตยเป็นคนที่เก่งมาก เพราะถือว่าประชาธิปไตยนั้นอำนาจทั้งหลายเป็นของปวงชน ปวงชนเป็นคนเลือกตัวแทนของปวงชน แล้วไปทำหน้าที่เพื่อปวงชน ในระบบประชาธิปไตยก็มีอำนาจอธิปไตย 3 สาขา ซึ่งมีระบบถ่วงดุลซึ่งกันและกัน ทั้งนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แต่วันนี้มันหายหมดแล้วครับ เมื่อท่านจัดการผมได้ขนาดนี้ รีบเลือกตั้งเถอะครับ ท่านจะเอาใครเป็นรัฐบาล ถ้าท่านมั่นใจ ก็ให้ประชาชนเขาพิสูจน์ เมื่อประชาชนเลือกแล้ว ก็เป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อตัวแทนประชาชนเข้ามา เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญที่ท่านร่างไม่เป็นประชาธิปไตยเขาก็แก้ไขให้มันเป็นประชาธิปไตย ซึ่งมันเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ปีนี้เป็นปีมหามงคลยิ่ง ท่านที่ทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่คิดจะสร้างสนามฉันท์ในชาติ เพื่อถวายพระเจ้าอยู่หัวหรือครับ พระองค์ท่านทรงพระชนม์มายุมาก ท่านทรงเหนื่อยมามาก ท่านทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญาเพื่อคนไทยมามากแล้ว พวกท่านยังไม่สำนึกหรือครับ ช่วยกันเถอะครับ คนละไม้คนละมือ หันหน้าเข้าหากัน เราคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น ท่านจะเกลียดผม ผมก็คนไทย ผมไม่ชอบท่าน ท่านก็คนไทย ทุกฝ่ายคือคนไทยหมด เรามัวฆ่ากันเอง ในขณะที่ประเทศซึ่งกำลังแย่งตลาดแย่งการลงทุน แย่งการท่องเที่ยวจากประเทศไทย เขาหัวเราะเยาะ เขาบอกโฮ้โอ... หมูเหลือเกิน แทนที่จะไปแข่งกัน ก็นั่งทะเลาะกันเอง แล้วการทะเลาะกันเองก็สะท้อนออกไปทั่วโลก ท่านอย่าไปคิดว่าสิ่งที่ท่านทำ ท่านอาจจะปิดข่าวในประเทศไทยได้ แต่ข่าวเมืองนอกมันออกมาหมด เห็นแก่ชาติ เห็นแก่ประชาชน ทำเพื่อถวายพระเจ้าอยู่หัวเถอะครับ อย่าเห็นแก่ความสะใจในอารมณ์ของพวกท่านเลย พอแล้วครับบ้านเมือง ที่ผมพูดนี่ไม่ใช่ว่าผมจะไม่สู้ แต่ผมขอสู้เพื่อรักษาศักดิ์ศรี ผมขอสู้เพื่อรักษาระบบของชาติที่ถูกท่านปู้ยี่ปู้ยำ ขอให้ระบบที่ดีๆ คงอยู่คู่ประเทศไทยเถอะครับ ขอให้ความสามัคคีกลับคืนสู่ประเทศไทยเถอะครับ หลายท่านที่มีอำนาจวันนี้ ผมเป็นคนเสนอแต่งตั้งท่าน ไม่ได้ทวงบุญคุณนะครับ แต่ขอให้คิดแบบพี่แบบน้อง แบบเพื่อนร่วมชาติว่า ทำอะไรเพื่อชาติเสียเถอะ ท่านจัดการผมไม่ได้ช่วยชาติหรือนะครับ ท่านจัดการผม ทำให้ชาติเสียหาย ไม่ใช่เพราะผมจะป้องกันตัวเอง แต่ผมเชื่อว่าผมสามารถต่อสู้ตามกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมได้ เพราะผมไม่ผิด 5 ปี 7 เดือนที่ผมทำงานมา ท่านไม่คิดว่าผมทำประโยชน์ให้ชาติเลยหรืออย่างไร ท่านคิดว่าผมเป็นโจรหรืออย่างไร ท่านถึงทำผมแบบนี้ ผมพร้อมที่จะกลับไปต่อสู้คดี แล้วเราเผชิญหน้ากันแบบพี่น้อง พูดคุยกันได้ทุกเรื่องด้วยเหตุด้วยผล เพื่อนำความสามัคคีกลับมาสู่ชาติ ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ไม่มีประโยชน์จริงๆ ที่จะทำแบบนี้ แต่หันหน้าเข้าหากันเพื่อชาติดีกว่า ทำถวายพระเจ้าอยู่หัวในปีมหามงคล หันหน้าเข้าหากัน ผมพร้อม... ไม่ได้พร้อมเพราะเกรงกลัว แต่พร้อมเพราะว่าบางครั้งลูกผู้ชาย ต้องกัดลิ้น ต้องกลืนเลือดก็ต้องทำ เพราะเราอยู่ในชาติเดียวกัน ลองช่วยคิดไตร่ตรองให้ดีเถอะครับ คิดไตร่ตรองให้ดีว่าสิ่งที่ท่านทำลงไปนั้นเพื่ออะไร ชาติได้หรือไม่ แล้ววันนี้ประชาชนเขาลำบากหรือไม่ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ท่านทำดีหรือยัง ที่ท่านกล่าวหา 4-5 ข้อ ท่านทำดีกว่าผมหรือไม่ ถ้าตราบใดที่ท่านมัวจ้องล้างผลาญทางการเมือง อ้างอำนาจเก่าอำนาจใหม่ มันตลก เอาตรงๆ ดีกว่า มาคุยกันอย่างลูกผู้ชาย หันหน้าเข้าหากันเพื่อให้ชาติรุ่งเรืองดีกว่า ผมพร้อมที่จะพูดคุยทุกประเด็น ถึงแม้ไม่พูดคุยก็พร้อมจะต่อสู้ทุกประเด็นด้วยกระบวนการที่ถูกต้อง แต่ขออย่าแทรกแซง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้กันว่าแทรกแซงทุกกระบวนการ กระบวนการยุบพรรคนี่เห็นชัด เป็นการวางพล็อตแทรกแซงมาตั้งแต่ต้น ซึ่งผมถือว่าเรื่องยุบพรรคเรื่องเล็ก แต่เป็นเรื่องที่น่าอับอายไปทั่วโลก ว่าประเทศไทยกำลังเล่นอะไร หลักกฎหมายหายไปไหนหมด ทฤษฏีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป วิชาการเรียนเล่มแรกๆ ของการเรียนกฎหมายมันหายไปไหนหมด ขอให้คิดให้ดีเถอะครั แล้ววันนี้คตส. กำลังขอกฎหมายเพื่อป้องกันตัวเอง แน่จริงอย่าขอ ถ้าท่านบริสุทธิ์ใจจริงเราสู้กันในศาล ถ้าท่านให้ความยุติธรรมกับผมไม่เป็นไร แต่ถ้าท่านไม่ให้ความยุติธรรมกับผม ศาลก็ต้องลงโทษท่าน ทำไมต้องเอากฎหมายมาคุ้มครองตัวเอง แสดงว่าเจตนากลั่นแกล้งใช้หรือไม่ ถึงเอากฎหมายมาคุ้มครองตัวเอง ไม่ต้องขอครับ ถ้าท่านไม่คิดหันหน้าเข้าหากันของคนไทย ถ้าไม่เช่นนั้นปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้ ผมเป็นห่วงครับ หลายคนยังไม่เดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กินเงินเดือน แต่ว่าคนที่หาเช้ากินค่ำซิครับลำบาก คนที่ทำธุรกิจก็ลำบาก เพราะความน่าเชื่อถือมันหมด เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมันหมด มันน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้วประเทศจะลำบาก แล้วลำบากเที่ยวนี้จะกอบกู้ยากขึ้น เมื่อก่อนนี้เรายังบอกว่าเราผิดพลาดไป เราไปบอกต่างชาติว่า ประเทศไทยพร้อมแล้ว เรายืนบนลำแข้งเราได้แล้ว มาช่วยกันลงทุน เรามีศักยภาพดี เขาเชื่อได้ แต่ต่อไปนี้ยากขึ้น เวลาท่านไปบอกกับต่างประเทศว่าประเทศไทยดีอย่างนั้น อย่างนี้ มีความพร้อม เขาฟังแล้วเชื่อ แต่นายกที่มาพูด คืนนี้จะได้กลับบ้านมั๊ย จะโดนปฏิวัติมั๊ย แล้วท่านจะตอบเขาอย่างไร สิ่งเหล่านี้ผมว่ามันพอแล้ว หันหน้าเข้าหากันเถอะ เริ่มต้นใหม่ เริ่มต้นที่ปีมหามงคลนี่แหละ เริ่มต้นทิ้งความสะใจ แล้วไม่ต้องมาพูดถึงอำนาจเก่าอำนาจใหม่ คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ใครทำผิดก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าหาเรื่อง ไม่ใช่สอบสวนแบบหาเรื่อง เอาแบบตรงไปตรงมา มีหลักฐานดำเนินคดี ให้กระบวนการทำงานไปอย่าแทรกแซง ให้ระบบกฎหมายมันทำงาน เขามีทฤษฏีหมด ผมว่าวันนี้อาจารย์สอนกฎหมายจะสอนกันอย่างไร เกี่ยวกับกฎหมายไทยกับการตัดสินคดีที่ผ่านมา การทำงานแบบคตส. การตัดสินแบบคณะตุลาการรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ถามว่าเราจะอยู่กันอย่างไร เพราะฉะนั้นวันนี้ผมว่าหันหน้าเข้าหากัน เริ่มต้นใหม่ เอาหล่ะที่ผ่านมา ผมเจ็บ ผมก็ยอมรับเจ็บ ไม่เป็นไร แต่ต่อไปนี้ เราเดินให้ถูกต้องได้หรือไม่ เราทำให้ถูกต้องตามกระบวนการได้หรือไม่ ตามหลักสากลที่สากลยอมรับได้หรือไม่ เลิกบิดเบือนข่าวสาร เลิกปิดข่าวได้หรือไม่ เลิกข่มขู่ได้หรือไม่ ทหารไปทำหน้าที่ของทหารเถอะ อย่าข่มขู่ประชาชนเลย คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยก็คือคนไทย โน้น...ไประวังพวกแบ่งแยกดินแดนโน่น ขอเถอะครับ หยุดห้ำหั่นฆ่าฟันกันเองได้แล้วคนไทย อย่าให้ชาติอื่นเขานั่งหัวเราะเยาะเรา โลกทั้งโลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว มานั่งทะเลาะกันอยู่ได้ เอาเวลามาแก้ปัญหาของชาติเถอะ ผมไม่ได้ทะเลาะกับพวกท่านเลย ที่ผมอยู่เมืองนอก ก็เพราะผมอยากเห็นท่านทำงานสนามฉันท์ให้ได้ แต่ในที่สุดท่านตอกลิ่มปัญหาตลอด ผมก็เคยโทรศัพท์คุยกับท่านพล.อ.สุรยุทธ์ บอกว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกพี่ ต้องตบมือสองข้าง เรามาคุยกันจะเอาอย่างไรก็ได้ ผมวางมือทางการเมืองแล้ว เรามาคุยกันเถอะ เพื่อให้บ้านเมืองสมานฉันท์ ผมจะได้บอกกับผู้สนับสนุนได้ว่าหยุดเถอะ ทุกฝ่ายไปเลือกตั้งซะ แล้วให้ประชาชนตัดสินใจเป็นอย่างนั้นจบไป แต่วันนี้มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น ก็เลยต้องบอกว่าขอเถอะ ขอร้องทุกฝ่ายเถอะ เราคนไทยด้วยกันจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะปฏิวัติก็ดี รัฐบาลก็ดี หลายคนเป็นทหาร เราก็เป็นนักเรียนนายร้อย เป็นนักเรียนเตรียมทหารกันมา เราอบรม มาอย่างเดียวกัน ให้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เหมือนกัน เพราะฉะนั้นวันนี้เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อชาติบ้านเมืองเถอะครับ ผมพร้อมจะเสียสละทุกอย่าง บอกให้ผมวางมือทางการเมืองผมก็วางแล้ว แล้วจะเอาอย่างไรต่อ กล่าวหาผม ก็ให้มันเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แล้วผมสู้เอง ไม่เป็นไร.. แล้วมีอะไรอีก ยุบพรรค ก็ว่ากันไป ก็ผมวางมือแล้ว 111 คนก็เล่นการเมืองไม่ได้แล้ว แต่ถ้าเขาจะดำเนินการต่อก็เป็นเรื่องของเขา เป็นเรื่องของคนอื่น เพราะฉะนั้นก็ให้มันเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ก็ให้ดำเนินไปตามระบอบ อย่าตัดสินใจแทนคนทั้งชาติ ให้คนทั้งชาติตัดสินใจแทนเราดีกว่า ก็ขอฝากท่านผู้มีอำนาจทั้งหลาย ให้ช่วยคิดถึงว่าจะพาชาติรอดอย่างไร ไม่ใช่วิธีนี้แน่นอน วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รวมพลังเพื่อชาติบ้านเมืองของเรา ก็ขอขอบคุณอีกครั้ง สวัสดีครับ
|
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)