Skip to main content
sharethis





การเมือง


 


"อักขราทร" ยึดหลัก นิติศาสตร์ในการพิจารณาคดียุบพรรค


โพสต์ทูเดย์ — 26 พ.ค. นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครอง และรองประธานตุลาการรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงแนวทางการวินิจฉัยคดีการตัดสินคดีต้องเป็นไปตามหลักกฎหมาย


 


"การวินิจฉัยคดียุบพรรคนั้นมีอยู่หลักเดียว คือหลักนิติศาสตร์ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ให้เอาหลักรัฐศาสตร์มาใช้ คือไม่รู้ว่าในหลักนิติศาสตร์ได้ครอบคลุมหลักทั้งหลายทั้งปวงอยู่แล้วในกฎหมาย เมื่อใช้กฎหมายเป็นและถูกต้อง มันก็คือหลักนิติศาสตร์อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ตีความตามตัวหนังสือ แต่มีความหมายในเจตนารมณ์ของกฎหมาย" นายอักขราทร กล่าว


 


อย่างไรก็ตาม ความห่วงใยบ้านเมืองของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ตุลาการรัฐธรรมนูญต้องมีความละเอียดชัดเจนในการวินิจฉัย ต้องให้คนที่ไม่รู้สามารถเข้าใจได้ โดยตุลาการรัฐธรรมนูญต้องตอบทุกประเด็น รวมถึงเรื่องของการเพิกถอนสิทธิ 5 ปีด้วย ประธานศาลปกครองกล่าวในที่สุด


 


ประชาธิปัตย์-ไทยรักไทยน้อมรับพระราชดำรัส


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - หลังจากที่มีกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 24 พ.ค. นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คนไทยจำนวนมากคงได้ฟังกระแสพระราชดำรัส สิ่งที่พวกเขาทุกคนควรจะคิดกันขณะนี้คือทำอย่างไรไม่ให้เกิดความเดือดร้อนหรือเดือดร้อนน้อยที่สุด ในส่วนของพรรคยืนยันมาตลอดว่า ผลออกมาอย่างไรพรรคก็ยอมรับ และจะไม่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง ขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองว่า ต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของฝ่ายที่ยั่วยุ ถ้าเกิดความวุ่นวายขึ้นจากจุดเล็ก ๆ ต้องคลี่คลายไปในทางที่ดีให้ได้ อย่าไปขยายให้เกิดความรุนแรง ความขัดแย้งมากขึ้น เพราะอาจเป็นเป้าหมายของฝ่ายที่ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง


 


ส่วนการเตรียมการของพรรคในวันฟังคำตัดสิน ตนและตัวแทน 30 คนจะไปฟังคำวินิจฉัยที่ศาล หลังจากนั้นจะกลับมาที่พรรคเพื่อพูดจากับสื่อมวลชนและประชาชนเล็กน้อยว่า เมื่อคำตัดสินเป็นอย่างนี้แล้วก็หมายความว่าอย่างไร แต่คงจะได้พูดคุยกันสั้น ๆ เพราะว่ามีอีกคดีหนึ่งด้วยจะตัดสินตามมา


 


ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยกล่าวว่า พรรคไทยรักไทยรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงห่วงใยบ้านเมืองและได้พระราชทานคำแนะนำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาน สิ่งที่พรรคดำเนินการได้คือต้องสนองน้อมรับ ใช้เป็นหลักปฏิบัติคือการช่วยกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งเรื่องนี้พรรคไทยรักไทยได้วางแนวทางที่ไม่ให้เกิดความวุ่นวายไว้แล้ว


 


พรรคโดยได้กำชับถึงสมาชิกพรรคและอดีต ส.ส. ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนต่อคดียุบพรรคและไม่ว่าผลการพิจารณาจะออกมาเป็นเช่นไร เราพร้อมจะรับและดำเนินงานทางการเมืองต่อไปโดยยึดหลักสันติวิธีและยึดมั่นตามระบอบรัฐสภา


 


นายกรัฐมนตรี เรียกร้องทุกฝ่ายยึดหลักยุติธรรม พิจารณายุบพรรค


เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก - ในรายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก" ครั้งที่ 3 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ตอบคำถาม ผู้ดำเนินรายการ ซึ่งครั้งนี้ทำหน้าที่โดยนายสัญญา คุณากร เน้นในประเด็นสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะการตัดสินคดียุบพรรคการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีภาระกิจไปเยือนสาธารณประชาธิปไตยประชาชนจีน ในวันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีการประสานงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในหรือ กอ.รมน.แล้ว ในภาพรวม ส่วนย่อย ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. ดูแลความสงบ ให้เข้มงวดมากขึ้น


 


นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การสร้างความเข้าใจ เมื่อมาถึงจุดที่กระบวนการยุติธรรมจะใช้อำนาจ ก็ควรจะต้องยึดถือ คำวินิจฉัยของศาล ถ้าไม่มีอะไรเป็นตัวยึด ถ้าเอาตัวเราเป็นยึด สังคมจะไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยว ความยุติธรรมจะอยู่ที่ใด หากไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล


 


ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า นายกรัฐมนตรี ไม่รับผิดชอบแก้ไขปัญหา ได้แต่มอบอำนาจให้ส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดูแลความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การทำงานของคณะรัฐมนตรี จะต้องทำงานเป็นภาพรวม ต้องมีการเปิดใจรับฟังความคิดเห็นคนอื่น ไม่ควรยึดถือตัวเป็นใหญ่ เพราะจะทำให้กลายเป็นเผด็จการส่วนความรับผิดชอบขั้นสุดท้ายจะเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ด้วยความเป็นเอกภาพ


 


ส่วนวันตัดสินคดียุบพรรค นายกรัฐมนตรี มองว่าไม่คิดว่าจะมีคนมาชุมนุมมากมาย เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชน มาบ้าง ส่วนใหญ่มีวิจารณญาณ ที่ต้องฟังคำตัดสินของศาล


 


อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปจีน 28-29 พ.ค.จะไปพบประธานาธิบดี นายกฯ ประธานสภา ของจีน มีความสำคัญ ความร่วมมือระหว่างกัน การเปิดเส้นทางคมนาคมทางรถไฟเพิ่มเติม จากยูนาน ผ่านลาว มาทางตอนเหนือของไทย โดยจีนไม่สนใจปัญหาการเมืองในไทย เพราะถือว่าจะไม่แทรกแซงกิจการภายใน หากมีอะไรรุนแรง จะใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันที


 


 






เศรษฐกิจ


 


"ฉลองภพ" เชื่อ GDP ปี 51 โตถึง 5%


ผู้จัดการออนไลน์ - วานนี้ (25 พ.ค.) นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวก่อนเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างฐานแม่บทการเงินการคลังเพื่อสังคม พ.ศ.2550-2554 โดยคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2551 จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ คือ จะมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) เติบโตได้ในระดับร้อยละ 5 เนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ปรับตัวในทางที่ดีขึ้น ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมา โดยวัดจากการส่งออกในเดือน เม.ย.ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18 และการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตในเดือน เม.ย.50 ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 22 เดือน


 


ส่วนเรื่องการปรับเป้างบประมาณปี 2551 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลสรุป จาก 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ (ศป.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)


 


ห้ามของเหลวขึ้นเครื่องทำดิวตีฟรียอดวูบ


โพสต์ทูเดย์ — นายณรงค์ พรพิริยะกุลชัย ผู้อำนวยการส่วนร้านค้าสาขา กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ คาดว่ามาตรการห้ามผู้โดยสารนำสินค้าที่มีของเหลวหรืออื่นๆ ติดตัว ขึ้นเครื่องบิน ส่งผลให้ยอดขายของ ร้านค้าปลอดภาษีลดลง 20-30% ในช่วง 6 เดือนแรกที่กรมการขนส่งทางอากาศเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2550 เนื่องจากผู้โดยสารเกรงว่าจะมีปัญหา โดยเฉพาะสนามบินปลายทาง ซึ่งบางประเทศไม่ยินยอมให้นำของเหลวเข้าประเทศโดยเฉพาะอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศในทวีปยุโรป


 


ดังนั้นในการขายสินค้าใดๆ ทางร้านค้าปลอดภาษีจะต้องสอบถามลูกค้าด้วยว่าเดินทางไปประเทศใด หากเป็นประเทศที่ไม่อนุญาตนำของเหลวเข้าก็จะแจ้งให้ลูกค้าทราบ และหากลูกค้ายังต้องการซื้อสินค้าภายในร้านค้าปลอดภาษีจะสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ไม่เกิน 2 หมื่นบาท ไม่รวมสุราหรือบุหรี่ และสามารถมารับได้ในวันที่เดินทางกลับมาไทย


 


ด้านนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า มาตรการประกาศห้ามนำสิ่งของดังกล่าวติดตัวขึ้นเครื่องบินทั้งในและต่างประเทศ นั้นในช่วงแรกที่มีการใช้มาตรการนี้จะ ให้สายการบินจัดถุงแจกให้ผู้โดยสารจนถึงปลายเดือนตุลาคม 2550 หรือสิ้นการบินฤดูร้อน จากนั้นผู้โดยสารจะต้อง จัดเตรียมถุงใส่ของเหลวไปเอง โดยผู้โดยสารสามารถหาซื้อถุงใส่ของเหลวได้ตามท้องตลาด หรือสายการบินอาจจัดจำหน่ายเอง


 


ส่วนปริมาณของเหลวทุกชนิดที่ผู้โดยสารนำติดตัวขึ้นเครื่องบินจะต้องใส่ภาชนะซึ่งมีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และหากรวมของเหลวทุกชนิดจะต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร โดยจะพิจารณาจากขนาดบรรจุของสินค้าหรือของเหลวที่ผู้โดยสารนำติดตัวมา


 


"เกริกไกร" มั่นใจไทยได้ประโยชน์จากเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลง


ผู้จัดการออนไลน์, 26 พ.ค. - นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลง หลังจากประเทศเกาหลีเหนือซ้อมรบยิงขีปนาวุธลงทะเลประเทศญี่ปุ่น ว่า ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการนำเข้าสินค้าที่ถูกลง ซึ่งในแต่ละปีประเทศไทยนำเข้าสินค้าทุนจากญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการอ่อนค่าของเงินเยนจะเป็นเพียงระยะสั้น และเมื่อนักลงทุนเข้าใจในการซ้อมรบ สถานการณ์ค่าเงินเยนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ


 


นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทของประเทศไทยว่า มีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว และอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้


 


 






คุณภาพชีวิต


 


ชาวกรุงได้เฮโอเคสร้างรถไฟฟ้า คนกทม.ฝั่งตะวันตกได้ทั้งเส้น


สยามธุรกิจ - นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน แห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) และคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ประมาณเดือนก.ค. และเริ่มประกวดราคาในเดือนส.ค. 2550


 


ขณะที่ช่วงบางซื่อ-รังสิต วงเงิน 52,220 ล้านบาท คาดว่าจะใช้วงเงิน กู้ประมาณ 50,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) ประมาณ 70% ที่เหลือ 30% เป็นแหล่งเงินกู้ภายในประเทศ โดยจะเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบการ ประกวดราคาอีกครั้ง ช่วงเดือน พ.ย. 2550 และจะเริ่มประกวดราคาเดือน ม.ค.2551 ซึ่งจะลงนามสัญญา และดำเนินการก่อสร้างได้ภายในเดือน ส.ค.2551 คาดว่าจะแล้วเสร็จใน เดือน ส.ค.2555


 


"ช่วงเดือนก.ค.นี้ จะเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ต่อไปคาดว่าจะสามารถประกวดราคาได้เร็วกว่าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต เพราะ แผนงานต่างๆ ใกล้เสร็จแล้ว อยู่ในขั้นตอนที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังศึกษา พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พ.ศ.2535 และช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. จะ สามารถประกวดราคาได้" รองผอ.สนข. กล่าว


 


ด้านนายนคร จันทศร รองผู้ว่าการ รถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า โครงการ ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติไปแล้ว ร.ฟ.ท.จะออกประกาศเชิญชวน และขายแบบก่อสร้างในราวปลายเดือนมิ.ย.-ต้นก.ค.2550 จากนั้นอีกประมาณ 45-60 วัน จึงจะเปิดให้ยื่นซองประกวดราคา ซึ่งคาดว่าจะเป็นต้นเดือน ต.ค. 2550 และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีนี้ หรือราวต้นปีหน้า


 


สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีมูลค่าโครงการประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยจะใช้เงินกู้จากในประเทศ 11,000 ล้านบาท และที่เหลืออีก 2,000 ล้านบาทเป็นงบประมาณของรัฐ


 


พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติการก่อสร้างโครงการระบบไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชัน ประกอบด้วยช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม.วงเงิน 13,133 ล้าน บาท คาดว่าจะประกาศประกวดราคาได้ช่วงปลายเดือนมิ.ย.-ต้นเดือนก.ค.นี้ และช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. วงเงิน 52,220 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการจัดหาแหล่งเงินกู้ การปรับเพิ่มสถานี และการปรับรายงานผลกระทบ สิ่งแวดล้อม หากแล้วเสร็จจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. พิจารณาอีกครั้ง ก่อนดำเนินการประกวด ราคา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท) เป็นผู้ดำเนิน การ และรัฐบาลจะรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด


 


ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ตามความจำเป็นและเหมาะสม และให้กระทรวงการคลัง จัดหาแหล่งเงินกู้และวงเงินค้ำประกันต่อไป รวมถึงอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงมติ ครม. เดิมเมื่อปี 2549 เกี่ยวกับการจัดสรรวงเงินงบประมาณ 1,102 ล้านบาท ให้ ร.ฟ.ท.ดำเนินโครงการก่อสร้างช่วงบางซื่อ-รังสิต มาดำเนินโครงการรถไฟช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันก่อน


 


นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบการขยายกรอบวงเงินลงทุน และขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณในโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ เส้นทางชายฝั่งทะเลตะวันออก ฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉะบัง ระยะทาง 78 กม. เพิ่มขึ้นจากเดิมวงเงิน 5,235 ล้านบาทระยะเวลาปี 2547-2550 เป็น 5,850 ล้านบาท ระยะเวลาปี 2547-2553 หรือเพิ่มขึ้น 615 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 7 ปี อย่างไรก็ตาม ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามความตกลงร่วม กันระหว่างรัฐบาลไทย และจีน ว่าด้วยการค้าแลกเปลี่ยนสินค้า (บาร์เตอร์เทรด) ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจีนไม่มีปัญหา


 


เพราะไทยยังเปิดโอกาสให้จีนมีโอกาสเข้ามาลงทุนหรือร่วมประกวดราคาโครงการก่อสร้างครั้งนี้ นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง กล่าวว่า ในวันที่ 27 พ.ค. นี้ คณะผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่นจะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อหารือกันในวันที่ 28 พ.ค.เกี่ยวกับแนวทางการลงทุนก่อสร้างโครง การรถไฟฟ้า และรายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งเงินกู้ต่างๆ กับกระทรวงการคลัง


 


ร.ฟ.ท.เร่งเข็น 2 เมกะโปรเจกต์ รถไฟรางคู่-รถไฟฟ้าสายสีแดง


สยามธุรกิจ - มติครม.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่เส้นทางฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 78 กิโลเมตร วงเงินกว่า 5,800 ล้านบาท รวมทั้งอนุมัติกรอบการดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงเส้นทางบางซื่อ-ตลิ่งชัน และเส้นทางบางซื่อ-รังสิต ระยะทางทั้งสิ้น 41 กม. วงเงินก่อสร้าง 65,000 ล้านบาท โดยเส้นทางบางซื่อ-ตลิ่งชัน จะใช้แหล่งเงินภายในประเทศจำนวน 13,000 ล้านบาท


 


นายถวิล สามนคร รองผู้ว่า ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการเร่งด่วน และเป็นโครงการสำหรับสนับสนุนแผนพัฒนา ลอจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่มีการ เตรียมความพร้อมมานานแล้ว โดยขณะนี้ ร.ฟ.ท. กำลังเร่งพิจารณาจัดทำเงื่อนไขการประกวดราคา คาดว่าอย่างช้าที่สุดน่าจะเปิดประกวดราคาได้ในเดือนก.ค.นี้


 


สำหรับกรณีที่ว่ามีเอกชนรายใดแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟรางคู่นั้น นายถวิล กล่าวว่า เนื่องจากร.ฟ.ท. ยังไม่ได้ลงประกาศประกวดในเว็บไซต์ จึงยังไม่มีข้อมูลผู้ประกอบการที่แสดงความจำนงเข้ามา แต่ร.ฟ.ท.ก็มีรายชื่อบริษัทที่เคยมีผลงานกับ ร.ฟ.ท.ในเรื่องการก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่มาก่อน เช่น บริษัท อิตาเลียน ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท นามประเสริฐก่อสร้าง จำกัด ฯลฯ ส่วนระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง รวมถึงการติดตั้งระบบอาณัติสัญาณ รวมทั้งสิ้น 28 เดือน


 


ส่วนการเดินรถเพื่อขนส่งสินค้าทางรถไฟในเส้นทางดังกล่าวนี้นั้น ตามนโยบายรัฐบาลเดิม แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนหนึ่งให้บริษัทลูกของรถไฟเป็นผู้ดำเนินการขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ คือ บริษัทรถไฟขนส่งสินค้าตะวันออก และอีกส่วนหนึ่งจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมดำเนินการ อย่างไรก็ตามต้องดูนโยบายรัฐบาลนี้ว่า มีนโยบายในเรื่องการเดินรถขนส่งสินค้าสายตะวันออกอย่างไร


 


"สำหรับกรณีความร่วมมือกับการท่าเรือ แห่งประเทศไทย (กทท.) นั้น คงจะมีการเจรจาเพิ่มเติม เนื่องจากเดิม ร.ฟ.ท.กับกทท.มีความร่วมมือในการสนับสนุนลอจิสติกส์ตามนโยบายรัฐบาล โดยในขณะนั้น กทท.จะสนับสนุนงบประมาณให้ ร.ฟ.ท.ในการจัดซื้อหัวรถจักรเพื่อนำมาวิ่งในเส้นทางดังกล่าว แต่เนื่องจากเงื่อนไขเดิมทำตาม repeak order ที่มีการ Contact กับจีน แต่ขณะนี้นโยบายมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นต้องคุยกับทางท่าเรือก่อนว่าเขาจะยืนยันความร่วมมือกับรถไฟฯต่อหรือไม่" นายถวิล กล่าว


 


นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะจัดเตรียมวิธีการกู้เงินเพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ โดยร.ฟ.ท.จะเป็นผู้กู้เงิน 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งปกติจะเป็นการออกพันธบัตรที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน โดยจะทยอยออกตามความจำเป็นในการใช้เงิน ส่วนการเจรจากู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) เพื่อใช้ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงเส้นทางบางซื่อ-รังสิต รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าอีก 4 สายที่เหลือนั้น ในวันที่ 27 พ.ค.นี้คณะผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่นจะเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อพบปะกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 28 พ.ค.รวมทั้งหารือถึงการปล่อยกู้ของเจบิค จากนั้นคณะผู้แทนของเจบิคก็จะเดินทางมา


 


อย่างไรก็ตาม การที่ครม.ออกมาไฟเขียว ทั้ง 2 โครงการ ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีความคึกคักมากขึ้น นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การนำเสนอโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีแดง และโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออกเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มองว่าเป็นโอกาสดีที่จะสร้างสีสันให้กับหุ้นกลุ่มรับเหมาอีกครั้ง


 


คาดว่าหลังจากที่มีการเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้วคาดว่าภายใน 1-2 เดือนจากนี้จะสามารถสรุปเงื่อนไขการประมูลงาน (TOR) ได้ และคาดว่าจะสามารถคัดเลือกผู้ประกอบการที่จะเข้ามาประมูลงานการก่อสร้างในโครงการดังกล่าวได้ประมาณปลายไตรม ส 3/2550 หรือต้นไตรมาส 4/2250 ดังนั้น คาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมา โดยเฉพาะ CK, ITD และ STEC จะเป็นที่น่าจับตาและอาจจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงเก็งกำไรของนักลงทุนได้


 


ชาวแฟลตดินแดงเริ่มยิ้มได้สภาวิศวกรย้ำยังไม่ต้องทุบ


โพสต์ทูเดย์ — นายวิระ มาวิจักขณ์ นายกสภาวิศวกร กล่าวเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ว่า ตามที่สภาวิศวกรได้รับการร้องขอจากการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ช่วยสอบทานข้อมูลที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ได้สำรวจโครงสร้างของแฟลตดินแดง โดยตกลงทำงานร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) นั้น ทางคณะทำงานของสภาวิศวกรเห็นด้วยกับเอไอทีว่า กคช.น่าจะรีบซ่อมแซมแฟลตบางส่วนอย่างเร่งด่วน ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของกรมโยธาธิการในส่วนของกรมโยธาธิการลงตรวจ 2 ครั้ง พบว่าส่วนที่เสียหายมีความเสียหายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากการประเมินค่าซ่อมของทั้งสองกลุ่มอาคาร คือ อาคาร 1-8, 20-32 รวม 20 อาคาร จะต้องใช้เงินซ่อมรวม 49-50 ล้านบาท


 


"อาคารที่ต้องซ่อมเป็นอาคารที่มีการสึกกร่อนของเหล็กเสริมเป็นสนิมเกินกว่า 10% บางส่วนอาจไม่จำเป็นต้องซ่อม โดยด่วน แต่มีความเสี่ยงเรื่องการเสื่อม สภาพ" นายวิระกล่าว


 


ที่ผ่านมา มีคณะทำงานที่มีความ เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมโยธาลงพื้นที่ตรวจสอบพิจารณาแฟลตดินแดง โดยก่อนตรวจสอบได้ศึกษารายงานของเอไอที รวมทั้งรายงานของกรมโยธาธิการ และ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม คณะทำงานของนายอรุณ ชัยเสรี และนายเอกสิทธิ์ ลิ้มสุวรรณ ได้ออกสำรวจ ซึ่งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมการประชุมของคณะกรรมการ กคช.อนุมัติงบซ่อมแซมแล้ว 20 ล้านบาท


 


"แฟลตดินแดงควรเริ่มซ่อมแซมเร็ว ที่สุด แต่มีเรื่องทางสังคม ความสะดวกของประชาชนเป็นสิ่งที่ กคช.ต้องไปบริหารจัดการ ส่วนการที่อาคารจะพังลงมาทันทีไม่มีแน่นอน ส่วนเหตุผลในการรื้อนั้นเป็นสิ่งที่คณะกรรมการ กคช.จะต้องพิจารณา ทั้งนี้ สภาวิศวกรและ ว.ส.ท.จะแจ้งให้ กคช.ทราบต่อไป" นายวิระกล่าว


 


นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา ที่ปรึกษา คณะทำงานสอบทานปัญหาแฟลตดินแดง กล่าวว่า จุดที่มีปัญหาค่อนข้างหนักในส่วนของตัวอาคารแฟลตดินแดงอยู่ที่บริเวณห้องน้ำและปล่อยทิ้งขยะ ซึ่งน้ำขยะและ น้ำห้องน้ำได้กัดกร่อนซีเมนต์ซึมทำให้เกิดความเสียหาย ขณะที่การบำรุงรักษาไม่มีใครเป็นผู้จัดการดูแล เพราะเป็นการใช้งานส่วนรวม อย่างไรก็ตาม แฟลตดินแดง น่าจะซ่อมโดยเร็ว ส่วนการพังทันทีไม่ เกิดขึ้นแน่นอน


 


เตือนอย่าซื้อเห็ดป่ารับประทาน ติวเข้มแผนเฝ้าระวัง-คุมโรค


โพสต์ทูเดย์ - วานนี้ (25 พ.ค.) ทพ.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนประชาชนมักจะซื้อเห็ดป่ามาประกอบอาหารรับประทาน ซึ่งเห็ดป่าที่รับประทานเข้าไปอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายถึงชีวิต โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ ปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานเห็ดพิษ 2 ราย และทหารกว่า 10 นายต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะรับประทานเห็ดพิษ จึงฝากเตือนประชาชนว่าไม่ควรซื้อเห็ดที่ไม่รู้จักมารับประทาน เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากปัจจุบันมีชาวบ้านนำเห็ดป่าจำหน่ายตามท้องถนนเป็นจำนวนมาก


 


ที่ จ.เชียงราย นพ.ทรงวุฒิ หุตามัย ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้อบรมแกนนำเครือข่ายสื่อสารสุขภาพ และสื่อมวลชนจาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์และทันต่อเหตุการณ์ และสร้างความเข้าใจด้านสุขภาพที่ถูกต้องแก่ประชาชน ทำให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง รู้วิธีป้องกันและการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ไม่ตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ อันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ผ่านมา เช่น ปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก


 


อุตุเผยสัปดาห์ฝนทั่วประเทศแต่ปริมาณลดลง


ไอ.เอ็น.เอ็น - วานนี้ (25 พ.ค.) กรมอุตุฯเผย สัปดาห์หน้าจะมีฝนตกทั่วประเทศ แต่ปริมาณลดลงกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาวะอากาศตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนและประเทศไทย มีกำลังอ่อนถึงปานกลางตลอดช่วง โดยเฉพาะในช่วงวันที่26-28 พฤษภาคม 2550 ลักษณะ ดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยทางด้านตะวันตก ซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมมีฝนมากกว่าบริเวณอื่นๆ ในระยะนี้ โดยภาคเหนือมีฝนตกร้อยละ 30-50 ของพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ภาคกลาง ตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนตกร้อยละ 30-40 ของพื้นที่เนื่องจากในระยะนี้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีปริมาณฝนน้อยโดยจะมีฝนตก ในช่วงเวลาสั้นๆ ขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างระมัดระวังไว้ด้วย


 


 






ต่างประเทศ


 


พม่าขยายเวลากักบริเวณ"อองซาน ซูจี"อีก1ปี


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลทหารพม่าได้ออกคำสั่งขยายเวลากักบริเวณนางอองซาน ซูจี ผู้นำการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยพม่าวัย 61 ปี ออกไปอีก 1 ปี ข่าวดังกล่าวมีขึ้น ขณะคำสั่งกักบริเวณนางซูจีจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค.) โดยก่อนนี้ สหประชาชาติ สหภาพยุโรป



สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รวมถึงประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ออกมาเรียกร้องให้พม่าปล่อยตัวนางซูจี ซึ่งสูญเสียอิสรภาพรวมกันกว่า 10 ปี ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน มีการออกคำสั่งกักบริเวณนางซูจีอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่รัฐบาลยังยืนยันข่าว ที่ระบุว่า เมื่อเวลา 15.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีรถโตโยต้าติดฟิล์มดำแล่นเข้าไปในบริเวณบ้านพักริมทะเลสาบชานกรุงย่างกุ้งของนางซูจี ก่อนออกไปในอีก 10 นาที แหล่งข่าวเผยว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ซึ่งมาแจ้งคำสั่งขยายเวลากักบริเวณรอบใหม่


 


นางซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ เป็นหัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยที่ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อปี 2533 แต่รัฐบาลทหารไม่ยอมลงจากอำนาจ และสั่งกักบริเวณเธอ โดยปกติรัฐบาลจะไม่แถลงข่าวการกักบริเวณซูจีต่อสาธารณชน แต่จะใช้วิธีนำคำสั่งไปอ่านให้นางซูจีฟัง



ที่ผ่านมา รัฐบาลพม่าไม่เคยแสดงท่าทีใดๆ ว่าจะปล่อยตัวซูจี แม้จะถูกประณามอย่างรุนแรงจากประชาคมโลก และได้รับการร้องขอจากกลุ่มอาเซียนซึ่งพม่าร่วมเป็นภาคี ขณะก่อนนี้นักวิเคราะห์ในญี่ปุ่นเชื่อว่า สถานการณ์ของซูจีจะไม่เปลี่ยนแปลง อย่างน้อยจนกว่าการประชุมสมัชชาแห่งชาติพม่าเพื่อร่างรัฐธรรมนูญจะแล้วเสร็จ หรือมีการทำประชามติรับรองรัฐธรรมนูญ รวมถึงอาจต้องรอจนกว่ามีการจัดเลือกตั้ง ซึ่งอาจใช้เวลาอีก 3-4 ปี


 


ศาลเวเนซุเอลาสั่งให้ทหารเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ฝ่ายค้าน


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ - ศาลสูงของเวเนซุเอลามีคำสั่งเมื่อวานนี้ให้กระทรวงกลาโหมเข้าควบคุมอาคารที่ทำการของสถานีโทรทัศน์อาร์ซีทีวี. ของฝ่ายค้านก่อนที่สถานีดังกล่าวจะถูกปิด ขณะที่กองทัพเวเนซุเอลาจัดพิธีสวนสนามบนทางหลวงในกรุงการากัสเพื่อแสดงแสนยานุภาพและป้องปรามฝ่ายค้านไม่ให้จัดการชุมนุมประท้วง


 


การตัดสินใจของประธานาธิบดีฮิวโก้ ชาเวซ ผู้นำเวเนซุเอลาที่ปิดสถานีโทรทัศน์อาร์ซีทีวี. ซึ่งนายชาเวซกล่าวหาว่าสนับสนุนการก่อรัฐประหารต่อต้านเขาเมื่อปี 2545 ทำให้นานาประเทศพากันประณามและทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลหลายครั้ง ทั้งนี้ศาลสูงสุดของเวเนซุเอลามีคำสั่งให้ทหารเข้าควบคุมและตรวจสอบอาคารบางแห่งและอุปกรณ์ของสถานีดังกล่าว ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์เชื่อมโยงสัญญาณและเสาอากาศทั่วประเทศด้วย เจ้าหน้าที่ของอาร์ซีทีวี. เชื่อว่าทหารจะเข้ายึดสำนักงานใหญ่ของอาร์ซีทีวี.ในกรุงการากัสก่อน อย่างไรก็ตามศาลให้เหตุผลว่า การเข้าควบคุมของทหารก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งมอบสถานีดังกล่าวให้กับรัฐ จะเป็นไปอย่างราบรื่น โดยรัฐบาลจะนำรายการที่ส่งเสริมคุณค่าการปฏิวัติแบบสังคมนิยมของนายชาเวซมาออกอากาศแทน


 


สื่อเกาหลีใต้รายงานเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเพียงลูกเดียว


สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ - สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองวานนี้ (25 พ.ค.) ว่า เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธเพียงลูกเดียวเมื่อวานนี้ ไม่ใช่หลายลูกตามที่เป็นข่าว โดยขีปนาวุธดังกล่าวเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่ยิงจากชายฝั่งทางด้านตะวันออกของเกาหลีเหนือ แต่มีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะทดลองยิงขีปนาวุธอีกลูกหนึ่งทางฝั่งตะวันตกของประเทศภายในวันนี้ เนื่องจากทางการเกาหลีเหนือมีคำสั่งเมื่อเช้านี้ให้เรือประมงงดออกจากฝั่ง


 

ก่อนหน้านี้สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค.ของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวานนี้ว่า เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่เรือหลายลูกนอกชายฝั่งทั้งทางด้านตะวันออกและตะวันตกของประเทศ อย่างไรก็ตามสหรัฐและพันธมิตรของสหรัฐในเอเชียไม่ให้ความสนใจการทดลองขีปนาวุธครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นการซ้อมยิงตามปกติ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net