5 พ.ค. 50 - นักศึกษามหาวิทยาลัยวิสคอลซิน นำโดย Katherine Guerra ประธานนักศึกษาเพื่อการรณรงค์ด้านเอดส์ (Student Global AIDS Campaign) ได้รณรงค์ล่ารายชื่อศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยวิสคอลซิน เมดิสัน เพื่อส่งหนังสือร้องเรียนต่อมูลนิธิส่งเสริมการวิจัยของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวิสคอนซิล (WARF) ให้กระตุกต่อมสำนึกของบริษัทแอ๊บบอต ที่นำยาโรคไตที่เป็นผลงานของมหาวิทยาลัยไปเป็นเครื่องต่อรองกับกระทรวงสาธารณสุขไทยให้ยุติการประกาศบังคับใช้สิทธิ
"ตามคำประกาศหลักการดังกล่าวเราเห็นว่า มูลนิธิส่งเสริมการวิจัยของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวิสคอนซิล จะต้องเรียกร้องอย่างเปิดเผยต่อบริษัท Abbott ให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนยา Zemplar คืนกลับในประเทศไทยโดยเร่งด่วน ในวันที่ 27 เมษายน ผู้ป่วย แพทย์ และผู้เกี่ยวข้องทั้งโลก จะร่วมกันเรียกร้องต่อบริษัท Abbott รวมทั้งผู้ถือหุ้นของบริษัท Abbott ผู้นำจากชุมชน ผู้ป่วยในประเทศไทย จะได้ใช้โอกาสนี้เรียกร้องโดยตรงต่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Abbott ที่จะไม่ใช้โอกาสกระทำทางการเมืองเพื่อประโยชน์ทางการค้าและไม่ใช้ผู้ป่วยเป็นตัวประกันทางการเมือง เราขอเรียกร้องให้ มูลนิธิส่งเสริมการวิจัยของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวิสคอนซิล ผู้เป็นเจ้าของสิทธิบัตรของหนึ่งในยาเหล่านั้นแสดงตัวตนและส่งเสียงเรียกร้องถามหาความเป็นธรรมให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา" ถ้อยความในจดหมายระบุ
โดยเนื้อความของจดหมายทั้งภาษาอังกฤษ และภาคแปลเป็นภาษาไทย มีดังนี้
April 26, 2007
|
26 เมษายน 2550 ส่งถึง Mr. Carl E. Gulbrandsen ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิส่งเสริมการวิจัยของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวิสคอนซิล 1330 ตึกวาล์ฟ 610 ถนนวอลนัท เมดิสัน WI 533726 เรียน Mr. Gulbrandsen, ในนามของนักศึกษามหาวิทยาลัยวิสคอนซิล เมดิสันจำนวนมากที่มีความห่วงใยอย่างยิ่ง เราขอเรียกร้องให้มูลนิธิส่งเสริมการวิจัยของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวิสคอนซิล (WARF) เรียกร้องต่อบริษัท Abbott ยุติการกระทำที่ไร้สติต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์ที่มหาวิทยาลัยของเราคิดค้นขึ้น เป็นที่ตระหนักดีว่า เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศไทยได้ดำเนินการปกป้องสุขภาพของประชาชนโดยปฏิบัติตามความตกลงการค้าที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา (TRIPS) ขององค์การการค้าโลกเพื่อที่จะดำเนินการใช้สิทธิต่อยาที่มีสิทธิบัตรกับยาช่วยชีวิตในประเทศไทยประกอบด้วย Aluvia ซึ่งเป็นยาต้านไวรัส HIV/AIDS ที่สำคัญ [1] ทันทีหลังการตัดสินใจดังกล่าว บริษัท Abbott Laboratories ซึ่งเป็นผู้ผลิต Aluvia ได้ประกาศที่จะไม่นำผลิตภัณฑ์ยาใหม่ดังกล่าววางตลาดในประเทศไทย บริษัทยังได้ดำเนินการเพิกถอนยาที่กำลังอยู่ในระหว่างขึ้นทะเบียนยาในประเทศไทย ภายใต้แรงกดดันของนานาชาติ บริษัท Abbott ได้เสนอที่จะลดราคายา Aluvia ลงแต่ปฏิเสธที่จะนำยาดังกล่าวเข้าสู่การขึ้นทะเบียนใหม่โดยมีข้อแม้ว่ารัฐบาลไทยจะต้องหยุดการดำเนินการใช้สิทธิต่อยาที่ติดสิทธิบัตร ดังนั้นองค์การหมอไร้พรมแดนและองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆจึงประนามบริษัท Abbott ที่ใช้กลยุทธทางการเมืองดังกล่าวเพื่อขัดขวางการเข้าถึงยาของประชาชน ประเทศพัฒนาแล้วได้มีการใช้สิทธิต่อยาที่มีสิทธิบัตรเป็นปกติ [2] แต่ประเทศกำลังพัฒนาต่างกังวลที่จะใช้สิทธิอันชอบธรรมดังกล่าวเนื่องจากกลัวการตอบโต้จากบริษัทยาเจ้าของผลิตภัณฑ์ ถ้าบริษัท Abbott ประสบความสำเร็จก็เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้รัฐบาลต่างๆที่กำลังดำเนินการใช้สิทธิต่อข้อยืดหยุ่นภายใต้ TRIPS ต้องเผชิญรายจ่ายจากแรงกดดันมหาศาลนี้ ไม่เพียงชีวิตของคนไข้ในประเทศไทยเท่านั้นที่กำลังเผชิญกับชะตากรรมดังกล่าว แต่ไปรวมถึงประชากรทั่วโลกด้วย หลังจากที่ท่านและเราได้มีการพบปะพูดคุยกันเมื่อเร็วๆนี้ เราขอยืนยันว่า การค้นพบทางการแพทย์ที่ทรงคุณค่าของเมดิสันได้ถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมืองในการแสดงปฏิกิริยาของบริษัท Abbott เราได้แนบจดหมายของบริษัท Abbott ที่ได้มีถึงรัฐบาลไทยที่ขอถอนการขึ้นทะเบียนยาหลายรูปแบบของ Zemplar แหล่งข้อมูลจากประเทศไทยยืนยันว่า การเพิกถอนการขึ้นทะเบียนยาดังกล่าว มีผลในทางปฏิบัติแล้ว เราเชื่อว่าการแสดงออกนี้เป็นโอกาสสำคัญของมูลนิธิฯ ที่จะแสดงความเป็นผู้นำต่อการถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยตระหนักรับผิดชอบต่อสังคมในคำกล่าวยืนยันเกี่ยวกับหลักการใช้สิทธิต่อผลประโยชน์ของสาธารณะซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนที่ผ่านมา เอกสารของทางมูลนิธิส่งเสริมการวิจัยของสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวิสคอนซิล (WARF) ได้ระบุว่า "มหาวิทยาลัยมีความตระหนักอย่างยิ่งต่อความรับผิดชอบทางสังคม...เรามีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาความรู้ในหลายด้าน รวมทั้งนำผลการคิดค้นที่ได้รับไปสู่ประโยชน์ของสาธารณะ ในบรรดาการดำเนินการต่างๆในสาขาต่างๆ การคิดค้นในทางการแพทย์ถือได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสาขาอื่นๆ ในโลกนี้ประชากรนับล้านกำลังทุกข์ทรมานและล้มตายจากโรคที่ป้องกันและรักษาได้ ความล้มเหลวที่จะป้องกันและรักษาโรคอาจมีมาจากหลายสาเหตุ เรามีความรับผิดชอบที่จะบรรเทาความทุกข์ยากดังกล่าว ยังรวมถึงการแสวงหาหนทางที่จะแบ่งปันผลการคิดค้นที่เราไปสู่สังคมในราคาที่ผู้คนซื้อหาได้และอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ต่อคนจนคนยากลำบากในโลก" ตามคำประกาศหลักการดังกล่าวเราเห็นว่า WARF จะต้องเรียกร้องอย่างเปิดเผยต่อบริษัท Abbott ให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนยา Zemplar คืนกลับในประเทศไทยโดยเร่งด่วน ในวันที่ 27 เมษายน ผู้ป่วย แพทย์ และผู้เกี่ยวข้องทั้งโลก จะร่วมกันเรียกร้องต่อบริษัท Abbott รวมทั้งผู้ถือหุ้นของบริษัท Abbott ผู้นำจากชุมชน ผู้ป่วยในประเทศไทย จะได้ใช้โอกาสนี้เรียกร้องโดยตรงต่อผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Abbott ที่จะไม่ใช้โอกาสกระทำทางการเมืองเพื่อประโยชน์ทางการค้าและไม่ใช้ผู้ป่วยเป็นตัวประกันทางการเมือง เราขอเรียกร้องให้ WARF ผู้เป็นเจ้าของสิทธิบัตรของหนึ่งในยาเหล่านั้นแสดงตัวตนและส่งเสียงเรียกร้องถามหาความเป็นธรรมให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา บทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยจะต้องเรียกร้องการนำยาที่ได้พัฒนาขึ้นไปสู่ประชากรโลกอย่างเป็นธรรม ในปี 2001 มหาวิทยาลัยเยลประสบความสำเร็จในการชักชวน บริษัท Bristol-Myers Squibb ยอมให้มีการผลิตยาชื่อสามัญ Stavudine ที่เป็นยารักษาโรคเอดส์ ที่ถูกค้นคว้าขึ้นโดยมหาวิทยาลัยเยล การกระทำดังกล่าวเป็นครั้งแรกที่ทำให้เกิดการคลี่คลายปัญหาโดยผู้ถือสิทธิบัตรยาต้านโรคเอดส์ และถือเป็นโอกาสสำคัญในการบรรเทาปัญหาในความพยายามที่นำการรักษาไปยังผู้ป่วย เราขอให้เปิดช่องอย่างแบ่งปันเพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของประชากรนับล้านที่กำลังเจ็บป่วย ทนทุกข์ทรมาน ในประเทศกำลังพัฒนา และขณะเดียวกันก็เป็นเวลาที่มหาวิทยาลัยจะได้แสดงบทบาทของตน เราคาดหวังที่จะเห็นการแสดงออกของท่านก่อนวันที่ 4 พฤษภาคม และเราพร้อมที่จะหารือในประเด็นดังกล่าวแม้ก่อนถึงวันกำหนด ขอแสดงความนับถือ Katherine Guerra, kathmguerra@wisc.edu, Student Global AIDS Campaign
|
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)