Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า เกิดปัญหาปลาทะเลในฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะ จ.สตูล กระบี่ และ ตรัง ลอยขึ้นมาตายเหนือผิวน้ำเป็นจำนวนมาก ขณะที่น้ำทะเลในพื้นที่ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง อย่างไรก็ตาม หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องระบุว่า สาเหตุเกิดจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนินโญ่จนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำทะเล และยังทำให้มีการเพิ่มจำนวนของแพลงตอน หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ขี้ปลาวาฬ ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้นักท่องเที่ยวอย่างมาก


 


นายวิชัย รัตตมณี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบตัวอย่างปลาที่ตายทั้งใน จ.ตรัง และจังหวัดอื่นๆ ได้ผลสรุปตรงกันว่า เป็นการตายจากธรรมชาติ โดยไม่ปรากฏพบสารพิษที่เกิดมาจากการวางยา หรือการระเบิดแต่อย่างใด สาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นผลกระทบมาจากปรากฏการณ์เอลนินโญ่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้ำของทะเล เนื่องจากภาวะโลกที่ร้อนมากขึ้นทำให้น้ำแข็งขั้วโลกเกิดการละลาย จากนั้นกระแสน้ำเย็นได้ไหลลงมาสู่พื้นที่ด้านล่าง และผ่านมาจนถึงท้องทะเลอันดามัน ซึ่งปกติแล้วปลาจะอาศัยอยู่ในท้องทะเลลึก แต่เมื่อต้องมาเจอกับกระแสน้ำเย็นจัด ปลาจึงพยายามจะว่ายขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อหาน้ำอุ่น แต่เนื่องจากการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิในครั้งนี้เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้ปลาปรับสภาพไม่ทันจึงต้องตายไป ซึ่งยากที่จะหาหนทางแก้ไขหรือป้องกันได้ เพราะปลาต้องอาศัยอยู่ในท้องทะเลลึกเท่านั้น และไม่สามารถขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำได้ เพราะกระแสน้ำร้อนมากเกินไป


 


นายวิชัย กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงในขณะนี้ก็คือ ขณะนี้ปะการังที่หินแดง-หินม่วง แหล่งดำน้ำดูปะการังชื่อดังของทะเลอันดามัน เริ่มจะตายไปบ้างแล้วบางส่วน ซึ่งเป็นเพราะต้องเจอกับสภาพกระแสน้ำที่เย็นจัด โดยเฉพาะในท้องทะเลลึกประมาณ 4 เมตร


 


"ผมกังวลว่า ถ้าในอนาคตปะการังในท้องทะเลต้องตายลงไปเพราะปรากฏการณ์นี้เพิ่มมากขึ้น และขยายเข้ามายังฝั่ง จ.ตรัง รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา และท้ายที่สุดก็จะส่งผลกระทบมาถึงเรื่องการท่องเที่ยว แต่ก็หวังว่าเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนั้นคงไม่เกิดขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านทะเลจะสามารถค้นพบหนทางรับมือเสียแต่เนิ่นๆ" นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวในที่สุด



 


ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงปรากฏการณ์ปลาตายจากสภาวะเอลนินโญ่ว่า ปีนี้ทะเลฝั่งอันดามันได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์เอลนินโญ่ มีกระแสน้ำเย็นจากทะเลลึกเคลื่อนที่เข้ามาบริเวณทะเลอันดามัน ซึ่งกระแสน้ำเย็นจากทะเลลึกจะมีธาตุอาหารมาก ทำให้มีแพลงตอนอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอ่าวไทย



 


"ช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน คนที่ไปดำน้ำจะพบว่าน้ำทะเลจะขุ่น เพราะมีแพลงตอนเกิดขึ้นเยอะ ซึ่งแพลงตอนทำให้เกิดอาการคันตามผิวหนัง แต่ไม่มีอันตรายอะไร เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ไม่รุนแรงถึงขนาดทำให้ปลาตายเหมือนครั้งนี้"



 


อย่างไรก็ตาม ดร.ธรณ์ มองว่า ปรากฏการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับท้องทะเลไทยจากปรากฏการณ์เอลนินโญ่และการเปลี่ยนแปลงของมหาสมุทร ซึ่งอยู่นอกเหนือการป้องกันหรือฟื้นฟูของมนุษย์ โดยภาคธุรกิจท่องเที่ยวด้านนี้อาจได้รับผลกระทบ จึงต้องมีการวางแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อปะการังอ่อนเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน ที่เคยเกิดขึ้นกับหมู่เกาะสุรินทร์ ตอนนี้ปะการังก็ยังไม่ฟื้นเลย



 


ขณะเดียวกัน นางประเสริฐสุข จามรมาน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า ขณะนี้ สผ.จัดทำร่างยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเสร็จแล้ว มีทั้งหมด 6 ด้าน ได้แก่ การสร้างความสามารถในการปรับตัว การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มขีดความสามารถ การปรับปรุงโครงสร้างกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ สนับสนุนการทำวิจัยกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อขยายฐานความรู้และเตรียมการแก้ไขปัญหา เป็นต้น ทั้งนี้ นโยบายการเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศพบว่า โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งด้านน้ำ การอนุรักษ์ทรัพยากรดิน การอนุรักษ์ป่าไม้ เป็นต้น แบบสำคัญในการบรรเทาภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กำลังขยายผลโครงการมากขึ้น



 


วันเดียวกัน นายธารา บัวคำศรี ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถลงข่าวเนื่องในวันคุ้มครองโลก 22 เมษายนว่า ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาไฟป่า หมอกควัน ภัยแล้ง น้ำท่วม ที่เป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ถึงร้อยละ 90 ทั้งนี้ หากค่าเฉลี่ยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อคนต่อปีของประเทศไทยสูงเกินค่าเฉลี่ยมาตรฐาน 4 ตันต่อคนต่อปี จะส่งผลกระทบก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนขั้นวิกฤติ ซึ่งปัจจุบันไทยปล่อยก๊าซเรือน กระจกเพียงแค่ 2.6 ตันต่อคนต่อปี ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน ในขณะนี้ต้องกระตุ้นจิตสำนึกให้คนไทยห่วงใยสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในการช่วยกันยุติภาวะโลกร้อน และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยให้ประชาชนร่วมลงชื่อเรียกร้องพลังงานสะอาดให้รัฐบาลออกนโยบาย นำพลังงานหมุนเวียน พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานชีวมวล มาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก



 


อย่างไรก็ตาม ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยยังไม่เข้าสู่สถานการณ์โลกร้อนตามที่เป็นข่าว แต่สภาพการณ์ที่ทุกคนประสบอยู่ในเวลานี้คือ อากาศร้อนจัด และในชนบทก็อยู่ในสภาพแห้งแล้ง บางพื้นที่ถึงกับขาดน้ำทั้งน้ำกินและน้ำใช้ แม้นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มจะออกมาบอกว่าไม่ใช่ปรากฏการณ์เอลนินโญ่ แต่เมื่อวัดอุณหภูมิน้ำทะเลหลายๆ ช่วง ก็พบว่ามีความแปรปรวนเกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ ตลอดปี 2549 สภาพดินฟ้าอากาศบ้านเราแปรปรวนผกผันอยู่ตลอดเวลา ทำให้แผนการจัดการที่วางเอาไว้คลาดเคลื่อนเกือบทั้งหมด



 


ดร.รอยล กล่าวว่า การตั้งรับกับสถานการณ์ร้อนแล้งที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคตจนกลายเป็นภาวะโลกร้อนนั้น จะต้องจัดการทั้งเรื่องการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เช่น ควรยกเลิกการใช้อ่างอาบน้ำตามบ้านเรือน และสถานที่ต่างๆ ได้แล้ว ส่วนเครื่องปรับอากาศต้องปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ ต้องไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส หากต่ำกว่านี้จะทำให้อุณหภูมิอากาศนอกอาคารสูงขึ้น เมื่ออุณหภูมิสูง น้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ก็จะระเหยเร็วขึ้น ซึ่งสภาพอากาศร้อนมากทำให้น้ำที่มีความลึก 2 เมตร ระเหย หายไปหมดภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น ปรากฏการณ์น้ำระเหยเร็วเช่นนี้กำลังเกิดรุนแรงในภาคเหนือตอนล่าง เช่น ที่ จ.นครสวรรค์ พิจิตร การปลูกต้นไม้และลดการใช้พลังงานลงจะเป็นวิธีการลดการระเหยของน้ำได้ดีที่สุด



 


 


....................................


ที่มา : http://www.komchadluek.net

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net