Skip to main content
sharethis

 

การเมือง

 

 

'สุรยุทธ์' จ้อผ่าน 'สายตรงจากทำเนียบ' แจงหลายปัญหา

เว็บไซต์เดลินิวส์ - พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสายตรงจากทำเนียบทางช่อง 11 และวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ โดย พล.อ.สุรยุทธ กล่าวว่า ไทยเสนอแนวคิดการวางหลักให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางเครือข่ายความร่วมมือด้านต่าง ๆ ในการทำประชาคมที่มองประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำให้คนเกิดความเข้าใจร่วมกันทั้งด้านคมนาคม ศก. การค้า การศึกษา เนื่องจากประชาคมอาเชียนมีความแตกต่างในด้านเชื้อชาติศาสนา วัฒนธรรม และได้พูดถึงความเชื่อที่น่าจะมีลักษณะเกิดความผสมผสานเรื่องศาสนา ทำอย่างไรให้มีอินเตอร์เฟรสพร้อมกันนี้ไทยได้เสนอเรื่องมหาวิทยาลัยอาเซียนอาจเป็นแคมปัสแยกออกไปในประเทศต่าง ๆ และหวังว่าเมนแคมปัสจะอยู่ในไทยเพราะถือเป็นศูนย์กลงการศึกษาในภูมิภาคนี้

 

ทั้งนี้ ประชาคมอาเซียนเดิมตั้งเป้าปี 2563 แต่ร่นมาปี 2558 นั้น อาเซียนได้ร่วมมือทำงานกันมานานพอสมควรเรามองว่าเป็นยุคโลกาภิวัฒน์หากรอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการก้าวไปสู่ประชาคมช้าไปก็จะทำให้ตามไม่ทันความเจริญของโลก เราพูดกันว่า ตรงนี้น่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในการเร่งไปสู่การก้าวไปสู่ประชาคม ขณะเดียวกันเราพูดกันกันว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดคือพลังใจของผู้นำและประชาชนประเทศอาเซียนในการไปสู่ประชาคม

 

การก้าวไปสู่ประชาคมประโยนช์หรือการเตรียมตัวของคนไทยนั้น เราอาจเสียบางอย่างอาจมีการเจรจาเรื่องการค้าที่มีเปิดมากขึ้นแต่ไม่อยากใช้คำว่าเสรี เพราะคำว่าเหมือนไม่มีอะไรเหลืออยู่ ทั้งที่เสรีคงไม่เปิดทั้งหมดแต่เปิดในบางรายการว่าจะมีประโยชน์อะไรเท่านั้น อันนี้ทำให้เราคลาดเคลื่อน หากในที่นี้เป็นการเปิดโอกาสทางการค้ามากขึ้น เราจำเป็นต้องมีส่วนได้ส่วนเสียตรงนี้

 

ในส่วนของคมนาคมก็เช่นกันเราคงไม่สามารถเดินไปได้คนเดียวแต่ต้องทำงานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในการสร้างการคมนาคมทั้งทางบก อากาศ น้ำ เพื่อให้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ไทยถือเป็นชาติที่มีความก้าวหน้าทางศก.ด็ต้องช่วยเพื่อนบ้าน ที่ดำเนินการอยู่คือเส้นทางคมนาคม สะพาน ให้ประเทศที่มีความใกล้ชิดกับเรา ที่มีการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายคมนาคมกับประเทศใหญ่ ๆ เช่นจีน อินเดีย ซึ่งส่วนนี้มีการพูดถึงอนาคตอีก10 ปีข้างหน้า

 

นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่าส่วนสมาชิกอาเซียนแม้ต่างแต่โครงสร้างทางศก.แต่มีอุตสาหกรรมบางอย่างที่คล้ายกันหากเปิดเสรีการค้าอุตสาหกรรมในประเทศที่ไม่แข็งจะช่วยอย่างไรนายกฯกล่าวว่า เราต้องปรับตัวเพราะก่อนจะไปถึงจุดนั้นก็เหลืออีก 8 ปี เราต้องศึกษาและเตรียมตัวให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราจะพบในอนาคตอันใกล้ เบื้องต้นอุตสาหกรรมประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม อินโด ฟิลิปปินส์เรามีข้อมูลอยู่แล้วก็น่าศึกษาและทำความเข้าใจได้

 

ถามว่า จะทำให้เรื่องชายแดนหายไปใช่หรือไม่นายกฯกล่าวว่า การเดินทางไปมาหาสู่กันเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่จะทำให้คนเกิดความรู้จักและคุ้นเคยทางด้านภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม ด้านอาหาร รวมทั้งแรงงานซึ่งหากมีการเคลื่อนไหว มีการถ่ายเทได้สะดวกลักษณะที่ถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะของประเทศก็จะเลือนไป เราอยากเห็นบริเวณชายแดนมีความสงบและสันติหากมีส่วนนี้แล้วโอกาสก้าวไปสู่ความฝันประชาคมที่แน่นแฟ้นก็ชัดเจนมากขึ้น แต่ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของแรงงานต้องถูกตามกฏหมายและดูความจำเป็นเท่านั้น

 

ส่วนในการพบทูตไทยประจำกลุ่มอินโดจีน ลาว กัมพูชา เวียตนามนั้นสาระสำคัญคือเราต้องแสดงความจริงใจกับประเทศเพื่อนบ้านคือการดำเนินการตามสัญญาอย่างต่อเนื่อง เพราะมีหลายอย่างที่กลุ่มประเทศอาเซียนพูดคุยกันมากแต่ทำน้อย ได้มอบหมายทูตประจำประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับทราบว่าขอให้มิตรประเทศเกิดความมั่นใจในท่าไทยว่ามีความจริงใจและตั้งใจที่จะดำเนินการตามสิ่งที่วางไว้

 

ส่วนการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้เพื่อนบ้านและมีผลกับเรา ภูมิภาค เช่นข้าวอย่างไร นายกฯกล่าวว่า เรื่องข้าวมีการหารือกับเวียตนามหลายครั้งในการประชุมที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งขรก.ระดับสูงจะคุยในรายละเอียดอีกคั้ง เกี่ยวกับแนวคิดของการผลิตข้าวและส่งออกว่าจะร่วมกันอย่างไร  ในการหารือศก.สามฝ่ายไทย อินโ ด มาเลย์นั้นเราจะเน้นการเพิ่มพื้นที่ที่เกี่ยวข้องในไทยให้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะแนวทางในการพัฒนาแบบสงขลา ปีนังเป็นแนวเส้นทางคมนาคม ตลอดจนการขยายการพัฒนาพื้นที่มาทางจว.ชุมพร สามจว.ภาคใต้ในจุดที่ต่อเนื่องกัน โดยนายกมาเลย์พูดกับตนว่าอยากหารือในรายละเอียดคือชายแดน เพราะความไม่สงบเป็นปัญหาร่วมกันหากไทยมีความสงบมาเลย์ก็จะได้ประโยนช์กันทั้งสองฝ่าย

 

ส่วนปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า การดำเนินการของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีการปรับปรุงศอ.บต.ปรับเพิ่มกำลัง ที่มาจากประชาชนในพื้นที่มากขึ้น ถือเป็นหัวใจในการแก้ปัญหา การดูแลความสงบ ความปลอดภัยของประชาชน สิ่งเหล่านี้รวมทั้งงบประมาณที่เพิ่งได้รับอนุมัติและมีความครบถ้วนเกือบสมบูรณ์เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมาต่อไปก็เป็นเวลาการดำเนินการ ในเรื่องของการดูแลในเกิดความสงบและสันติสุข เป็นเรื่องสำคัญ ตามแนวทางของรัฐาล เราจำเป็นต้องลงไปทำงานระดับตำบล หมู่บ้าน สร้างความเข้าใจ เชื่อมั่นให้เกิดกองกำลังในการดูแล และเชื่อว่าจะได้รับการร่วมจากประชาชนมากขึ้น

 

ส่วนที่ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยนนั้น นายกฯกล่าวว่าเราต้องแก้ไขให้ได้ ในส่วนของก่อการร้ายเองเวลาที่ผ่านมาก็เป็นช่วงที่เขาทราบว่าแนวทางของเราจะแก้ปัญหาโดยสันติและได้รับการยอมรับในประเทศมุสลิม และเพื่อนบ้านซึ่งตรงนี้จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้ได้รับความช่วยเหลือและเห็นใจ หากใช้ความรุนแรงมากเท่าไหร่ผลกระทบต่อประเทศมุสลิมอื่นก็จะมากขึ้น

 

สำหรับการสร้างความสมานฉันท์รัฐจะสร้างสามัคคีอย่างไรนายกฯกล่าวว่า การสร้างสามัคคีอยู่ที่ความรู้สึกความเชื่อแต่ละคนว่าเราจะเดินทางอย่างไรเช่นการเมืองก็จะสันติวิธี ไม่มีใครต้องการให้เกิดความรุนแรง หน้าที่รัฐบาลคือดำเนินการกวดขันติดตามจับกุมคนสร้างความไม่สงบมาดำเนินการตามกม.และขอเรียนว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจเราได้กำชับ ผบ.ตร.ให้เร่งดำเนินการให้มีผลออกมาในระยะเวลาไม่ช้า

 

ส่วนการติดตามตัวคนร้ายที่ลอบวางระเบิด 9 จุดในพื้นที่ กทม. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยังตอบไม่ได้ว่าใครเป็นคนดำเนินการกับเรื่องทั้งหมดเช่นการวางระเบิดนายกฯกล่าว่า รัฐตอบไม่ได้อยู่ที่การสอบสวนของจนท.เราไม่เร่งขั้นตอนตรงนี้หากเร่งก็เหมือนในอดีตที่มีแพะ ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้เพราะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดี โดยเฉพาะในกทม. ตจว. ใต้เราพูดมาตลอดว่าหากกำหนดเวลาก็จะเป็นผลเสียต่อการสอบสวนทั้งนี้เราก็พยายามเร่งรัด แต่ตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่เพราะเกรงเป็นการกดดัน ตนได้พูดกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงไปแล้วและรัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อยากให้การดำเนินการ เป็นไปตามหลักนิติวิทยาศาตร์ไม่ใช่การคาดเดา

 

นายกฯกล่าวกรณีมีการส่งข้อมูลการข่มขู่วางระเบิดว่า ได้เข้มงวดและป้องกัน ซึ่งรัฐบาลได้พูดถึงมาตรการเฝ้าระวังหลังเกิดเหตุว่าเป็นภัยคุกคามแบบใหม่มีทุกประทศคือการขู่ระเบิดเพราะข้อมูลแพร่ไปง่ายตรวจสอบที่มาลำบาก เราก็เฝ้าระวังมากขึ้นจนท.ก็ต้องติดตามแหล่งที่มาของโทรฯและคำขู่ว่าเป็นเรื่องหลอกหรือจริง

 

 

นายกฯมาเลย์เตรียมเยือนไทยแก้ปัญหาไฟใต้

ผู้จัดการออนไลน์ -  อับดุลเลาะห์ บาดาวี นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย มีคิวเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการในเดือนหน้าหรือต้นเดือนมีนาคม เพื่อหารือกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พุ่งเป้าแก้ปัญหาความรุงแรงทางภาคใต้ของไทย

 

 

"นพดล"รับแล้ว ทักษิณพบล็อบบี้ยิสต์

ฃ เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ พบปะพูดคุยกับคนบริษัท บาร์เบอร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส บริษัทล็อบบี้ชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกาจริง แต่เป็นการพบกันในฐานะเพื่อนเก่า และมีการพูดคุยกันเรื่องงานประชาสัมพันธ์ทั่วไป ทั้งบริษัทนี้ก็คุ้นเคยกับหน่วยงานต่างๆของประเทศไทยเป็นอย่างดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นการปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการประชาสัมพันธ์ทั่วไป ที่เกี่ยวกับงานส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ

 

 

"หมอชูชัย" วอน "ประสงค์" เสียสละเก้าอี้ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ"

เว็บไซต์แนวหน้า - นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ หนึ่งใน 35 กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงตำแหน่งประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญว่าผู้ที่เหมาะสมว่าเป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้นควรเป็นบุคคลที่คณะกรรมาธิการยกร่าง ฯ 35 คนได้พิจารณาแล้วว่าเหมาะสม และควรอยู่ในคณะกรรมาธิการยกร่างฯ 25 คนที่ได้รับการคัดสรรมาจากสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) 100 คน เพราะมีขั้นตอนกระบวนการเลือกที่เป็นอิสระ ไม่ควรเป็นตัวแทนที่มาจากฝ่ายทหาร เพราะจะทำให้ภาพของ สสร.ทั้ง 100 คนเสียและจะเสียไปถึงรัฐธรรมนูญที่จะทำด้วย ซึ่งผู้ที่ตนเห็นว่าเหมาะสมนั้นก็มีอยู่หลายคน ทั้งนายจรัล ภักดีธนากุล ตัวแทนสายกระบวนการยุติธรรม นายวิชา มหาคุณ ตัวแทนสายกระบวนการยุติธรรม และนายเกริกเกียรติ พิพัฒ์เสรีธรรม ตัวแทนสายอาจารย์มหาวิทยาลัยและผู้ใหญ่อีกหลายคน

 

 

"นิตย์"ยืนยัน"ทักษิณ"จ้างบริษัทล๊อบบี้สหรัฐจริง "นพดล"ปัดอ้าง"ทักษิณ"แค่พบปะคุยเพื่อนเก่า

เว็บไซต์คมชัดลึก -  รมว.ตปท.เตรียมหารือนายกฯจับตาเฝ้าระวัง  ด้าน "พล.อ.บุญรอด"ชี้ รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามสื่อออกตีข่าว "นพดล"ยอมรับแล้ว "ทักษิณ"พบกับคนของ "บาร์เบอร์ กริฟฟิธ แอนด์ โรเจอร์ส" อ้างเป็นการพบปะคุยกันฐานะเพื่อนเก่า

 

 "เสธ. หมึกการันตี "พัลลภ" ไม่เอี่ยวบึ้ม กทม."สพรั่ง"ยันฝีมือกลุ่มการเมืองไม่ใช่ก่อการร้าย

เว็บไซต์คมชัดลึก - "สพรั่ง" ชี้ผู้เสียประโยชน์การเมืองเบื้องหลังบึ้ม กทม. พร้อมยืนยันไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย ด้านเสธ.หมึกการันตี"พัลลภ"ไม่มีเอี่ยว ชี้เสียสละเพื่อชาติมาตลอดไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน

 

คอมมานโดนับร้อยลุยค้น18จุดหิ้วพันโทหน่วยสงครามพิเศษ

เว็บไซต์คมชัดลึก - กองปราบฯค้นทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รวบ 15 ผู้ต้องสงสัยคดีบึ้มกรุง หิ้วพันโท หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เจ้าของวินรถตู้คนสนิทพันเอกผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิด"คาร์บ๊อง" บุกค้นแฟลตทหารลพบุรี รวบผู้ต้องสงสัยทั้งทหารบก-ทหารเรือ-พลเรือน แยกตัวสอบ การข่าวระบุเชื่อมโยงกลุ่มคาร์บอมบ์ ทำงานกันเป็นทอดๆ แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน

 

นายกฯเล็งทำประชาพิจารณ์หวยบนดิน

นายกรัฐมนตรี เผย กระทรวงพัฒนาสังคมฯ อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขหวยบนดินพร้อมเตรียมทำประชาพิจารณ์ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม

 

 

ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย รวบรวมความเห็นจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการออกนอกระบบ

เว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์ - ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย รวบรวมความเห็นจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการออกนอกระบบ เพื่อเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นผู้ชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคม โดยยืนยัน มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ยังคงเดินหน้าเรื่องมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ

 

 

 

ต่างประเทศ

 

อิสราเอล ประกาศระงับแผนการตั้งถิ่นฐานใหม่ของชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์

เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -  นายอามีร์ เปเรตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล มีคำสั่งให้ระงับแผนการตั้งถิ่นฐานชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์โดยไม่มีกำหนด เพื่อดูสถานการณ์ก่อน เนื่องจากเป็นประเด็นอ่อนไหว หลังจากคำประกาศการตั้งถิ่นฐานแห่งใหม่ของพลเรือนชาวยิวที่อพยพออกจากฉนวนกาซาเมื่อปี 2548 ในเขตเวสต์แบงก์ของอิสราเอล เมื่อเดือนที่แล้ว สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวปาเลสไตน์และมีการต่อต้านจากประชาคมโลก

 

 

 

 

คุณภาพชีวิต

 

 

สั่งรายงาน"หวัดนก"ทุกวัน รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ฉุนลูกน้องใส่เกียร์ว่าง

เว็บไซต์แนวหน้า - สั่งรายงาน"หวัดนก"ทุกวันรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ฉุนลูกน้องใส่เกียร์ว่างลุ้นระทึกผู้ป่วยบางปะหันรอผลพิสูจน์จากแล็บรองผวจ.พิจิตรขู่ไล่ขรก.ผู้นำท้องถิ่นลอบชนไก่สัตวแพทย์หญิงฉวีวรรณ เลียววิจักขณ์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงการรายงานสถานการณ์สัตว์ปีกป่วยตายในพื้นที่ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีปศุสัตว์จังหวัดหลายพื้นที่ไม่ส่งรายงานมายังศูนย์ควบคุมโรคไข้หวัดนกว่ากรมปศุสัตว์สั่งดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันไข้หวัดนกอย่างเข้มงวดตลอดเวลา โดยให้รายงานสัตว์ปีกป่วยตายเข้ามาทุกวัน และแม้ไม่มีก็ต้องรายงานเป็นศูนย์ หรือ Zero Report เพราะการไม่รายงานกับการรายงานเป็นศูนย์นั้นมีความแตกต่างกันมาก รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งหลายพื้นที่ อาจทำให้เกิดการติดขัดบ้าง แต่ได้กำชับให้เข้มงวดในการรายงานแล้ว

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net