Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 18.00 น.นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม ได้พิจารณาการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมสรุปและชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ต้องกำกับดูแลสอดส่องต้องไม่ให้เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ แต่คุณหญิงในฐานะคู่สมรส กลับทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเข้าข่ายความผิดกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100 (1) และ (3) คตส.จึงมีมติชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100 (1) และมีโทษ ตามกฎหมาย ปปช.มาตรา 122 ทั้งนี้ คตส.ได้มีมติเห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐ ที่เป็นผู้เสียหาย คือ กองทุนฟื้นฟูพัฒนาสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง ต้องมายื่นคำร้อง ต่อ คตส.ตามมาตรา 66 และ 67 ของ ปปช. จึงจะทำให้ คตส.ตั้งคณะอนุกรรมการ ไต่สวนและตั้งข้อกล่าวหา คุณหญิงพจมาน กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้


 



นายสักกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาชี้มูลความผิด การทุจริต ประพฤติมิชอบ ในโครงการจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนสายพานลำเลียงกระเป๋าและสัมภาระผู้โดยและเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยที่ประชุมสรุปว่า สัญญาการจัดซื้อจัดจ้าง ออกแบบและปรับเปลี่ยนระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าส่อพิรุธ เปิดช่องให้มีการทุจริต และการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดมีส่วนต่างเกิดขึ้นจริง มีราคาสูงเกินความเป็นจริง และมีการกระทำแบบนิติธรรมอำพราง


 



ดังนั้น คตส.จึงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญาและแยกพิจารณาการกระทำเป็นรายสัญญา ประกอบด้วย 1.สัญญาจัดซื้อจัดจ้างออกแบบและปรับเปลี่ยนระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และสัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ระหว่าง บทม. กับกิจการร่วมค้า ไอทีโอ โดยชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคมกับพวกรวม 11 คน 2.สัญญาจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX 9000 จากบริษัท จีอี อินวิชั่น โดยตรงโดยชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสุริยะ กับพวกรวม 11 คน โดยทั้งนี้ คตส. จะได้มีหนังสือ แจ้งไปยัง บทม. และ กระทรวงคมนาคม ให้มายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษ บุคคลที่ คตส.ชี้มูล ตามมาตรา 66 และ 67 ของ ปปช.จึงจะสามารถตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ได้ต่อไป ซึ่งคาดว่า จะมีการตั้งอนุฯไต่สวนทั้ง 2 เรื่องได้ในต้นปี 2550


 



สำหรับรายชื่อของผู้ที่ถูกกล่าวโทษทางอาญาตามมาตรา 157 และ มาตรา 83 นั้น ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ผู้ที่มีความผิดทั้ง 2 สัญญา รวม 4 คน คือ 1.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะประธานคระกรรมการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ กทภ. 2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม 3. นายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงในฐานะอดีตประธานบริษัทท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) และ 4. นายอดิเทพ นาคะวิสุทธิ์ อดีตผู้บริหารบริษัทท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการต่อรองราคาจ้างงาน ที่จ้างออกแบบปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยในการตรวจสอบกระเป๋าและสัมภาระ



 


สำหรับรายชื่อผู้ถูกระบุว่ามีความผิดตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างออกแบบและปรับเปลี่ยนระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและสัมภาระผู้โดยสาร ระหว่างบทม.กับกิจการร่วมค้า ITO จำนวน 11 คน นอกเหนือจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสุริยะแล้วยังประกอบด้วยอดีตบอร์ด บทม.อีก 9 คน คือ นายศรีสุข จันทรางค์สุ พล.อ.สมชัย สมประสงค์ พล.อ.อ.เทิดศักดิ์ สัจจะรักษ์ พล.อ.อ.ณรงค์ สังคพงศ์ นายชัยเกษม นิติศิริ นายอุทิศ ธรรมวาทิน นายวิษณุ พูลสุข นายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ นายวิชัย จึงรักเกียรติ



 


ส่วนกรณีที่ คตส.ชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องในกรณีสัญญาจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 จากบริษัทจีอีเอ็นวิชั่น จำนวน 16 คน พบว่า รายชื่อส่วนหนึ่งซ้ำกับกลุ่มบุคคลที่ถูกระบุว่ามีความผิดในกลุ่มแรก แต่ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นส่วนของคณะกรรมการต่อรองราคางานจ้างออกแบบปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยและสัมภาระ ซึ่งมีรายชื่อ อาทิเช่น นายอดิเทพ นาคะวิสิทธิ์ นายเพิ่มศักดิ์ พัฒนพงศ์ นายสมชัย สวัสดิผล นายสุรจิต สุรพลชัย นายเกรียงไกร ตินตะสุวรรณ ร.ท.กุศล ชุมพลรักษ์


 


 


 


ที่มา: http://www.komchadluek.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net