แปล/เรียบเรียงโดย พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจ
ชาเวซระหว่างการปราศรัยต่อผู้สนับสนุนที่เมืองกัวริโค (Guarico) ทางตะวันออกของกรุงคารากัส เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา (ที่มา AFP)
คารากัส, เวเนซุเอลา - ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ (Hugo Chavez) กล่าวสรรเสริญฝ่ายค้านที่ยอมรับความพ่ายแพ้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และกล่าวว่าชัยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นนี้แสดงให้เห็นว่าชาวเวเนซุเอลาสนับสนุนให้ประเทศไปสู่ทิศทางสังคมนิยมอย่างเข้มข้น
ชาเวซแถลงข่าวที่ทำเนียบประธานาธิบดี มิราฟรอเรส (Miraflores) กรุงคารากัส ประเทศเวเนซุเอลา เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังจากผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้น โดยเขาสามารถเอาชนะนาย
"พี่น้องที่ลงคะแนนให้ผมนั้น ไม่ได้ลงคะแนนเพื่อเลือกผมแต่เขาเลือก "แผนการสังคมนิยม" เพื่อสร้างเวเนซุเอลาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแท้จริง ผมขอแสดงความเคารพในการรับผิดชอบของฝ่ายค้านที่ยอมรับผลการเลือกตั้ง นี่เป็นเวลาที่ท่านจะยึดถือทัศนคติของประชาธิปไตยอย่างแท้จริงแล้ว" ชาเวซกล่าว
ผลการลงคะแนนปรากฏว่าชาเวซได้รับคะแนนเสียงถึง 7.2 ล้านเสียงจากผู้ออกมาใช้สิทธิ 12 ล้านคน นับเป็นชัยชนะจากเสียงส่วนใหญ่อย่างแจ่มชัด เพียงแต่ไม่ถึง 10 ล้านเสียงตามที่เขาหมายมั่นเอาไว้
ผู้สนับสนุนชาเวซกล่าวว่าเขาเป็นฝ่ายซ้ายที่มีวิสัยทัศน์ยอดนิยมคนหนึ่ง แต่ฝ่ายต่อต้านเขากล่าวว่าชาเวซเป็นพวกบ้าที่อันตราย ชาเวซมักปรากฏตัวในเครื่องแบบทหารพร้อมหมวกแบเรต์สีแดงอันหมายถึงชีวิตของเขาซึ่งเคยผ่านการเป็นทหารพลร่ม ชาเวซมักกล่าวว่าเขาเป็นทหารที่พระเจ้าส่งมาทำการปฏิวัติสังคมนิยม
ชัยชนะของชาเวซในครั้งนี้ ทำให้ชาเวซกลายเป็นผู้นำฝ่ายซ้ายคนที่ 6 ของลาตินที่ชนะการเลือกตั้งในปีนี้ ซึ่งชาเวซได้กล่าวว่าเขาต้องการดำเนินโครงการความร่วมมือภายในภูมิภาคลาตินอเมริกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อลดอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาค
ดูเหมือนว่าสหรัฐเองก็คงหนาวๆ ร้อนๆ เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำเวเนซุเอลา นาย
"ท่านประธานาธิบดีได้รับการเลือกกลับเข้ามาอีกครั้งโดยการตัดสินใจของประชาชนเวเนซุเอลา เรามีคำมั่นว่าเรานั้นพร้อมแล้ว มีความมุ่งหมายและมีความกระตือรือร้นที่จะค้นพบว่าเราสามารถจะสร้างเสริมการเจรจาทวิภาคีระหว่างกันให้ก้าวหน้าได้หรือไม่" นายบราวน์ฟิลด์กล่าวกับสถานีวิทยุ Union Radio
บราวน์ฟิลด์ กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาและเวเนซุเอลามีผลประโยชน์ร่วมกันในความร่วมมือที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นสงครามต่อต้านการค้ายาเสพย์ติด, อาชญากรระหว่างประเทศ, การก่อการร้าย, การค้าและประเด็นด้านพลังงาน
แม้ในขณะที่สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้ซื้อน้ำมันอันดับ 1 ของเวเนซุเอลา แต่ความตึงเครียดกลับปรากฏอยู่บ่อยครั้งผ่านการโต้เถียงระหว่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและเวเนซุเอลา
ชาเวซกล่าวหาว่ารัฐบาลวอชิงตันเป็นผู้สนับสนุนให้มีการรัฐประหารในปี 2545 เพื่อต่อต้านเขา และเรียกประธานาธิบดีจอร์จ บุชว่า "ตัวอันตราย" (Mr. Danger) และในการกล่าวสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเขาเรียกจอร์จ บุชว่า "ปีศาจ" (the devil)
และชาเวซยังกล่าวฉลองชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ของเขาว่า "เป็นอีกความพ่ายแพ้ของปีศาจ ผู้พยายามครอบครองโลก!"
นอกจากนี้ชาเวซยังมีมิตรสหายที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐอย่างอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนของอิรัก และเมื่อชาเวซชนะการเลือกตั้งหนนี้ อิหร่านเองก็เป็นประเทศแรกๆ ที่ร่วมแสดงความยินดี
แม้ว่าเขาจะเรียกบุชเป็นศัตรูในสุนทรพจน์ แต่เขาไม่ได้หมายความเช่นนั้นกับประชาชนของสหรัฐอเมริกา โดยในทางนโยบายแล้วชาเวซจะส่งเชื้อเพลิงราคาถูกให้กับครอบครัวทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาที่มีความจำเป็นต้องใช้เชื้อเพลิงด้วย!
เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาแสดงความกังวลกับภาวะประชาธิปไตยภายใต้รัฐบาลที่กุมอำนาจโดยชาเวซและพันธมิตรประเทศต่างๆ ของเขา ซึ่งความกังวลนี้ถูกประกาศอีกทีโดยฝ่ายต่อต้านชาเวซในเวเนซุเอลานั่นเอง
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์คอมมิวนิสต์ของคิวบาตีพิมพ์ข้อความแสดงความยินดีของผู้นำคิวบาอย่างฟีเดล คาสโตรต่อชาเวซ, ซึ่งชาเวซเห็นว่าคาสโตรเป็นทั้งเพื่อนสนิทและบิดาของเขา
"ชัยชนะครั้งนี้นั้นยิ่งใหญ่, เป็นการบดขยี้, และไม่มีใดเทียมในประวัติศาสตร์ของทวีปอเมริกา" ข้อความตอนหนึ่งของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ของพรรคคอมมิวนิสต์คิวบา "แกรนมา" ตีพิมพ์ ทั้งยังกล่าวด้วยว่า "ชาวคิวบารู้สึกมีความสุขและขอสวมกอดอย่างเข้มแข็งให้กับชาวเวเนซุเอลาด้วย"
ประธานาธิบดีโบลิเวีย เอโว โมราเลส (Evo Morales) กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแสดงความยินดีกับชาเวซ ในชัยชนะในการเลือกตั้งของฝ่ายซ้าย ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นชัยชนะในบราซิล เอกวาดอร์และนิคารากัว
ชัยชนะรอบใหม่ของชาเวซนั้นหมายความว่า เขาเองสามารถมุ่งหมายไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมนิยมได้มอย่างถอนรากถอนโคนมากกว่าเดิม แม้ว่าว่าบัดนี้ยังไม่แน่ชัดว่านโยบายขั้นแรกที่เขาจะทำคืออะไร
ชาเวซกล่าวว่าเขามีแผนที่จะปฏิรูปรัฐธรรมนูญให้ยกเลิกการจำกัดสมัยการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่นี้จะทำให้เขาดำรงตำแหน่งได้ถึงปี 2012 เท่านั้น และเขากล่าวว่าเขามีแผนที่จะขจัดความยากจนอย่างจริงๆ จังๆ และเขาเคยกล่าวเปรยๆ ว่าจะแปรรูปบริษัทโทรคมที่ใหญ่ที่สุด (ในเวเนซุเอลา) มาเป็นรัฐวิสาหกิจของชาติ
เขาสัญญาว่าจะใช้ความมั่งคั่งของทรัพยากรน้ำมันของประเทศ มาขจัดความยากจน และคะแนนเสียงที่สนับสนุนเขาหลักๆ นั้นก็เพื่อกดดันให้เขารีบดำเนินนโยบายโดยเร็ว
ฝ่ายตรงข้ามมองชาเวซว่า "กระหายอำนาจ" แต่ชาวเวเนซุเอลาเห็นผลประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือสังคมที่มาจากการค้าน้ำมันนั้นเป็น "ภารกิจอันสำคัญ"
ชาเวซสนับสนุนงบประมาณหลายพันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อช่วยเหลือคนจนด้วยการสนับสนุนอาหาร การศึกษาฟรีในระดับอุดมศึกษา กองทุนเงินสดสำหรับผู้หญิงที่เลี้ยงลูกโดยปราศจากสามี (single mothers) และความช่วยเหลือต่างๆ
ชีวิตและงานของฮูโก ชาเวซ
ประธานาธิบดีชาเวซ ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบมิราฟรอเรส ในกรุงคารากัส ประเทศเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา (ที่มา AP Photo/Howard Yanes) ฮูโก ชาเวซ หรือชื่อเต็มของเขาคือ ฮูโก ราฟาเอล ชาเวซ ฟรีอาซ (Hugo Rafael Chávez Frías) เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 1954 ในครอบครัวของครูประถมในเมืองซาบาเนต้า รัฐบารินาสปัจจุบันอายุ 52 ปี เมื่อเขาเรียนจบโรงเรียนชั้นมัธยมปลาย พ่อแม่ก็ส่งเขาเข้าเรียนต่อโรงเรียนนายร้อย ตามธรรมเนียมครอบครัวชนชั้นกลางในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ชาเวซหย่าแล้ว 2 ครั้งและมีลูก 4 คน หลังจากเรียนจบและเข้ารับตำแหน่งในกองทัพแล้ว ด้วยการออกไปเห็นสภาพยากลำบากของคนชั้นล่างในเวเนซุเอลา ดังนั้นในปี 1988 เขาร่วมกับนายทหารชั้นผู้น้อยได้ก่อตั้งขบวนการปฏิวัติโบลิวาร์ (Revolutionary Bolivarian Movement-200 (MBR-200) ซึ่งเลข 200 หมายถึงวาระครบรอบชาตกาล 200 ปีซีโมน โบลิวาร์ (Simone Bolivar) นักปฏิวัติผู้ปลดแอกลาตินอเมริกาจากการตกเป็นอาณานิคม และในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1992 เขาทำรัฐประหารแต่ไม่สำเร็จและถูกจำคุก 2 ปี แต่การออกมายอมรับผิดในการทำรัฐประหารได้ทำให้เขามีชื่อเสียง และในปี 1997 เขาได้ก็ตั้งพรรคการเมืองชื่อขบวนการเพื่อสาธารณรัฐที่ห้า (Movement for the fifth Republic : MVR) เขาลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและชนะการเลือกตั้งปี 1998 เขากล่าวว่าเขามีแผนการสำหรับยุทธศาสตร์ปฏิวัติเรียบร้อยแล้ว โดยเขาเรียกแผนการนั้นว่า "สังคมนิยมสำหรับศตวรรษที่ เขาได้รับการเลือกตั้งครั้งแรกในปี 1998 ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับสองพรรคการเมืองเก่าแก่แห่งเวเนซุเอลาที่ครองอำนาจมายาวนานกว่า 40 ปี ชาเวซใช้เวลาช่วงปีแรกของเขาในการวางแผนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จในการลงประชามติและเขาชนะการเลือกตั้งถล่มทลายอีกครั้งหนึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในเดือนกรกฎาคมปี 2000 ที่จะทำให้เขาได้เป็นประธานาธิบดีมีวาระ 6 ปี ฝ่ายต่อต้านชาเวซอ้างว่าเขานำพาประเทศไปสู่ความเสียหาย จึงทำการรัฐประหารขับไล่เขาลงจากอำนาจในวันที่ 11 เดือนเมษายนปี 2002 แต่ชะตากรรมของชาเวซไม่เหมือนทักษิณ ดังนั้นเพียงไม่กี่วันฝ่ายสนับสนุนชาเวซและทหารที่สนับสนุนเขาทำการต่อต้านฝ่ายรัฐประหารทั่วประเทศ จึงทำให้ชาเวซกลับสู่อำนาจอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 14 เมษายน! ชาเวซรอดจากการถูกโค่นอีกครั้งหลังจากที่ฝ่ายต่อต้านนัดหยุดงานในกิจการน้ำมันเป็นเวลา 2 เดือนในเดือนธันวาคมปี 2002 ถึงกุมพาพันธ์ปี 2003 และชาเวซก็กเอาชนะในการลงประชามติไม่ไว้วางใจประธานาธิบดีในวันที่ 15 สิงหาคมปี 2004 ชาเวซมีพรสวรรค์ในการพูดในที่ชุมชน เขามีสำนวนดังพระผู้มาโปรด มีสำนวนฝ่ายซ้ายแต่มักอุทิศให้กับซีโมน โบลิวาร์ นอกจากนี้ในสำนวนวาจาเผ็ดร้อนของชาเวซก็ยังมักพูดถึงกีฬาเบสบอลที่เขาชอบอีกด้วย นโยบายของชาเวซให้ความสำคัญกับคนจนอย่างที่ไม่มีผู้นำเวเนซุเอลาคนไหนเคยทำมาก่อน นโยบายสำคัญที่ชาเวซบุกเบิกเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้มีมากมาย ตั้งแต่การจัดตั้งองค์กรประชาสังคม ที่มีสมาชิกไม่เกิน 30 ครอบครัว เรียกว่า องค์กรชีวิตชุมชน สำหรับน้ำมันซึ่งเป็นสินค้าส่งออกของเวเนซุเอลา ชาเวซออกกฎหมายให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้ร้อยละ 30 จากเดิมที่รัฐได้เพียง 16.6 ทำให้บริษัทต่างประเทศไม่พอใจเป็นอย่างมาก พยายามนัดหยุดงานและลงประชามติไม่ไว้วางใจดังที่กล่าวไปแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ผู้นำเวเนซุเอลายังจัดสรรงบประมาณกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 148,000 ล้านบาท ดำเนินโครงการเร่งด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ 10 โครงการ เน้นความช่วยเหลือด้านการดำรงชีพ เช่น อาหาร บ้าน การศึกษา และสาธารณสุข ให้กับประชาชนระดับรากหญ้าจำนวนหลายล้านคนให้มีบ้าน ที่ดินทำกินด้วยการปฏิรูปที่ดินทั้งในเมืองและในชนบท สนับสนุนให้แรงงานนอกระบบตั้งสหกรณ์ และสนับสนุนให้คนงานเข้าไปดำเนินกิจการเองแทนนายทุนที่ปิดโรงงาน ชาเวซมีโครงการสนับสนุนให้ประชาชนสามารถอ่านออกเขียนได้ และผู้สูงอายุทุกคนจะได้รับเงินบำนาญเลี้ยงดูเป็นประจำทุกเดือน ด้วยความที่ชาเวซมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคิวบา จึงมีการนำแพทย์จากคิวบาเข้ามารักษาฟรีแก่ประชาชน และมีการส่งนักเรียนแพทย์ไปยังคิวบาอีกด้วย ซึ่งชัยชนะจากการเลือกตั้งของชาเวซเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นี้ จะทำให้เขาเป็นผู้นำเวเนซุเอลาไปจนถึงปี 2012 |
ที่มาของข่าว
ภควดี วีระภาสพงษ์, "เวเนซุเอลา : เส้นทางปฏิวัติยุคหลังประวัติศาสตร์", ใน ฟ้าเดียวกัน ปีที่ 3(3) 2548 หน้า 142-187.
Chavez: Venezuela backs socialism shift, By CHRISTOPHER TOOTHAKER, Associated Press Writer Dec, 5 2006
Chavez: ex-coup leader, champion of the poor, anti-US icon by Patrick Moser, AFP, Dec, 5 2006
Hugo Chávez, Wikipedia, the free encyclopedia,
Profile: Hugo Chavez, BBC, 4 December 2006, 12:08 GMT
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)