โดย ศูนย์ข่าวประชาคมจังหวัดอุบลฯ
เครือข่ายควายวัว อ.สำโรง ชี้การทำนาเปลี่ยนไป ชาวนาใช้เทคโนโลยีเน้นสะดวกสบาย ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น หักลบต้นทุนเหลือไม่กี่พันต่อปี แนะใช้วิกฤตน้ำมันแพงกลับมาทำนาแบบเดิม ขณะที่ภาครัฐต้องจริงใจในการแก้ปัญหาความยากจน
นาย
ในขณะที่สถานการณ์วัวควายในเครือข่ายของตนทุกวันนี้ราคาวัวจะค่อนข้างได้ราคาดี ซึ่งจะมีการซื้อขายกันตัวละประมาณหนึ่งหมื่นบาทขึ้นไป จึงทำให้ชาวบ้านนิยมที่จะเลี้ยงวัวมากกว่าเลี้ยงควาย ประกอบกับจำนวนควายในกลุ่มของตนมีอยู่ทั้งหมด 17 ตัว โดยทางกลุ่มก็จะมีโครงการที่จะขยายให้กับสมาชิกไปเลี้ยงและเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น อันเนื่องมากจากควายได้ให้ประโยชน์กับผู้เลี้ยงมากมาย รวมทั้งตนเองก็พยายามที่ต้องการจะให้ชาวบ้านกลับมาใช้แรงานจากควายในการทำนาเช่นแต่ก่อน แต่คงต้องใช้เวลา แต่สภาพราคาน้ำมันปัจจุบันก็ทำให้ชาวบ้านหันกลับมาคิดเหมือนกัน
นอกจากนี้การทำนาในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ซึ่งเมื่อคำนวณการลงทุนเทียบกับรายได้จากการขายข้าวในแต่ละปีแทบจะไม่คุ้มค่า ดังจะเห็นได้จาก การที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายน้ำมันประมาณปีละ 1,700-1,800 บาท โดยคำนวณจากการทำนาบนพื้นที่
"ดังนั้นชาวนาซึ่งเป็นคนทำนาแต่ต้องซื้อข้าวกินในบางครอบครัวทำนาข้าวเจ้าแต่กินข้าวเหนียว ทางออกที่ดีคือทุกฝ่ายต้องร่วมกันทั้งภาครัฐซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งเพราะ ถ้าไม่มีเจ้านายเป็นคนดำเนินงานชาวบ้านก็จะไม่เชื่อมั่น แม้ภาคประชาชนจะร่วมแรงร่วมใจอย่างไรก็ตามซึ่งรัฐต้องจริงใจด้วย"
ด้านนาย
ความคืบหน้าในตอนนี้ยังไม่มีการบุกรุกเพิ่มเติม แต่ถ้าความเคลื่อนไหวอื่นๆ นั้นคงต้องรอไปอีกสักระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากยังมีชาวบ้านนำสัตว์เลี้ยงไปเลี้ยงบริเวณดังกล่าว โดยที่ทางคณะกรรมการป่าชุมชนก็เฝ้าระวังอยู่อย่างไม่ให้คาดสายตา แต่คาดว่าภายในเดือนตุลาคมชาวบ้านจะนำสัตว์เลี้ยงลงมาจากบริเวณดังกล่าวอาจจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นได้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)