นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดนราธิวาส ได้ประกาศลดช่องทางเข้า - ออก เฉพาะจุดผ่อนปรนเหลือเพียง 7 จุด จากเดิม 13 จุด ตั้งแต่เดือนกันยายน 2548 เป็นต้นไป การปิดจุดผ่อนปรนดังกล่าว อาจมีผลกระทบต่อประชาชนบางส่วน แต่จำเป็นต้องทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ

"ส่วนที่มีข่าวทางจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนทั้ง 3 อำเภอคือ อำเภอแว้ง ตากใบ และอำเภอสุไหงโก-ลก ทั้ง 16 จุดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชน เพียงแต่กำชับให้ทหารกับตำรวจตระเวนชายแดน จัดกำลังไปดูแลป้องกันคนลักลอบเข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ และลักลอบเข้ามาเลเซียโดยผิดกฎหมาย" นายประชา กล่าว

สำหรับช่องทางเข้า - ออก ขณะนี้เหลือเพียง 10 จุด ประกอบด้วย ด่านถาวร 3 จุด คือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอสุไหงโก-ลก ด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอตากใบ ท่าข้ามบ้านบูเก๊ะตา อำเภอแว้ง ส่วนจุดผ่อนปรน 7 ช่องทาง อยู่อำเภอตากใบ 3 ช่องทาง อำเภอแว้ง และอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอละ 2 ช่องทาง

ศูนย์ข่าวอิสรา สมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยรายงานว่า ขณะนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าบริเวณจุดผ่อนปรนบ้านมูโนะ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก ต่างไม่เห็นด้วยกับมาตรการปิดจุดผ่อนปรนทั้ง 6 จุด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าชายแดนในวงกว้าง

ทั้งนี้ จุดผ่อนปรนบ้านมูโน๊ะ เป็นจุดผ่านแดนที่ชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อสินค้าจากฝั่งไทยกันมาก โดยเฉพาะข้าวสารและอาหารแห้ง เนื่องจากเข้าออกง่าย เพียงข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลกเข้ามา แล้วแสดงบัตรประชาชนของแต่ละประเทศเป็นหลักฐานการผ่านแดนเท่านั้น จนเมื่อปี 2547 มีการวางระเบิดจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ ทำให้ตำรวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตทันที 3 ศพ บาดเจ็บอีก 1 นาย ส่งผลให้ชาวมาเลเซียเข้ามาซื้อสินค้าน้อยลง

ร.ต.ต.วิโรจน์ ชอบเอียด หัวหน้าหน่วยเฝ้าระวังตำรวจตระวนชายแดนที่ 4407 กล่าวว่า เมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบใหม่ๆ เคยมีการเสนอให้ปิดด่านมูโนะมาแล้ว แต่ชาวบ้านไม่ยอมเพราะต้องการค้าขายกับชาวมาเลเซีย ตอนนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดด่านนี้ จุดผ่อนปรนที่จะปิดในเบื้องต้น คือ จุดผ่อยปรนบ้านลูโป๊ะคง เพราะมีคนผ่านเพียงแค่ 1 - 2 คนต่อวัน และไม่มีการค้าขาย ถ้าจะปิดจุดผ่อนปรนบ้านมูโนะ ควรจะมีการประชุมร่วมกัน โดยให้ตัวแทนผู้ค้าเข้าประชุมด้วย

พ.ต.ท.นรินทร์ พุกบุญมี สารวัตรแผนก 3 กองกำกับการ 4 กองตำรวจน้ำ ประจำจุดผ่อนปรนอำเภอตากใบ กล่าวว่า ระยะหลังมีปัญหาการลักลอบหลบหนีข้ามแดนของแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบ และมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่บ่อยครั้ง ทางตำรวจน้ำจึงปรับแผนลาดตระเวนใหม่ จากเดิมที่ออกเรือลาดตระเวนวันละ 2 เที่ยว ก็เพิ่มเป็น 5 เที่ยว ทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นการลาดตระเวนร่วมกับทางมาเลเซีย ทำให้วงรอบการตรวจตราถี่ยิ่งขึ้น และนอกจากเรือตำรวจน้ำแล้ว ยังมีเรือศุลกากร เรือตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมออกตรวจด้วย สำหรับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำจะมีทหารจากชุดเฉพาะกิจเพชราวุธ ตั้งจุดตรวจเป็นระยะ บางจุดซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมก็ตั้งฐานถาวรไว้เลย

ทั้งนี้ ชุดเฉพาะกิจเพชราวุธได้ออกบัตรให้กับผู้ต้องการข้ามแดน ใช้แสดงตนขอข้ามแดนในช่วงเวลาผ่อนผัน คือ เวลา 06.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. นอกเวลาที่กำหนดไว้ จะไม่ให้ข้ามแดนเด็ดขาด