ประชาไท- 29 ส.ค. 48      น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์หลังที่ประชุมวุฒิสภามีมติรับร่างพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ว่า ผลโหวตที่ออกมาไม่ผิดคาด เพราะแต่เดิมคิดว่าน่าจะมีผู้ลงมติไม่เห็นด้วยเพียง 30 เสียง แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ปริมาณ หากแต่อยู่ที่เนื้อหา และเหตุผลที่ชี้แจงต่อที่ประชุมซึ่งอยากฝากให้รัฐบาลนำไปพิจารณาทบทวน

ประเด็นสำคัญที่อยากฝากรัฐบาล ประเด็นแรก คือรัฐบาลอย่ามองว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยพูดเรื่องซ้ำซากเพราะที่จริงการพูดเรื่องซ้ำซากแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาเก่าได้ ส่งผลให้ประชาชนส่วนหนึ่งเกิดความไม่พอใจ

ประเด็นที่สอง เราเห็นว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้มีแต่จะทำให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น สิ่งที่สมาชิกวุฒิสภาเสนอไปหลายอย่างไม่ใช่เพียงแต่จะทำให้เห็นภาพกว้างในการแก้ไขปัญหาทางสังคมและศาสนา แต่ยังทำให้เห็นภาพกว้างในการทำงานร่วมกับองค์กรต่างประเทศเพื่อจะนำสันติสุขมาสู่ประชาชนในภาคใต้

ที่จริง ส.ว. อยากให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉบับนี้ เพื่อพิจารณาออกร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ แทน พ.ศ.2495 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 โดยอยากให้มองมิติทางสังคม ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่มองเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว ผมเชื่อว่าอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งดีสิ่งใหม่ จะเริ่มต้นจากคนกลุ่มน้อยเสมอ เรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ถ้าทุกคนคิดตรงกัน ก็จะไม่มองแค่จำนวนคนโหวต หากแต่จะมองที่เนื้อหาสาระซึ่งรัฐบาลควรนำไปแก้ไข

โดยส่วนตัวผมไม่เคยเชื่อว่าพระราชกำหนดจะแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ได้ และอยากให้รัฐบาลรู้ตัวเร็วๆ น.พ.นิรันดร์ กล่าว