Skip to main content
sharethis








เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 สิงหาคม 2548 ศาลจังหวัดสงขลาได้นัดไต่สวนพยานคดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 19 ศพ จากเหตุการณ์ปะทะกัน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 ที่หน่วยบริการประชาชนตลาดสะบ้าย้อย และร้านอาหารสวยนะ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยพนักงานอัยการ ได้เบิกตัวนางสวยน๊ะ กาเดร์ เจ้าของร้านอาหารสวยนะ มาให้ปากคำต่อศาลเป็นครั้งที่สอง หลังจากให้การครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2548

 


เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 สิงหาคม 2548 ศาลจังหวัดสงขลาได้นัดไต่สวนพยานคดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 19 ศพ จากเหตุการณ์ปะทะกัน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 ที่หน่วยบริการประชาชนตลาดสะบ้าย้อย และร้านอาหารสวยนะ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยพนักงานอัยการ ได้เบิกตัวนางสวยน๊ะ กาเดร์ เจ้าของร้านอาหารสวยนะ มาให้ปากคำต่อศาลเป็นครั้งที่สอง หลังจากให้การครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2548


 


นางสวยน๊ะ ให้การว่า เวลา 21.00 น. วันที่ 27 เมษายน 2548 ซึ่งเป็นคืนก่อนวันเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ร้านขายของชำ ด้านทิศตะวันออกของร้านอาหารสวยนะ ได้มีผู้ตายคนหนึ่งมาที่ร้านเรียกตนว่า "อาจารย์กินข้าวหรือยัง" ตนไม่ตอบแต่ถามว่าจะมาซื้ออะไร ได้รับคำตอบว่า จะมาซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งเกิดเหตุปะทะกัน ในช่วงเช้าวันที่ 28 เมษายน 2548 จึงพบว่าเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย


 


นางสวยน๊ะ ให้การอีกว่า ระหว่างที่ตำรวจนำตนเข้าไปดูความเสียหายจากการยิงกันภายในร้าน เมื่อไปถึงประตูทางเข้าร้าน ตนเห็นตำรวจกำลังใช้เชือกมัดศพ 3 ศพ ศพแรกอยู่ในห้องน้ำ ศพต่อมาอยู่ที่บริเวณที่นั่งลูกค้า และศพสุดท้ายอยู่ที่บริเวณโรงเรือนจัดเลื้ยง แล้วใช้เชือกที่มัดดึงให้ศพพลิก เพราะเกรงจะมีระเบิดอยู่ที่ตัวศพ จากนั้น ตำรวจนำตนไปดูศพที่อยู่ในร้านทั้ง 15 ศพ แต่ตนดูผ่านๆ เท่านั้น จึงไม่ทราบรายละเอียดบาดแผลจากการยิงที่ตัวศพ


 


การไต่สวนนางสวยน๊ะสิ้นสุดลง เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. จากนั้น พนักงานอัยการได้เบิกพยานปากที่สอง คือ นางสุขศรี คำพรรณ อายุ 60 ปี อาชีพค้าขาย อยู่หมู่ที่ 1 ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย


 


นางสุขศรี ให้การว่า ร้านของตนอยู่ถนนไทยสมบูลย์ ตัดกับถนนชาญนุเคราะห์ ห่างจากร้านอาหารสวยนะประมาณ 15 เมตร เมื่อเวลาประมาณ 05.45 น. วันเกิดเหตุ ตนเปิดประตูบ้าน เพื่อเตรียมร้านก๋วยเตี๋ยว ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ระยะห่างกัน 2 นาที จากนั้น เห็นชาย 3 คน อายุประมาณ 20 - 30 ปี ทั้งหมดสวมเสื้อยาวสีขาวและโพกศรีษะด้วยผ้าลายขาว - แดง คนแรกถือมีดยาวประมาณ 1 ศอก คนที่สองถือปืนยาวประมาณ 1 ศอกเช่นกัน สวนคนสุดท้ายวิ่งตามหลังมา ไม่เห็นถืออะไรอยู่ในมือ เมื่อมาถึง 3 แยกตัดกับถนนไทยสมบูลย์ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านอาหารสวยนะประมาณ 30 ก้าว ได้มีชาย 2 คน อายุประมาณ 30 - 40 ปี สวมเสื้อยาวสีขาวเช่นกัน ขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายมาตามถนนไทยสมบูลย์ เมื่อเจอชายทั้ง 3 คน ได้จอดรถจักรยานยนต์คุยกันประมาณ 2 นาที จากนั้น ทั้งสองได้โบกมือลักษณะเหมือนต้องการให้ชายทั้ง 3 คน วิ่งหนีไปทางบ้านพักครูในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย ส่วนทั้งสองขับรถจักรยานยนต์ไปทางร้านอาหารสวยนะ


 


นางสุขศรี ให้การต่อไปว่า ต่อมา มีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงตามสายห้ามออกจากบ้าน ส่วนผู้ที่อยู่นอกบ้านให้รีบกลับเข้าไปในบ้าน ตนตกใจกลัวจึงรีบเข้าไปในร้านแล้วปิดประตู ไม่แน่ใจว่านานเท่าใด จากนั้น ได้ยินเสียงปืนอีกระลอก


 


นางสุขศรี ให้การอีกว่า หลังจากเสียงปืนสงบประมาณ 15 - 20 นาที ได้ยินเสียงพูดผ่านโทรโข่งว่า ให้ออกมามอบตัว แต่ตนไม่รู้ว่าคนร้ายอยู่ที่ไหน พูดอยู่หลายครั้งประมาณ 15 - 20 นาที พูดเสร็จประมาณ 5 นาที ได้ยินเสียงปืนดังอีก 2 นัด จากนั้นประมาณ 30 นาที เห็นชาวบ้านออกไปดูเหตุการณ์ ตนจึงออกจากร้านไปดูด้วย เห็นคนตาย 2 ศพ ตรงบริเวณบ้านพักครู ซึ่งมีตำรวจยืนถือโทรโข่งอยู่ แต่ไม่ได้เข้าไปดูใกล้ๆ จึงไม่ทราบว่า ศพสวมเสื้อยาวสีขาวด้วยหรือไม่ แต่จากการมองไปที่ศพไม่เห็นมีอาวุธ แต่ไม่ยืนยันว่า ทั้ง 2 ศพเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ตนเห็นหยุดยืนคุยกับชายที่ขับรถจักรยานต์ในตอนแรก


 


การไต่สวนพยานเสร็จสิ้นเวลา 17.00 น. สำหรับนัดต่อไป นัดไต่สวนในเวลา 09.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2548 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net