ประชาไท-14 มี.ค. 48 -- ชาวบ้านจากเขื่อนปากมูนและเขื่อนลำตะคอง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนรวมตัวกันไปประท้วงธนาคารโลก แหล่งทุนใหญ่ของโครงการสร้างเขื่อนปากมูน และกำลังมีบทบาทสำคัญในการจะค้ำประกันโครงการเขื่อนน้ำเทิน 2 ในประเทศลาว

ชาวบ้านประมาณ 70 คน ได้รวมตัวกันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ภายหลังจากการสัมมนาเรื่อง "สร้างเขื่อนน้ำเทิน 2: ประชาชนลาวและไทยได้ประโยชน์จริงหรือ" โดยชาวบ้านแสดงทัศนะไม่เห็นด้วยกับโครงการเขื่อนน้ำเทิน 2 ในประเทศลาวเพื่อขายไฟฟ้าส่งให้กับประเทศไทย

ทั้งนี้ ธนาคารโลกกำลังพิจารณาค้ำประกันเงินกู้ให้กับ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเทิน 2 ซึ่งชาวบ้านจากปากมูนเห็นว่ากำลังดำเนินรอยซ้ำกับกรณีเขื่อนปากมูนซึ่งธนาคารโลกเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ แต่เขื่อนปากมูนก็เป็นเขื่อนที่สร้างปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชาวบ้านมากว่า 10 ปี

น.ส. อะวีว่า อิมฮอฟ จากเครือข่ายแม่น้ำนานาชาติ (IRN) กล่าวว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ธนาคารโลกค่อนข้างเก็บตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ธนาคารโลกมีเรื่องอื้อฉาวจากกรณีเขื่อนรามาดา ในประเทศอินเดีย และขื่อนสิรินธร (ปากมูน) ในประเทศไทย

แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธนาคารโลกมีแนวโน้มที่จะกลับมาสนับสนุนโครงการเขื่อนขนาดใหญ่อีกครั้ง ฉะนั้น การประท้วงของชาวบ้านจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าชาวบ้านจะไม่ยอมอีก และวันนี้เป็นวันหยุดเขื่อนโลก ซึ่งคาดว่าชาวบ้านจะมีเพื่อนอีกหลายชาติที่ทำกิจกรรมต้านเขื่อนโลกในวันนี้

ชาวบ้านได้เดินเท้าร่วมกันจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปยังธนาคารโลกประจำประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารดีทแฮล์ม ถ. วิทยุ

เวลาประมาณ 14.00 น. เมื่อชาวบ้านเดินทางไปถึงตึกดีทแฮล์ม ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของธนาคารโลกมายืนรออยู่แล้ว 3 คน คือนาย Patchamuthu Illangovan ผู้ประสานงานฝ่ายสิ่งแวดล้อม ธนาคารโลกประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ชาวไทยอีก 2 คน

ภายหลังจากชาวบ้านได้กล่าวปราศรัยโจมตีธนาคารโลก และผู้บริหาร รวมถึงกล่าวถึงผลกระทบจากโครงการเขื่อนในประเทศไทย และเผาหุ่นนายเจมส์ ดี. วูฟเฟนสัน ประธานธนาคารโลกเป็นการประท้วงนโยบายของธนาคารโลกแล้ว เจ้าหน้าที่ของธนาคารโลกได้รับหนังสือเรียกร้องจากชาวบ้านและกล่าวว่าจะยื่นให้กับผู้อำนวยการธนาคารโลก ประจำประเทศไทยในอีก 3 วันนับจากนี้ จากนั้นชาวบ้านจึงเดินทางกลับ

ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้านจากปากมูนและลำตะคองจะไปรวมตัวกันกับสมัชชาคนจนตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ โดยสมัชชาคนจนทั้งหมดจะปักหลักที่ลานฝั่งตรงข้ามรัฐสภาเพื่อรณรงค์ตรวจสอบรัฐบาลโดยภาคประชาชนเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-17 มีนาคม

พิณผกา งามสม