Skip to main content
sharethis

ถนนเลียบทางรถไฟสายเชียงใหม่-ลำพูน หรือโลคัลโรด ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีดำริขึ้นเพื่อมุ่งหวังให้เป็นทางที่ เชื่อม 2 จังหวัดเข้าด้วยกัน เป้าหมายคือกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ในอนาคตเตรียมจะให้มีทางจักรยานต่อเนื่องอีกด้วย

แต่วันนี้ได้เกิดปัญหา เมื่อชาวบ้านได้ออกมาร้องเรียนว่า ถนนสายนี้ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในฤดูฝนและแล้งจัดในหน้าร้อน นอกจากนั้นการสัญจรก็ไม่สามารถทำได้เมื่อการรถไฟประกาศจะเก็บค่าเช่าหากทำทางจากหมู่บ้านเข้าเชื่อมถนนหลัก

นายสมบูรณ์ บุญชู รองประธานฝายเมืองพญาคำ เปิดเผยว่า ชาวบ้านหมู่ 3 หมู่ 5 และหมู่ 7 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ กว่า 50 คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ไม่สามารถเข้าออกจากที่อยู่อาศัยของตนเองหลังจากที่รัฐบาลได้ตัดถนนโลคัลโรดเลียบทางรถไฟจังหวัดเชียงใหม่ลำพูน มีมติที่จะเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และส.ส.ไทยรักไทยเขต 2 เนื่องจากตั้งแต่มีถนนสายนี้ ส่งผลให้น้ำท่วมขังในฤดูฝนที่ผ่านมา และคาดว่าแล้งนี้น้ำที่เข้าไร่นาต้องไม่เพียงพอแน่ เนื่องจากถนนได้ทำให้น้ำจากลำเมืองพญาคำเปลี่ยนเส้นทาง

นอกจากนั้น การรถไฟฯ ได้ขุดเป็นคลองขนาดกว้างประมาณ 5 เมตร ตลอดแนวจนไปถึงจังหวัดลำพูน จึงทำให้ไม่มีถนนเชื่อมออกยังบ้านและสวนลำไยที่อยู่ใกล้ริมถนนสายดังกล่าวชาวบ้านที่มีสวนลำไยอยู่รวมกันราว 100 ไร่ ย่าน ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี ได้รวมเงินกว่า 7,000 บาท สร้างถนนเป็นทางเข้าออกสวนลำไยเชื่อมกับถนนสายหลัก เพื่อหวังจะให้เป็นเส้นทางขนผลผลิตทางการเกษตร

แต่การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยแขวงบำรุงทางรถไฟลำพูน ได้นำเสาปูนขนาดใหญ่มาปิดกั้นทางไว้ และระบุว่าหากจะสร้างทางเชื่อมเข้าออกจะต้องเสียค่าเช่าให้กับการรถไฟก่อน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเข้าออกพื้นที่ของตนเองได้ ต้องจอดรถด้านนอก และเดินเข้าบ้าน นอกจากนั้นไม่นานนี้ เกิดเหตุการณ์บ้านพักในสวนลำไย ไฟไหม้รถดับเพลิงก็ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ด้วย

ขณะที่รู้มาว่า โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียใหม่ สามารถทำทางเข้าออกเชื่อมได้ เพราะยอมเสียค่าเช่าเป็นจำนวนเงินประมาณ 7.5 ล้านบาท สำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดินของรถไฟเป็นระยะเวลา 30 ปี ขณะที่ชาวบ้านไม่มีเงินมากขนาดนั้น ถือว่าไม่เป็นธรรม นอกจากนั้นไม่นานนี้ เกิดเหตุการณ์บ้านพักในสวนลำไย ไฟไหม้รถดับเพลิงก็ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ด้วย จึงเตรียมนำเรื่องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแก้ไข เพราะถนนสายนี้เกิดขึ้นจากดำริของนายกรัฐมนตรี

สำหรับ ถนนเลียบทางรถไฟสายเชียงใหม่-ลำพูน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีดำริให้กรมโยธาธิการและผังเมืองสร้างขึ้นเพื่อให้ 2 จังหวัดคือเชียงใหม่และลำพูนเชื่อมโยงกัน เพื่อการท่องเที่ยวและการสัญจร มีระยะทาง 27.825 กิโลเมตร จุดเริ่มโครงการตั้งแต่บริเวณแยกดอยติจนถึงบริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่ งบประมาณ 146.2 ล้านบาท

แต่นับจาก วันที่ 29 มิถุนายน 2547 ที่นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดใช้งาน ปรากฏว่าได้มีรถยนต์บรรทุกใช้สัญจรจนถนนผุพังอย่างรวดเร็ว และราษฎรได้ทำทางเข้าเชื่อมกับทางหลักหลายจุด จนเกิดการวิตกถึงอุบัติเหตุ เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างด้วย

นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เคยแจ้งให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร บังคับใช้มาตรการห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ในถนนสายนี้หลังจากที่เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2547 การใช้งานได้มีรถบรรทุก 10 ล้อ ประเภทขนดิน ขนคอนกรีตผสมสำเร็จและรถบรรทุกน้ำมัน วิ่งผ่านเส้นทางนี้เป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดการทรุดตัวและผิวถนนหลุดกร่อนเพราะรับน้ำหนักเกินพิกัด 12 ตัน

นอกจากนั้นประชาชนยังมีความวิตกเรื่องความปลอดภัยอยู่มากเพราะนอกจากจะมีรถบรรทุกวิ่งหนาแน่นและใช้ความเร็วสูงแล้ว ยังไม่มีไฟส่องสว่าง หรือป้ายสัญญานเตือนตามทางร่วมทางแยก ทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปัญหานี้เคยนำเสนอในที่ประชุมติดตามงานตามดำรินายกรัฐ
มนตรีแล้วแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเพราะขาดเจ้าภาพระดับพื้นที่ โดยได้เคยพิจารณาจะให้องค์กรปกครองท้องถิ่นเข้ามาร่วมจัดสรรงบประมาณดำเนินการส่วนนี้ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า

นางพจนีย์ ขจรปรีดานันท์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ให้สัมภาษณ์ "พลเมืองเหนือ"ว่า ได้ชี้แจงกับชาวบ้านเบื้องต้นแล้วว่า การจะเชื่อมเส้นทางเข้าสู่ทางหลักซึ่งอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟนั้นจะต้องขออนุญาตการรถไฟที่มีระเบียบปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศว่าจะต้องมีค่าเช่า และต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมด้วย

ทั้งนี้ในแง่ของวิศวกรรมทาง การมีจุดเชื่อมทางมากๆ ไม่ใช่เรื่องดี จะต้องคำนึกถึงความปลอดภัยทางการจราจรด้วย ทั้งนี้ในเส้นทางสายนี้ได้เคยมีการประชุมกับท้องถิ่นหลายครั้ง ได้ข้อสรุปว่าจะมีจุดเชื่อมทางทั้งสิ้น 11 จุด ซึ่งจะได้ทำไฟสัญญาณและที่กั้นทางรถไฟเพื่อความปลอดภัยด้วย
การแก้ไขปัญหาขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะเมื่อมีการตกลงกำหนดจุด 11 จุดตามที่ระบุไว้แล้ว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ขณะที่แนวทางของการรถไฟ สามารถจะให้เชื่อมต่อทำทางเข้ามาได้ หากมีการจ่ายค่าเช่าตามกติกา จุดเชื่อมต่อก็ไม่ได้ยึดอยู่บนหลักการให้เกิดความปลอดภัยและเหมาะสม

ถนนโลคัลโรดไม่ได้จบแต่นี้ ยังคงแผนงานที่จะก่อสร้างระยะที่ 2 ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงถนนสายเดิมบางสายที่เชื่อมระหว่างถนนเลียบทางรถไฟกับทางหลวงหมายเลข 106 และ 11 พร้อมระบบสาธารณูปโภคและจัดภูมิทัศน์ภายในเขตทางจำนวน 14 สายทาง และงานพัฒนาพื้นที่เฉพาะและจัดการระเบียบการใช้ที่ดิน ซึ่งจะใช้งบประมาณราว 100 ล้านบาท และระยะที่ 3 ที่จะประกอบด้วยงานที่ต้องดำเนินการพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรการผังเมืองให้สมบูรณ์ตามโครงการพัฒนาเมืองแฝด เชียงใหม่-ลำพูน โดยเน้นการใช้ประโยชน์ที่ดิน ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับความเจริญและการขยายตัวของชุมชน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณอีกราว 249 ล้านบาทอีก

ปัญหานี้ควรได้รับการคลี่คลายอย่างชัดเจนกว่านี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net