ประชาไท-15 ธ.ค.2547 "ถ้าไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่ตำรวจ แล้วใครล่ะเป็นคนยิง พวกก่อการยิงหรือ ในเมื่อทุกคนก็นอนกันตามภาพที่เห็น คนที่ยืนได้มีทหารกับตำรวจเท่านั้นเอง " นายไพศาล พรหมยงค์ ประธานการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีตากใบ ชุดกรรมการอิสลามกลาง ตั้งคำถามโดยให้เหตุผลว่า เมื่อมีการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมและมีเสียงปืนดัง ผู้ชุมนุมก็ต้องหมอบกันทุกคน และไม่น่าเป็นไปได้ที่ทหารและตำรวจจะปล่อยให้คนอื่นมายิงปืนใส่ประชาชน

ทั้งนี้ นายไพศาลกล่าวว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ตากใบนั้น หลายกรณีไม่จำเป็นต้องไปสอบสวน เพราะมีหลักฐานชัดอยู่แล้ว เช่น ภาพที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ วีซีดี ซึ่งแสดงชัดเจนว่ามีทหารยิงและมีกระสุนกระเด็นออกมา ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการอิสระสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีตากใบซึ่งมีนายพิเชต สุนทรพิพิธ เป็นประธานยังตอบข้อเท็จจริงส่วนนี้ไม่ได้

"กรรมการกลางอิสลามไม่ได้สนใจว่ามีการตัดต่อภาพในซีดีหรือไม่เพราะจะตัดต่อหรือไม่ตัดต่อถามว่าภาพนั้นจริงหรือไม่ แค่นั้นเอง มีเสียงปืนจริงไหม ทั้งเสียงปืนที่ยิงเอ็ม-16 และหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนสงบลง มีเสียงการยิงนัดสองนัด นั่นคือเสียงปืนอะไร จะมาบอกว่าผู้ก่อการที่อยู่ในกลุ่มการชุมนุมยิงนั่นไม่มีทาง เพราะผู้ชุมนุมนอนราบกันหมด"

นายไพศาลตั้งข้อสังเกตและว่า "เรื่องนี้มีหลักฐาน มีบาดแผลว่าคนเจ็บโดนยิงแบบไหน แม้แต่นอนราบแล้วยังโดนยิง มีคนยืนยันว่ามีการเดินมาจ่อยิงอีกด้วย รวมทั้งบาดแผลที่นอนราบแล้วโดนกระสุนยิงลงมาจากด้านบนก็มี"

สำหรับกรณีตรวจพบอาวุธปืนจากผู้ชุมนุมนั้น นายไพศาลกล่าวว่า การที่ประชาชนจะเข้ามาในพื้นที่กำลังประท้วงอยู่ในขณะนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ล้อมกรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบอีกทั้งเป็นพื้นที่ที่มีอาณาเขตจำกัด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพกพาอาวุธเข้ามาโดยที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เห็น โดยเฉพาะที่ระบุว่าพบอาวุธเป็นปืนอาก้า ปืนเอ็ม-16 นั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้

"ขณะนี้ทางกรรมการกลางอิสลามได้สรุปผลจากสืบหาข้อเท็จจริงการเสียชีวิตกรณีตากใบแล้วโดยจะนำรายงานดังกล่าวเสนอต่อทางนายกรัฐมนตรีอีกด้วยแต่ทั้งนี้ทางกรรมการกลางอิสลามกำลังรอดูรายงานการสอบสวนของกรรมการฯอิสระ(นายพิเชต สุนทรพิพิธเป็นประธาน)สรุปผลก่อน เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อมูลว่ามีข้อเท็จจริงตรงกันหรือไม่ หากมีข้อแตกต่างกันอย่างไร จะได้เอาหลัก ฐานการตรวจสอบมาพิจารณาต่อไป" นายไพศาลกล่าวในที่สุด

ศิริรัตน์ อนันต์รัตน์
ประชาไทรายงาน