ประชาไท-6 พ.ย.47 "เมื่อใดที่ผู้ปกครองระแวงประชาชน ผู้นั้นจะปราบปรามประชาชน กรณีคนตายไม่ว่าจะถูกยิงหรือจมน้ำตาย อย่างที่มีการเสนอว่าพบศพ 18 ศพที่ลอยตามแม่น้ำตากใบมาติดบ้านคน สิ่งเหล่านี้ทั่วโลกรู้แล้วว่าประเทศไทยทำอะไร เกิดอะไรขึ้น แต่คนในประเทศกลับไม่รู้เกิดอะไรขึ้น สิ่งเหล่านี้ต้องการการเปิดเผยความจริง" อาจารย์วิทยา วิเศษรัฐ ประธานที่ปรึกษาองค์การมุสลิมแห่งประเทศไทยกล่าวในเวทีเสวนาประสานศาสนาพลิกสถานการณ์ภาคใต้ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา

การเสวนาซึ่งจัดโดยเครือข่ายองค์กรศาสนา 5 องค์กร ได้แก่ กลุ่มเสรีธรรม คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ สภาองค์การมุสลิมแห่งประเทศไทย เครือข่ายชาวพุทธเพื่อพระพุทธศาสนาและสังคมไทย และกลุ่มอัช-ชะบ๊าบ สมัชชายุวมุสลิม โดยก่อนการเสวนามีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม เพื่อร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาภาคใต้

อาจารย์วิทยากล่าวอีกว่า ปัญหาภาคใต้ต้องใช้ความจริงตามพระราชดำรัสของในหลวงคือ เข้าใจ ใกล้ชิด พัฒนาซึ่งก็ต้องแก้ไขบนพื้นฐานของความจริงใจ อย่าคิดว่าเงินจะแก้ไขได้ทุกเรื่อง การส่งทหาร มีรถถังพร้อมอาวุธลงไปนั้นไม่ใช่ทางนำไปสู่สันติสุข ปัญหาต้องแก้ด้วยความจริงและการยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าใครทำอะไรลงไปเพราะความเท็จไม่เคยทำให้ใครสำเร็จในชีวิตได้

บาทหลวงชูศักดิ์ สิริสุทธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยค้นคว้าศาสนาและวัฒนธรรมกล่าวว่า สถานการณ์ภาคใต้ตอนนี้ดูเขม็งเกลียวมากขึ้น 3 จังหวัดภาคใต้ตกอยู่ในความกลัวโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังกลัวใคร เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ความเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านขาดสะบั้นในพริบตา สถานการณ์อึมครึมมาก

บาทหลวงชูศักดิ์กล่าวอีกว่าความยุติธรรมและความรักเป็นสิ่งจำเป็น ทุกคนต่างก็ต้องการความยุติธรรมและต้องการความรัก ประเทศกำลังวิกฤตหากผ่านตรงนี้ไปได้ประเทศก็ดีไป แต่หากผ่านไม่ได้ก็เป็นมิคสัญญีของประเทศ มิติที่ขาดไปในสามจังหวัดตอนนี้คือศาสนสัมพันธ์ ขาดน้ำใจ หัวใจพวกเขาถูกฉีกขาด ถูกทำร้าย ต้องการการเยียวยาและบรรเทาทุกข์ คนที่จะไปเยียวยาก็ต้องไม่มีโทสะ โมหะ โลภะ จะปล่อยให้รัฐบาลอย่างเดียวคงไม่พอที่จะแก้ปัญหา ทุกคน ทุกฝ่ายต้องมาช่วยกัน

พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ ประธานเครือข่ายเสขิยธรรมกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้กลไกที่ตัวเองมีอยู่สร้างความสมานฉันท์ ขอให้ยุติการส่งเสริมลัทธิชาตินิยมใหม่อย่างเช่นในรายการวิทยุที่เห็นด้วยกับการฆ่ามุสลิมเพราะการกระทำอย่างนั้นเป็นการกระทำที่พระพุทธเจ้าตำหนิ ติเตียน ต้องใช้สัจจะเป็นพื้นฐานในการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ให้ความจริงเป็นเครื่องสมานฉันท์ เพื่อแก้ปัญหาอย่างแท้จริง

ด้านนายจอน อึ้งภากรณ์ สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพฯ กล่าวว่า มีแนวทางแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นที่อาจารย์ประเวศ วะสี เขียนหรือแผนสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ลงไปคุยกับชาวบ้านและเสนอ
ต่อรัฐบาลการโดยมีหลักที่การถอนปัจจัยความรุนแรงออกจากพื้นที่ เพียงแต่ไม่ได้มีการนำมาใช้

นายจอนกล่าวอีกว่า เราต้องเรียกร้องให้รัฐอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ผู้นำศาสนาต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชน ต้องถอนสัญลักษณ์แห่งความรุนแรงอย่างกองกำลังทหารออกไปจากพื้นที่ รวมถึงต้องช่วยกันสร้างการพูดคุยของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง สร้างความเข้าใจอย่างถูกต้อง

ศิริรัตน์ อนันต์รัตน์
ประชาไทรายงาน