Skip to main content
sharethis

สถานการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ ใกล้สงครามกลางเมืองเข้าไปทุกขณะ ขณะที่เขียนบทความนี้ มีตำรวจทหารและพลเรือนถูกทำร้ายบาดเจ็บล้มตายไปแล้วหลายร้อยคน โรงพยาบาลในจังหวัดชายแดนเนืองแน่นไปด้วยผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายที่นอนรักษาตัวอยู่ไม่ห่างกันนัก ทั้งผู้ป่วย ญาติ แพทย์และพยาบาลต่างหวาดระแวงว่าอาจจะมีการตามซ้ำเติมผู้บาดเจ็บและทำให้คนบริสุทธิ์โดนลูกหลงมากขึ้นแม้กระทั่งในโรงพยาบาล

บาดแผลของสังคม
ความรุนแรงในครั้งนี้นับเป็นโรคระบาดประจำถิ่นที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ไม่เพียงแต่จำนวนการเสียชีวิตและบาดเจ็บของผู้คนและการประสบเคราะห์กรรมของครอบครัว มีเด็กกำพร้าและหญิงม่ายที่ขาดความอบอุ่นจำนวนมาก ความรุนแรงที่กำลังเพิ่มองศาขึ้นจะยังเป็นบาดแผลลึกต่อสังคมทั้งสังคม ติดตามหลอกหลอนคนรุ่นนี้และคนรุ่นต่อ ๆ ไปในพื้นที่อีกนาน

ภาพหลอนทางประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เดือดร้อนครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพราะภาพหลอนทางประวัติศาสตร์ที่ชาติพันธุ์แต่ละฝ่ายได้โปรแกรมลูกหลานของตนไว้ รัฐทุกรัฐในอดีตต้องปลูกฝังอุดมการณ์ให้คนในรัฐรวมตัวกัน สร้างรัฐให้เข้มแข็ง สามารถป้องกันตัวเอง และชื่นชมความสำเร็จในเรื่องการครอบครองอาณาเขตยิ่งกว้างยิ่งภูมิใจ ลืมไปว่าชาติพันธุ์ซึ่งพ่ายแพ้การทำสงครามเขาไม่สามารถร่วมภูมิใจด้วย รัฐพม่าภูมิใจในบุเรงนองมหาราชของตนที่สร้างกรุงหงสาวดีได้ยิ่งใหญ่ มีประตูเมืองสี่ด้านตั้งชื่อตามเมืองหลวงของประเทศราชรวมทั้งโยเดียหรือกรุงศรีอยุธยา ส่วนคนไทยก็ปลูกฝังความเคียดแค้นทางประวัติศาสตร์ให้ลูกหลานได้สืบต่อ แม้เวลาล่วงเลยไปสงครามสิ้นสุดเกือบสองร้อยปีแล้ว สื่อบันเทิงรุ่นหลัง ๆ ก็ยังพยายามปลุกความเคียดแค้น ในทางกลับกันระบบการศึกษาได้ความรู้สึกภูมิใจว่าสยามรัฐในอดีตก็สามารถ "ปราบปราม" ประเทศราชให้มาสวามิภักดิ์ ทั้งลาว กัมพูชา และรัฐต่าง ๆ ในภาคใต้ การปราบปรามทุกครั้งคือสงครามที่ผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ต้องเสียชีวิตไปจำนวนมาก บ้านแตกสาแหรกขาด ประเทศและรัฐเหล่านั้นเขาย่อมมิได้ชื่นชมด้วย คนที่จะมาเป็นผู้นำของชนชาติได้จะต้องหลอมรวมความรู้สึกของชนชาติ และย่อมพุ่งเป้าไปที่รัฐคู่กรณี การเขียนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาทำโดยอำนาจรัฐแต่ละฝ่าย ประวัติศาสตร์ (ที่ไม่เป็นวิชาการ) ถูกใช้เป็นเครื่องมือของอำนาจรัฐในการสร้างความรู้สึกชาตินิยม ลุ่มหลงชาติพันธุ์ของตน และเหยียดหยามชาติพันธุ์อื่น ๆ
ในงานวิจัยทางมานุษยวิทยาการแพทย์โดยฝรั่งเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้วเรื่องวิธีการและแนวคิดของหมอพื้นบ้านในประเทศไทยในการรักษาผู้ป่วย ผู้วิจัยได้รายงานว่า หมอพื้นบ้านไทยส่วนหนึ่งตอบว่าได้ความรู้จากการลองผิดลองถูก ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ คาถาที่หมอไสยศาสตร์พื้นบ้านในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ใช้ในตอนนั้นบ่งบอกถึงความรู้สึกไม่พอใจสยามรัฐซึ่งสั่งสมกันต่อ ๆ มา ทำนองเดียวกันประวัติศาสตร์เรื่องมัสยิดกรือเซะซึ่งชาติพันธุ์จีน-ไทยในพื้นที่สร้างตำนานขึ้นนั้น หลังจากเหตุการณ์นองเลือดเมื่อ 28 เมษายน 2547 ซึ่งมีการสังหารหมู่ในมัสยิด 23 ศพนั้น คนไทยเชื้อสายมลายูในพื้นที่กล่าวกันต่อ ๆ ไปว่า การทำลายมัสยิดโดยรัฐไทยแบบนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว การเสียชีวิตกว่า 80 รายเมื่อ 25 ตุลาคม 2547 ห่างจากกรณีมัสยิดกรือเซะไม่ถึงครึ่งปีย่อมมีผลตอกย้ำความรู้สึกเคียดแค้นต่อสยามรัฐเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ ทำให้การทำงานของกลุ่มต่อต้านอำนาจรัฐไทยดำเนินการได้ง่ายขึ้น

การใช้ความรุนแรงเป็นวัฏจักรทวีความชั่วร้าย
ความผิดพลาดของอำนาจสยามรัฐในการใช้ความรุนแรงสองครั้งนี้กับการก่อการร้ายภายในพื้นที่หมุนเวียนเป็น "วัฏจักรทวีความชั่วร้าย" (vicious cycle) กล่าวคือ กลุ่มก่อการร้ายใช้วิธีลอบทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวพุทธและผู้ทำงานให้รัฐ ทำให้อำนาจรัฐทหาร-ตำรวจซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธมีความโกรธเคียดแค้น มีความโกรธอยู่เหนือเหตุผลในการทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เครียดจัด เช่นในวันก่อเหตุมัสยิดกรือเซะ และวันก่อเหตุตากใบ มีความเชื่อและมีข้ออ้างทุกครั้งว่าต้องรีบจัดการให้เสร็จเร็วป้องกันการบานปลาย ซึ่งการกระทำ "ให้เสร็จเร็ว" แต่ละครั้งมีการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ที่หลีกเลี่ยงได้ทุกครั้ง และสร้างความแค้นให้กับคนพื้นเมืองมากขึ้น
การวนเวียนของวัฏจักรแต่ละครั้งเป็นความสูญเสียของผู้บริสุทธิ์ทั้งสองฝ่าย และเป็นการเสียความเชื่อถือของอำนาจสยามรัฐทั้งต่อสายตาคนทั่วโลก และต่อคนในพื้นที่เอง วัฏจักรนี้คงวนเวียนอีกไม่นานนัก เพราะสยามรัฐไม่สามารถปกป้องความปลอดภัยของชาวพุทธได้ ชาวพุทธเริ่มอพยพออกนอกพื้นที่ ในแต่ละรอบของการปราบที่รุนแรงคนพื้นเมืองไม่เห็นด้วยกับสยามรัฐมากขึ้นเรื่อย ๆ ความชอบธรรมของสยามรัฐในการปกครองพื้นที่นี้อาจจะถึงกาลอวสาน ที่น่ากังวลก็คือ ก่อนการแยกดินแดนชีวิตจะต้องล้มตายอีกจำนวนมาก แม้หลังแยกดินแดนไปแล้ว คนกลุ่มน้อยในแต่ละพื้นที่ ได้แก่ชาวมุสลิมมลายูในแผ่นดินสยามที่เหลือ และชาวสยามที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ซึ่งแยกไปแล้วในตอนนั้น ทั้งสองฝ่ายคงได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส วัฏจักรนี้ทำลายยากมากเพราะมีคนเร่งให้เกิดมากกว่าคนที่พยายามชะลอ นอกจากผู้ก่อการร้ายซึ่งทำให้สถานการณ์ทุกอย่างเข้าตามแผนแล้ว ก็ยังมีประชาชนไทยนอกพื้นที่ซึ่งขาดความเข้าใจและมองปัญหาด้านเดียว กล่าวคือ เมื่อชาวพุทธถูกทำร้ายก็เกิดความเคียดแค้น เมื่อชาวพื้นเมืองถูกรัฐทำร้ายรู้สึก "สะใจ" และให้กำลังใจอำนาจรัฐ การที่ชาวสยามให้กำลังใจอำนาจสยามรัฐในช่วงที่คนพื้นเมืองเศร้าโศกเสียใจเนื่องจากการเสียชีวิต ที่จริงแล้วเป็นการทำร้ายชาวสยามและชาวพุทธที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และเร่งการแยกดินแดน ความ "สะใจ" ของชาวสยามย่อมเป็นสิ่งตอกย้ำให้ชาวพื้นเมืองเห็นว่าเขาเป็นพลเมืองชั้นสอง กลุ่มก่อการร้ายก็จะอ้างกับคนพื้นเมืองว่าเมื่อสยามรัฐเข่นฆ่าชาวพื้นเมืองผู้บริสุทธิ์ได้ กลุ่มนี้ก็จะฆ่าผู้บริสุทธิ์ชาวสยามเป็นการตอบแทน

ใต้สันติสุข...โจทย์ใหญ่ของคนไทยทั้งชาติ
โจทย์ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นโจทย์ที่แก้ยากมาก เป็นอิทธิพลจากความติดยึดในประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นจุดอ่อนของสมานฉันท์มนุษย์ที่รัฐแต่ละรัฐสร้างขึ้น เป็นความไม่เข้าใจในภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี และอารมณ์ความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง ซ้ำเติมด้วยกระแสการก่อการร้ายทั่วโลกที่กำลังโหมกระพือโต้กระแสจักรวรรดินิยมตะวันตกยุคใหม่ โจทย์นี้ไม่ใช่โจทย์ของรัฐบาล แต่เป็นโจทย์ของคนไทยทั้งชาติ โดยเฉพาะคนสยามและคนมลายู คนพุทธและมุสลิมในพื้นที่ต้องร่วมกันฟันผ่าอุปสรรค

สันติภาพเป็นสัมมาทิฐิ
รัฐบาลกำลังพยายามสร้างความปลอดภัยให้แก่ชาวพุทธและคนทำงานให้รัฐในพื้นที่ ระดมกองกำลังตำรวจทหารและเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่นเดียวกันการทำสงครามครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกวัด ทุกโรงเรียน สิ่งนี้ช่วยลดการเผาโรงเรียนลงได้ แต่ไม่เป็นหลักประกันความปลอดภัยในชีวิตของราษฏรโดยเห็นได้จากการฆ่ารายวันมีจำนวนมากขึ้น ราษฏรพุทธและคนที่ทำงานให้กับรัฐไม่อยู่ในฐานะที่จะป้องกันตนเองได้เช่นกัน การช่วยตัวเองมีอยู่สองทาง คือ ย้ายออกนอกพื้นที่ หรือ อยู่อย่างระมัดระวังและผูกมิตรกับคนพื้นเมืองให้มากที่สุด
ชาวสยามนอกพื้นที่ที่อยากช่วยพี่น้องร่วมชาติของตนต้องตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิ หรือ อยู่บนทฤษฏีที่ถูกต้อง อย่าสนับสนุนความรุนแรง เพราะที่สำคัญไม่ใช่ความรุนแรงทำให้รัฐบาลตกต่ำในสายตาอารยประเทศ ซึ่งเรื่องนั้นนักการทูตของเราเขารับว่าจะไปแก้ให้ได้ ความสำคัญก็ไม่ได้อยู่ที่จะทำให้หุ้นตก เพราะรัฐบาลก็มีผลงานด้านเศรษฐกิจพยุงตลาดหุ้นมาได้ตลอดรอดฝั่ง ส่วนที่ร้ายที่สุดของการสนับสนุนความรุนแรง คือ ความรุนแรงนี้จะทำร้ายคนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนโดยตรง โดยทำให้ประชาชนมลายูพื้นเมืองส่วนใหญ่ซึ่งเป็นกลางหรือสนับสนุนรัฐไทยหันไปเป็นแนวร่วมฝ่ายตรงข้าม ทำให้ความปลอดภัยของชาวสยามในพื้นที่น้อยลง
นอกจากจะไม่สนับสนุนความรุนแรงแล้ว ชาวสยามนอกพื้นที่ควรช่วยกันสร้างกระแสสันติภาพในรูปแบบต่าง ๆ ส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันกับชาวพื้นเมือง เชิญคนพื้นเมืองในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปเยี่ยมไปมาหาสู่ รับฟังความทุกข์และความคับแค้นใจของอีกฝ่ายหนึ่งด้วยดีและหาทางช่วยเหลือ การช่วยเหลือข้ามชาติพันธุ์เป็นสิ่งที่ควรยกย่องชื่นชมเท่ากับหรือมากกว่าการช่วยเหลือในชาติพันธุ์เดียวกัน เพราะเป็นการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายซึ่งการช่วยเหลือเฉพาะชาติพันธุ์ของตนไม่สามารถสร้างสันติภาพได้

สู่ความสมานฉันท์
รัฐธรรมนูญไทยฉบับปี 2540 ได้มาด้วยการผ่านบทเรียนเลือดและน้ำตาของคนไทยในการต่อสู้กับเผด็จการ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเนื้อหาพิทักษ์สิทธิของคนไทยอย่างเท่าเทียมกันเพื่อสร้างความสมานฉันท์ในชาติ ชาวมลายูในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้รู้สึกว่าไม่ได้รับการคุ้มครองตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ชาวสยามทั่วประเทศต้องช่วยกันรณรงค์ให้สิทธินี้แก่พี่น้องต่างชาติพันธุ์ส่วนนี้ นักกฎหมายชาวสยามที่เป็นไทยพุทธควรร่วมกระบวนการทางนิติธรรมแก้ไขปัญหานี้ อย่าปล่อยให้นักกฎหมายมุสลิมดำเนินการอย่างโดดเดี่ยว ควรศึกษาตัวอย่างบุคลกรทางการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ซึ่งให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมโดยไม่เลือกชาติพันธุ์จนเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
การรณรงค์เพื่อสันติภาพควรเริ่มต้นจากการสร้างความรักความเมตตาต่อคนที่แตกต่างไปจากเรา พยายามทำความเข้าใจและสื่อสารกับเขาด้วยดีแม้จะยากลำบาก เราต่างฝ่ายต่างถูกโปรแกรมมาด้วยระบบการศึกษาและวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญเฉพาะกับพวกเราและมีแนวโน้มเหยียดหรือรังเกียจผู้อื่น ต้องช่วยกันลบโปรแกรมนี้ออกจากหน่วยความจำอย่าให้ส่งผลร้ายกับพี่น้องเราเอง
สงครามในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้หนักหนาสาหัสต่อประวัติศาสตร์ไทย ชาวไทยเชื้อสายมลายูในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชี้ขาดขั้นสุดท้าย ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าการเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความเจริญก้าวหน้าและมีความสุขไม่ต่างกับคนสยาม ในอดีตมีชาวจีนและชาวอินเดียเข้ามาตั้งรกรากในเมืองไทย และในปัจจุบันมีชาวพม่า ชาวลาวและกัมพูชา จำนวนมากเข้าประเทศไทยเพื่อมาเป็นคนไทยเพราะประเทศไทยมีสิ่งดีมากมาย ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายเชิงวัฒนธรรม ระบบเศรษฐกิจเสรี และประชาธิปไตย เราต้องทำให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายมลายูได้ร่วมชื่นชมสิ่งนี้อย่างเป็นรูปธรรม

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์
หน่วยระบาดวิทยา, สถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้,
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, หาดใหญ่

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net