ศูนย์ข่าวภาคใต้- 22 ก.ย.47 นายสัมฤทธิ์ ยงสถิรโชติ อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 2 บ้านทุ่งลุง ตำบลพะตง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กล่าวถึงกรณีที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะใช้มาตรการทางกฎหมายรอนสิทธิ์ในที่ดินของตน เพื่อวางท่อส่งก๊าซไทย - มาเลเซียว่า ถ้าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทำได้คงทำไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้

ตนไม่เชื่อว่า จะนำมาตรการทางกฎหมายมาใช้ เพื่อเอาที่ดินของชาวบ้านไปให้เอกชน คือ บริษัท ทรานส์ ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด (ทีทีเอ็ม) ใช้ประโยชน์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความผิดพลาดของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตีความว่าทีทีเอ็มเป็นเอกชน เพื่อจะได้ไม่ต้องทำประชาพิจารณ์

"ผมรู้ว่าโครงการนี้เป็นของหน่วยงานเอกชน ถ้าทีทีเอ็มต้องการนำกฎหมายมาใช้ก็ทำไป เพราะถึงอย่างไรก็ทำไม่ได้ ถ้าจะเจาะลอดก็ต้องลึกเกิน 100 เมตร ทางออกอื่นผมยังไม่บอก จนกว่าจะยอมจ่ายค่าชดเชยตามที่ขอ ซึ่งตอนนี้ขยับจาก 150 เป็น 200 ล้านบาท ล่าสุดขึ้นเป็น 1 พันล้านบาทแล้ว ถ้าทีทีเอ็มบอกว่าไม่จ่ายให้ ก็ไม่ต้องทำโครงการนี้ ถ้าจะเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ขอเลี่ยงไปให้ไกลๆ กลางคืนผมจะได้นอนหลับ ค่าชดเชย 1 พันล้านบาท ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าโครงการ 48,000 ล้านบาท"

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้จ่ายค่าค่าชดเชยไปแล้ว 600 ราย มีเพียง 6 รายที่ยังไม่ได้จ่าย เนื่องจากเจ้าของที่ดินยังไม่ยอมรับ สำหรับการจ่ายค่าชดเชย ดำเนินการภายใต้ประกาศกระทรวง
อุตสาหกรรม เรื่องกำหนดเขตระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ ใน อ.จะนะ อ.นาหม่อม อ.หาดใหญ่ และอ.สะเดา เพื่อรอนสิทธิ์ที่ดินของชาวบ้านมาวางท่อส่งก๊าซ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ปี 2521 มาตรา 29 เขตสำรวจเพื่อก่อสร้างโรงแยกก๊าซ และมาตรา 30 เขตระบบการขนส่งทางท่อ ซึ่งรัฐบาลได้ออกพระราชกฤษฎีกา ให้อำนาจแก่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สามารถใช้พระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวได้ต่อไป ถึงแม้จะแปรรูปแล้วก็ตาม

รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของที่ดินบางรายในจำนวน 6 ราย ที่ยังไม่อนุญาตให้วางท่อก๊าซผ่านที่ดิน ให้ไปรับเงินค่าชดเชย พร้อมทั้งระบุว่า เจ้าหน้าที่จะเข้าวางท่อส่งก๊าซ ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 6 พฤศจิกายน 2547 นี้

มูฮำหมัด ดือราแม
ศูนย์ข่าวภาคใต้รายงาน