Skip to main content
sharethis

เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (21 มิ.ย.) ที่ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มประชาชนในนามสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย องค์กรเครือข่ายสภาประชาชน ซึ่งเป็นเครือข่ายสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จัดกิจกรรม "ร่วมฟัง ร่วมคิด กับสภาประชาชนภาคเหนือ"


 



 



 



 



 



 




 


 


โดยกิจกรรมมีการออกแถลงการณ์จากสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตยและสภาประชาชนภาคเหนือ มีการนำหม้อดินมาทำพิธีสาปส่ง 5 แกนนำพันธมิตรฯ และผู้ประสานงาน มีการปราศรัยคัดค้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 และคัดค้านการรัฐประหาร นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีสลับกับการปราศรัย นอกจากเพลงเพื่อชีวิตบนเวทีแล้ว มีการร้องเพลงปณิธานแห่งเสรีชนก่อนปิดเวทีด้วย


 


นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล นักธุรกิจ เจ้าของวิทยุชุมชน FM 92.5 MHz แกนนำ เปิดเผยว่า หลังจากทำพิธีนำผงกระดูกผีจากป่าช้ามาใส่หม้อ และนำภาพของแกนนำพันธมิตรฯ ปิดฝาหม้อดินแล้ว พวกตนก็ได้ให้หมอผีมาทำพิธีสาปแช่งกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ และจะได้นำหม้อดินดังกล่าวไปถ่วงน้ำแม่ปิง เพื่อไม่ให้พวกนี้ได้ผุดได้เกิดหากต้องตายไป เพราะทำให้ประเทศชาติเสียหาย สำหรับการปราศรัยของพวกตนจะทำทุกวันเสาร์ที่ข่วงประตูท่าแพ โดยจะเริ่มตั้งแต่ 18.00 น. ไปสิ้นสุดในเวลา 22.00 น. จนกว่าฝ่ายพันธมิตรที่กรุงเทพฯ จะเลิกชุมนุม


 


 






แถลงการณ์จากสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย


และสภาประชาชนภาคเหนือ


 


วันที่ 21 มิถุนายน 2551


 


การเกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ได้ทำลายความเชื่อมั่นในด้านการลงทุนอย่างรุนแรงต่อประเทศไทย เนื่องจากการรัฐประหารถือเป็นสิ่งแสดงความไม่สมบูรณ์และบกพร่องของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันที่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย "ชุมนุมก่อกวน" ทางการเมืองโดยอ้างสิทธิในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญของประเทศจนทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นอกจากนี้การชุมนุมดังกล่าวยังทำให้การบริหารงานและแก้ไขปัญหาของรัฐบาลทำได้ยากขึ้น การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นตัวอย่างของการใช้สิทธิและเสรีภาพแบบไม่ถูกต้อง ดังนั้นสมาพันธ์ฯ ขอต่อต้านวิธีการชุมนุมประทวงดังกล่าว และจะพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ประชาชนทั่วไปของประเทศ โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้ประเทศเสียหายเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้


 


สมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตยมีมติร่วมกันในการเคลื่อนไหวดังนี้


 


1.ร่วมกันต่อต้านกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกรูปแบบ


 


2.ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดรัฐประหารครั้งล่าสุด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจที่มาที่ไปของสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน


 


3.ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนในเขตภาคเหนือเข้าใจเกี่ยวกับระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยจะพยายามส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงหน้าที่ สิทธิ และเสรีภาพที่ถูกต้องของประชาชน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศในอนาคต


 


 


 


ฝ่ายต้านพันธมิตรชี้พันธมิตรใช้สิทธิเกินขอบเขต ทำผู้อื่นเดือดร้อน


นายสมชัย ชนะวรรณ์ ผู้ปฏิบัติงานสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าที่กลุ่มต้องจัดกิจกรรมที่ข่วงประตูท่าแพ เนื่องจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนขบวนไปล้อมทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเขาเห็นว่าการชุมนุมแม้เป็นสิทธิตามหลักการประชาธิปไตย แต่ควรมีขอบเขต ควรเคารพกติกา เคารพกฎหมายบ้านเมือง ถ้าพันธมิตรจัดการชุมนุมโดยไม่ปิดถนน ไปจัดที่สวนลุมพินี คงไม่มีใครว่าอะไร


 


เขากล่าวว่า แนวทางของพันธมิตรไม่นำไปสู่หนทางประชาธิปไตย แกนนำพันธมิตรชอบแอบอ้างประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ทำ ทำโดยใช้กฎหมู่ ระบอบประชาธิปไตยเขาสู้กันในระบบรัฐสภา ประชาชนทุกคนมีสิทธิแสดงออก แต่ต้องไม่รบกวนสิทธิของผู้อื่น ไม่ควรกีดขวางทางจราจร ไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน และการชุมนุมไม่ควรทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศ


 


สิ่งที่แกนนำพันธมิตรกระทำเป็นไปเพื่อความสะใจ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แต่ไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ทั้งที่พรรคพลังประชาชนรณรงค์หาเสียงอยู่แล้วว่าจะเข้าไปแก้รัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา มาตราไหนไม่เป็นประชาธิปไตยก็แก้ ส่งคืนรัฐธรรมนูญ 2550 ให้เผด็จการ เพราะคุณยึดอำนาจมา ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน


 


นายสมชัยยืนยันว่าถ้าได้รัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด พลังประชาชน หรือประชาธิปปัตย์ เขายอมรับได้ทั้งนั้น พรรคชาติไทยก็รับได้ ขอให้มาตามครรลอง ไม่ได้ตั้งป้อมว่าต้องเป็นพลังประชาชน ใครก็ได้ ขอให้เข้ามาอย่างถูกต้อง เขาจะสนับสนุน


 


 


โต้สนธิ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ทำให้เป็นสาธารณรัฐ ย้อนถามสนธิคิดอะไรอยู่


ต่อกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่าหากมีแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จะทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบสาธาณรัฐนั้น นายสมชัยกล่าวว่า ความเห็นของนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นข้อกล่าวอ้างในการให้ร้ายป้ายสี เขาเห็นว่าคนที่ต้องการประเทศเป็นสาธารณรัฐคือสนธิ ลิ้มทองกุลต่างหาก ทุกครั้งที่นายสนธิอยากทำอะไร เขาจะป้ายร้ายสีสิ่งที่เขาอยากทำไปให้คนอื่นเสมอ เช่น ให้ร้ายนายกทักษิณว่าคอรัปชั่น ขายหุ้น ไม่ยอมเสียภาษี ทั้งที่เราก็รู้ว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไม่เสียภาษี มติชนขายหุ้นไม่เสียภาษี อากู๋ซื้อไม่เสียภาษี กรณ์ จาติกวนิชแห่งพรรคประชาธิปัตย์ขายหุ้นของพ่อเขาเป็นพันล้านไม่เสีย แต่สนธิไม่พูดเรื่องนี้ นายสนธิให้ร้ายทักษิณว่าทุจริต ตัวเองกู้เงินธนาคารมาแล้วไม่ยอมจ่าย ทำเป็นล้มบนฟูก


 


"ประเทศจะกลายเป็นสาธารณรัฐเป็นไปได้อย่างไร ประเทศของเรายังมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังมีรัฐธรรมนูญ ยังมีการเลือกตั้ง มันเป็นไปไม่ได้ มีแต่นายสนธิคิดอย่างนี้ต้องการเป็นอย่างนี้ คนที่ไม่รู้ทัน รับฟังเขาโดยที่สมองไม่กรองก็จะคล้อยตาม กลายเป็นพวกเป็นพ้อง"


 


เขาหาว่าทักษิณไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วตัวนายสนธิเป็นอย่างไรครับ แอบอ้างพระเจ้าอยู่หัว แอบอ้างพระราชินี เอาผ้าพันคอสีฟ้า สีเหลืองมาผูกคอไว้ เพื่ออะไร เพื่อให้คนที่ไม่รู้ หรือรู้ไม่ทัน เข้าใจว่าสถาบันอยู่เบื้องหลังเขา ผมยังจำได้ที่เขาพูดก่อนการรัฐประหาร 19 กันยา ว่าเขาสังกัดพรรคจักรี ถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แล้วก่อนการเคลื่อนขบวนไปทำเนียบ ยังเอารูปพระเจ้าอยู่หัวไปติดบนโล่อีก


 


นายสมชัย ยืนยันว่าการชุมนุมของกลุ่มจะยึดหลักอหิงสา จะไม่มีการปิดถนน เขากล่าวว่าจะรอเวลาที่แกนนำพันธมิตรคิดได้และยอมรับว่าได้กระทำผิดไปแล้ว กลุ่มของเขาทุกคนยอมรับได้ ไม่มีปัญหา เพราะชาวพุทธให้อภัยกันอยู่แล้ว


 


 


"วิภูแถลง" ยันต่อสู้เพื่อรักษาประชาธิปไตย อภิสิทธิ์มาจากการเลือกตั้งก็ต้องปกป้อง


ที่เวทีในเวลา 18.00 น. เริ่มมีการปราศรัย โดยมีผู้ชุมนุมราว 200 คน โดยนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และนายชูพงศ์ ถี่ถ้วน แกนนำสภาประชาชนซึ่งเดินทางมาจาก กทม. มาร่วมปราศรัยด้วย


 


นายวิภูแถลง กล่าวว่า ตอนพฤษภาคม 2535 คนที่ตายในเหตุการณ์ก็เป็นลูกหลานคนยากคนจน คนขายดอกไม้ คนขายพวงมาลัย แม่ค้าที่จิตใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่ พล.ต.จำลองกินผักไม่กินเนื้อ แต่กินเลือดประชาชน ดังนั้นเขาเป็นห่วงรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง เกรงว่าจะเหมือนปี 2535 เพราะตอนนั้น พล.ต.จำลองได้ยินเสียงปืนแล้วยิ้ม เพราะอยากให้คนตาย รัฐบาลจะได้หมดความชอบธรรม ให้ทหารเข้ามายึดอำนาจ


 


นายวิภูแถลงกล่าวว่าไม่ได้รักสมัคร สุนทรเวชเพราะหล่อ แต่เพราะนายสมัครมาจากกติกา เขายังเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเลิกกล่าวหาฝ่ายต่อต้านว่าเป็นไข่ทักษิณ เพราะจะเป็นไข่ใครไม่สำคัญ สำคัญที่ต่อสู้เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ถ้าอภิสิทธิมาจากการเลือกตั้ง นายวิภูแถลงยืนยันว่าจะไปปกป้องนายอภิสิทธิ์ให้ แต่ทุกวันนี้ที่นายอภิสิทธิ์ถูกเกลียดเพราะคิดจะเล่นนอกกติกา คิดใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ


 


 


ย้อนถามอภิสิทธิ์ "จักรภพ" มีทัศนคติอันตรายกับใครกันแน่


"ที่นายอภิสิทธิ์ไปกล่าวหาจักรภพ เพ็ญแข ว่ามีทัศนคติอันตราย อันตรายต่อมึงนะสิอภิสิทธิ์ ไม่ใช่อันตรายต่อประเทศไทย จักรภพเขาบอกว่าสังคมมีการอุปภัมภ์ค้ำจุนกันมา เป็นเจ้าขุนมูลนาย การสร้างประชาธิปไตยจึงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะประวัติศาสตร์ชาติไทยมันเป็นมาแบบนี้ ดังนั้นแนวคิดของนายจักรภพจึงอันตราย อันตรายกับนายอภิสิทธิ์ที่ไม่เคยชนะพรรคพลังประชาชน" นายวิภูแถลงกล่าว


 


นายวิภูแภลงกล่าวโจมตีพรรคการเมืองหนึ่งว่ามีพฤติกรรมเหมือนสุนัขไฮยีนา รอกินเหยื่อที่คนอื่นล่ามาแล้ว โดยเขายกตัวอย่างกรณีกรณีสวรรคต รัชกาลที่ 8 ปี 2489 ตอนนั้นมีนายถวัลย์ ดำรงนาวาสวัสดิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ในครั้งนั้นคนที่เป็นมันสมองคณะราษฎรคือ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษ ถูกคนจากพรรคพรรค์อย่างนี้ไปตะโกนโรงหนังมืดๆ ว่า "ปรีดีฆ่าในหลวง" จนปรีดีต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ พอนายปรีดีตายมีแต่ขี้เถ้ากลับมาเมืองไทย ทั้งที่นายปรีดี เป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยทำให้ประเทศไทยไม่กลายเป็นผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นผู้แก้สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับต่างประเทศ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสนธิสัญญาเบาริ่ง หรือสิทธิสภาพนอกอาณาเขต เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง


 


นายวิภูแถลงกล่าวต่อไปว่า แล้วจะต้องมีคนตายแบบปรีดีสักกี่คน ถ้าเราไม่ปกป้องคนอย่างปรีดี คนอยากทำอะไรดีๆ ให้บ้านเมืองจะต้องตายอีกกี่คน ต้องให้กระเบื้องเฟืองฟูลอย น้ำเต้าน้อยถอยจมหรือ


 


นายวิภูแถลงเล่าต่อไปว่า พอมีการเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือ จึงมีการปฏิวัติ 2490 และฉีกรัฐธรรมนูญ 2489 ที่เป็นรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยฉบับหนึ่ง คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการรัฐประหารคือนายควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วที่ว่าเป็นสุนัขพันธุ์ไฮยีนา มันไม่จริงหรือไง


 


 


ถามประชาธิปัตย์อยากให้มีปฏิวัติอยู่อีกหรือ


นายวิภูแภลงยังเปรียบเทียบกับเหตุการณ์หลังเดือนพฤษภาคม 2535 ที่ พล.ต.จำลองต่อสู้จน พล.อ.สุจินดาลาออก พอมีการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ก็กล่าวหาว่าจำลองพาคนไปตาย จนพรรคพลังธรรมชนะการเลือกตั้ง นายชวน หลีกภัย จึงเป็นนายกรัฐมนตรีบนซากศพนักประชาธิปไตยบนถนนราชดำเนิน


 


นายวิภูแถลงกล่าวว่า มาหนนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังอยากให้มีการปฏิวัติอยู่อีกหรือ ทำไมไม่คิดนโยบายที่เป็นประโยชน์แล้วหาเสียงบ้าง พอคนอื่นลงเลือกตั้งชนะก็หาว่าเขาซื้อเสียง พอตัวเองชนะกลับบอกว่าเป็นอุดมการณ์


 


 


ชวนสังคมไทยยึดหลักไม่เอารัฐประหารเป็นวิธีแก้ปัญหา


เขากล่าวต่อไปว่า สังคมไทยต้องยึดหลัก "ไม่ยอมรับรัฐประหารให้เป็นวิธีแก้ปัญหาทางการเมือง" เพราะโลกไม่ยอมรับ ถ้ามีการทำรัฐประหารอีกจะเกิดผลเสียหนักกว่าการรัฐประหารปี 2549 เขายังกล่าวว่าบ้านเมืองต้องการคนดีมาปกครองบ้านเมือง แต่บ้านเมืองนี้ก็แปลกเพราะไม่ยอมให้ตรวจสอบคนดี คนที่ถูกกล่าวหาว่าชั่ว ก็ปล่อยให้ถูกตรวจสอบจนแทบจะแก้ผ้า แต่คนดีๆ กลับไม่ยอมให้ตรวจสอบ


 


"ส.ส.ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน แต่ทำไมผู้บัญชาการเหล่าทัพไม่แสดงทรัพย์สินบ้าง อย่าเลือกปฏิบัติ ผู้พิพากษา ปปช. คตส. ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องแสดงทรัพย์สินเช่นกัน อย่าทำข้างเดียว แต่นี่ด่านักการเมืองเหมือหมูหมา ตรวจสอบเขาถี่ยิบ แต่ฝังตนไม่ยอมให้ตรวจสอบ บางคนบ้านอย่างกับวังขนาด 1 ไร่บอกว่าราคาแค่ 4.4 ล้าน" นายวิภูแถลงกล่าว


 


 


สังคมไทยเกิดเป็นลูกใครก็เท่าเทียมกัน


นายวิภูแถลงกล่าวต่อไปว่า สังคมไทย ผู้คนได้เป็นเสรีชนแล้ว ลูกชาวนากระเทียม ก็เป็นคนเท่ากับลูกผู้พิพากษา หมดยุคหมอบราบคาบแก้วต่อเจ้าขุนมูลนาย ขอให้พี่น้องรักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ปกป้องการปกครองในระบอบรัฐสภาเอาไว้ ผมไม่ได้ไปเป็นผู้แทนอะไรกับเขา แต่รัฐสภามาจากประชาชน รัฐสภาไทยจะปล่อยให้อ่อนแอจนดูแลประชาชนไม่ได้ รัฐบาลอ่อนแอเพราะเป็นรัฐบาลผสม พอตั้งท่าจะปราบม็อบ พรรคร่วมรัฐบาลก็รวมตัวไปกินกาแฟกันแล้ว มึงปราบกูโหนทันที แบบนี้ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาลแล้วแต่เป็นหอกข้างแคร่ ที่พูดมานี้ไม่ใช่เพราะรักสมัคร แต่รักระบอบรัฐสภา


 


 


คนเหนือน้อยใจถูกด่า ยืนยันเป็นคน กินข้าวเป็นอาหารเหมือนกัน


ต่อมา มีชาวเชียงใหม่วัยกลางคนผู้หนึ่งขอขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวว่า ผู้นำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ควรใช้คำผรุสวาท ทั้งที่บอกว่าตัวเองมีศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม อย่างนี้หรือคุณธรรม นี่มันคุณธรรมบนความเดือดร้อนของคนไทยทั้งประเทศแล้ว เชียงใหม่มีรายได้จากการท่องเที่ยว แต่ประสบปัญหาเพราะภาวะน้ำมันขึ้นราคา และสภาพเศรษฐกิจแบบนี้อีก ดังนั้นประเทศชาติจึงต้องการความรัก ความสมานฉันท์ ความสามัคคี เหตุไฉนประเทศไทย 63 ล้านคนจึงตกอยู่ภายใต้การกดดันของคนไม่กี่คน


 


แล้วที่แกนนำพันธมิตรบอกว่าต้องการประชาธิปไตย แล้วตอนรัฐประหารแกนนำเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน แล้วที่บอกว่าไทยจะเสียดินแดน เสียเขาพระวิหาร ขอถามว่าแล้วสามจังหวัดภาคใต้มีขบวนการแบ่งแยกดินแดน แกนนำเหล่านี้ไปมุดรูอยู่ที่ไหน เขายังกล่าวว่าทำไมแกนนำพันธมิตรจึงว่าคนภาคเหนือ ทั้งที่คนเหนือก็เป็นคน กินข้าวเป็นอาหารเหมือนกัน


 


เขายังกล่าวว่า ขอให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ยึดแนวทางครูบาศรีวิชัย นักบุญล้านนา ครั้งหนึ่งครูบาศรีวิชัยถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ ถูกขังที่วัดศรีดอนไชย จ.เชียงใหม่ และวัดเบญจมบพิตร ใน กทม. เป็นเวลา 3 ปี จนความจริงปรากฏว่าครูบาศรีวิชัยเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น พวกเราอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล อย่าให้คนดีต้องต่อสู้ตามลำพัง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พวกเรารักศรัทธา แต่ทำไมพันธมิตรฯ เอาพระบรมฉายาลักษณ์ไปติดที่โล่ ชายผู้นี้กล่าว


 


โดยการปราศรัยดำเนินไปจนถึงเวลา 22.00 น. จึงเลิกเวที โดยแกนนำประกาศว่าจะจัดกิจกรรมเช่นนี้ทุกสัปดาห์


 


………………..


ข่าวย้อนหลัง


สภาประชาชนภาคเหนือ ชูแก้รัฐธรรมนูญ 50 ประณามแกนนำพันธมิตร (ประชาไท - 21 มิ.ย. 51)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net