Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 4 ต.ค. 50 ในวันศุกร์ที่  5 ต.ค. เวลา 10.00 น. ตัวแทนญาติผู้ถูกควบคุมตัวเพื่อฝึกอาชีพ 4 เดือนจำนวนประมาณ 80 คน และทนายความของมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) ร่วมกับศูนย์ทนายความมุสลิม จะเดินทางไปเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์-ธานี   เพื่อขออำนาจศาลให้ไต่สวนว่าการควบคุมตัวเพื่ออบรม 4 เดือนนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายและขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยผู้ถูกควบคุมตัวโดยทันที  


 


มีผู้ถูกควบคุมตัวทั้งหมดจำนวน 66 คน ในค่ายรัตนรังสรรค์  จังหวัดระนอง จำนวน  158 คน ในศูนย์ท่าแซะ ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร และจำนวน 79 คนในค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดสุราษฎร์ธานี  รวมทั้งสิ้น  203 คน ได้ยื่นคำร้องเรียนขอเดินทางกลับภูมิลำเนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  แต่หน่วยงานทหารที่มีหน้าที่ควบคุมตัวและทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกอาชีพได้แจ้งให้ทราบเบื้องต้นว่าไม่อนุญาต   


 


ผู้ถูกควบคุมตัวได้ร้องเรียนต่อหลายหน่วยงานว่า ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและถูกควบคุมตัว 7 วันตามอำนาจกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 และถูกควบคุมตัวต่ออีก 30 วันตามอำนาจพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548  โดยถูกควบคุมตัว ณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งเมื่อครบกำหนดการควบคุมตัวตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะควบคุมตัวอีก แต่กลับมีการข่มขู่ บังคับให้บุคคลเหล่านั้นเข้ารับการ "ฝึกอบรมวิชาชีพ" เป็นเวลา 4 เดือน โดยเจ้าหน้าที่ขู่ว่า หากปฏิเสธไม่เข้ารับการฝึกอบรมอาชีพจะส่งตัวไปดำเนินคดีและจะไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดี  ไม่ได้รับสิทธิในการพบทนายความ ไม่มีการตั้งข้อหา หรือหากกลับไปภูมิลำเนาก็อาจไม่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งทำให้ผู้ถูกควบคุมเกิดความหวาดกลัว ต้องจำยอมเข้ารับการฝึกอาชีพโดยไม่สมัครใจ


 


ทั้งนี้ในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.  2550 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้การฝึกอาชีพเป็นเวลา 4 เดือน  ภายหลังจากถูกควบคุมตัว 37 วัน  ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริง  และสถานที่ฝึกอาชีพต้องอยู่ใกล้ภูมิลำเนาของบุคคลดังกล่าว รวมทั้ง การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาคุมขังเพื่อซักถาม ต้องมีหลักฐานอย่างแน่ชัดเสียก่อน มิฉะนั้นแล้วอาจมีผู้บริสุทธิ์ถูกคุมขังโดยมิชอบ รวมทั้งให้เยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ต้องสงสัยจากการควบคุมตัว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net