ชายไทยไม่ทราบชื่อ ใช้ปี๊บคลุมหัวซึ่งเขียนข้อความประท้วงรัฐบาลปัจจุบัน หน้าที่ทำการพรรคไทยรักไทย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกุมตัวไป เมื่อ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา (ภาพจาก AP)

ประชาไท - 30 พ.ค.2550 ภายหลังการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง "นพพร วงศ์อนันต์" ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ประจำกรุงเทพ รายงานความคิดเห็นของนักวิเคราะห์การเมืองจากต่างประเทศ รวมถึงนักวิเคราะห์จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยระบุว่าพรรคไทยรักไทยจะกลับมาอีกครั้งในชื่อใหม่ แม้จะไม่มี พล.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้นำพรรค

ทางด้าน นายธนวัฒน์ ปัจฉิมกุล (ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ) ถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ด้านการเงินของประเทศไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การยุบพรรคครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เพราะการสั่งห้ามไม่ให้คนร้อยกว่าคนเข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมืองเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม และสร้างภาพลักษณ์ด้านลบที่เสียหายให้กับประเทศ เพราะสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นในขณะนี้คือระบบ "ตรวจสอบและถ่วงดุล" หรือ Check and Balance

ถึงแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคที่เก่าแก่ แต่เมื่อผลการตัดสินออกมาเป็นเช่นนี้ ทางพรรคอาจต้องเผชิญกับความกลัวว่าจะได้รับผลกระทบที่ตามมาจากกลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณด้วย

ขณะเดียวกัน เอลิซาเบธ มิลส์ นักวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง ชาวลอนดอน ได้กล่าวถึงกรณีตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยว่า ออกจะเป็นความไร้เดียงสาอยู่มาก สำหรับผู้ที่คิดว่าวิธีนี้จะแก้ปัญหาการเมืองของไทยที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันได้ เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมจะมีความหมายอะไรกับสังคมไทยหรือไม่

การสั่งตัดสิทธิ์ไม่ให้ทักษิณ ชินวัตร เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง อาจถูกมองว่าเป็นการแก้ปัญหา แต่สิ่งที่ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ก็คือว่า ประชาชนในต่างจังหวัดและชนชั้นรากหญ้าในเมืองกว่าสิบล้านเสียงซึ่งลงคะแนนให้กับทักษิณอย่างถล่มทลายจะไม่พอใจกับคำตัดสินนี้ขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เนื่องจากกองกำลังตำรวจและทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมแล้วกว่า 1,800 นาย ตรึงกำลังรักษาการอยู่จนถึงขณะนี้

เรียบเรียงข้อมูลจาก: Thaksin banned from politics for five years