Skip to main content
sharethis

จากกรณีการสลายชุมนุมกลุ่มชาวบ้านที่เข้าไปชุมนุมในสวนปาล์มของบริษัท ทักษิณปาล์ม จำกัด ล่าสุดกลุ่มชาวบ้านที่ถูกสลายการชุมนุมประมาณ 20 คน ได้เข้าพบให้ข้อมูลและยื่นหนังสือให้แก่นายจรัล ดิษฐาอภิชัย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งเดินทางมาทำงานในภาคใต้


 


นายจรัลกล่าวถึงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมว่า มีภาพของการใช้ความรุนแรงออกมาเหมือนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ที่มีการสลายการชุมนุม ในกรณีที่ดินทำกินเช่นกัน โดยจะนำเรื่องเข้าประชุมของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อดูว่าการสลายชุมนุมในครั้งนี้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่  สำหรับความรุนแรงที่เกิดขึ้น ตนมองว่าเป็นโศกนาฏกรรม เพราะทั้งฝ่ายรัฐ ฝ่ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันภาครัฐเองก็ยังไม่มีนโยบายการจัดการที่ดินที่ชัดเจน


 


ส่วนที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีกลุ่มชาวบ้านมาจากอำเภอคีรีรัฐนิคมและกิ่งอำเภอวิภาวดี ประมาณ 500 คนเข้ามอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่นายนิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย


 


นายวิมล เชิดชูชน นายมะแอ ลาเต๊ะ และนายเริง เกตุแก้ว  3 แกนนำกลุ่มองค์การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรภาคใต้ ที่มีรางวัลนำจับรวมกัน 4 แสนบาท ซึ่งหลบหนีหมายจับจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหาเป็นแกนนำบุกรุกสวนปาล์มที่ ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเข้าปราบปราม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บหลายราย


 


นายวิมล กล่าวว่า การร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เนื่องจากไม่ไว้ใจข้าราชการท้องถิ่น ซึ่งมีการให้ข่าวเพียงฝ่ายเดียวเพื่อทำให้เกิดความสับสน และข้าราชการก็บุกรุกป่าไม้เกิดขึ้นในพื้นที่ประมาณ 1ล้านไร่ อีกทั้งคนงานไทยถูกแรงงานพม่าแย่งงาน มีการฆ่าคนแล้วไปฝังไว้ในสวนปาล์ม ซึ่งตอนแรกพวกตนจะยอมมอบตัวแล้ว แต่ชาวบ้านไม่ยอม เนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย อีกทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อ้างว่า นำหมายจับมานั้นมีจำนวนถึง 3 พันคน ขณะที่กลุ่มชาวบ้านมีเพียงกว่าพันคน


 


"วันเกิดเหตุพวกผมไม่ได้หนี แต่ชาวบ้านอุ้มให้หนี เพราะเกรงจะเกิดอันตราย ซึ่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ที่นำกำลังเป็นพันนาย มาบุกจับแกนนำเพียง 4 คน ซึ่งหลังจากนี้ผมจะเดินทางไปยังสภาทนายความ และกรรมการสิทธิมนุษย์ชนแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะผมจะไม่ยอมเป็นลูกแกะในมือหมาป่า แต่จะเป็นลูกไก่ในมือนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่าการบุกรุกสวนปาล์มของนายทุน พวกผมไม่ได้หลอกชาวบ้านให้มาบุกรุก และไม่ได้เก็บเงินจากชาวบ้าน เรื่องนี้ชาวบ้านสามารถเป็นพยานได้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ โกหกคำโต ตอนแรกก็บอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้ แต่ตอนหลังมากลับหักหลัง ซึ่งผมมีหลักฐานเป็นซีดี ที่ทางผู้ว่าราชการฯรับปากว่าจะช่วยชาวบ้าน แต่ที่มาผ่านใส่เกียร์ว่างมาโดยตลอด" นายวิมล กล่าว


 


เขากล่าวว่า เรื่องเก็บเงินชาวบ้าน อาจเป็นพวกกลุ่มนายทุนแฝงตัวเข้าไป แต่ตนยืนยันว่าที่ดินที่เกิดเหตุ มีการบุกรุกจริง มีการเล่นแร่แปรธาตุ จากหน่วยงานของรัฐ หากนายทุน และข้าราชการที่เกี่ยวข้องอยากชี้แจงเวทีไหน ตนพร้อมออกมาโต้


 


 


 


ที่มา : ไอ.เอ็น.เอ็น. และ เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net