Skip to main content
sharethis





คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ (Working Group on Justice for Peace) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) กรณีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงถล่มชุดคุ้มครองรถนักเรียนโรงเรียนยาบีบรรณวิทย์ เหตุเกิดบนถนนสายท่ากูโบร์-ยาบี ม.๔ ต.บ้านท่ากูโบร์ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จนมีทหารพรานเสียชีวิตและมีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ โดยแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง หันมาเจรจา และใช้กระบวนการยุติธรรมต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้น


 


แถลงการณ์ต่อกรณีเด็กนักเรียนบาดเจ็บจากการยิงรถโรงเรียน


ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้สันติวิธีต่อการต่อสู้กับความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้


           


จากเหตุการณ์ล่าสุดในเย็นวันนี้ที่กองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงถล่มชุดคุ้มครองรถนักเรียนโรงเรียนยาบีบรรณวิทย์ เหตุเกิดบนถนนสายท่ากูโบร์-ยาบี ม.๔ ต.บ้านท่ากูโบร์ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี  ทำให้ อส.ทพ.วิเชียร พรรณนา อายุ ๕๐ ปี และ อส.ทพ.นพดล ศรีสุขแก้ว อายุ ๓๐ ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ ๔๓ เสียชีวิต และได้ขโมยอาวุธปืนอาก้าจำนวน ๒ กระบอกก่อนหลบหนีไป นอกจากนี้ ยังพบนักเรียนถูกยิงบาดเจ็บอีก ๓ คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี ทราบชื่อ น.ส.อมรรัตน์ เหล็กเพชร อายุ ๑๖ ปี ชั้น ม.๔ ดญ.ทัศนีย์ เพชรสุริยา อายุ ๑๔ ปี ชั้น ม.๒ และดญ.นันทกร หนูพุม อายุ ๑๓ ปี ชั้น ม.๑ โรงเรียนยาบีบรรณวิทย์ มีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม ๑๖ ที่ขา ซึ่งแพทย์ได้รักษาจนปลอดภัยแล้ว จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนเอ็ม ๑๖ ประมาณ ๑๐ ปลอก


 


เป็นที่ทราบกันในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าขณะนี้การต่อสู้ระหว่างผู้ก่อความไม่สงบและเจ้าหน้าที่รัฐจะมุ่งเน้นไปที่ฝ่ายตรงข้ามอย่างเฉพาะเจาะจงเป้าหมาย โดยลดการใช้พลเมืองผู้บริสุทธิ์เป็นเหยื่อแห่งการต่อสู้ แต่เหตุการณ์ในเย็นวันนี้ยังเป็นเครื่องบ่งบอกว่าผู้บริสุทธิ์ยังคงตกเป็นเหยื่อแห่งความขัดแย้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


 


จะเห็นได้ว่าการต่อสู้กับความรุนแรงโดยใช้ความรุนแรงตอบโต้ ในที่สุดแล้วก็จะยังคงนำไปสู่การสูญเสียอย่างต่อเนื่อง มิใช่แต่เพียงกับทั้งคู่ของความขัดแย้งเท่านั้น คนบริสุทธิ์ก็ยังคงตกเป็นเหยื่อเช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเหยื่อเป็นเด็กหรือเยาวชน ก็จะยิ่งทำให้การต่อสู้เกิดความไม่ชอบธรรมยิ่งขึ้นไป ในที่สุดแล้วจะไม่มีใครได้รับชัยชนะในความขัดแย้งเลย และจะทิ้งไว้เพียงความล่มสลายของสังคมและความเจ็บปวดของผู้สูญเสียอย่างถ้วนหน้า


 


ดังนั้น ความรุนแรงจะยุติลงได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายหยุดใช้ความรุนแรง และหันมาใช้การเจรจาและกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้น  เครื่องชี้วัดประการหนึ่งของความก้าวหน้าในกระบวนการยุติธรรมต่อปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยไม่มีเลือกปฏิบัติว่าความรุนแรงนั้นจะกระทำโดยฝ่ายใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อความไม่สงบหรือกระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐเองก็ตาม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net