ฟอร์ตี้ฟายไรต์ออกแถลงการณ์ชี้การยุบพรรคก้าวไกลเป็นการลดทอนคุณสมบัติในการเข้าร่วมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ถ้ามีการยุบพรรคนานาชาติไม่ควรเลือกให้เข้ามาเป็น และไทยควรยกเลิกเอาผิดทางอาญาใน ม.112 ด้วย
เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.67) ฟอร์ตี้ฟายไรต์ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์คัดค้านต่อกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งของไทยยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคกรณีเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ฟอตี้ฟายไรต์ระบุว่าการกระทำดังกล่าวของ กกต.เป็นการดำเนินการทางการเมืองที่สุดโต่งขัดกับความพยายามและความต้องการของรัฐบาลไทยที่จะลงสมัครเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอย่างสิ้นเชิง
“หากทางการไทยไม่เปลี่ยนแนวทางจากการสั่งยุบพรรคก้าวไกล รัฐภาคีสหประชาชาติก็ไม่ควรเลือกประเทศไทยเป็นสมาชิกของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน” แมธทิว สมิธ (Matthew Smith) ประธานกรรมการบริหาร ฟอร์ตี้ฟายไรต์กล่าวและมองว่าการสั่งยุบพรรคการเมืองที่มีพื้นฐานด้านประชาธิปไตยที่เข้มแข็งอย่างพรรคก้าวไกลเป็นการบั่นทอนคุณสมบัติในการทำหน้าที่ใด ๆ ในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ ที่รัฐบาลไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกในวาระปี 2568-2670 เมื่อ 24 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา
ฟอตี้ฟายไรต์ยังระบุอีกว่าการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญของ กกต.ให้ยุบพรรคก้าวไกลยังเป็นเพราะการรณรงค์หาเสียงเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่รัฐภาคีสหประชาชาติและองค์กรสิทธิมนุษยชนเคยวิจารณ์ว่ารัฐบาลไทยใช้กฎหมายฉบับนี้เพื่อปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่องด้วย
ฟอร์ตี้ฟายไรต์มีข้อเรียกร้องถึงทางการไทยด้วยคือ ประเทศไทยควรยกเลิกการเอาผิดทางอาญากับความผิดฐานหมิ่นประมาททุกประเภททันที เพราะตามกฎหมายระหว่างประเทศ การจำคุกถือเป็นบทลงโทษที่ไม่ได้สัดส่วน เกินขอบเขต และไม่จำเป็นต่อความผิดฐานหมิ่นประมาท ยิ่งไปกว่านั้น โทษจำคุกต่อการหมิ่นประมาทยังสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนที่ต้องการใช้เสรีภาพในการแสดงออกด้วย
ฟอตี้ฟายไรต์ยังเห็นว่า ข้อเสนอให้แก้ไขกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ของพรรคก้าวไกล เป็นไปเพื่อทำให้กรอบกฎหมายในประเทศสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศของเสรีภาพในการแสดงออกมากขึ้น และเพื่อประกันไม่ให้มีการลงโทษอาญาจนเกินขอบเขต สำหรับความผิดฐานหมิ่นประมาททางอาญา ข้อเสนอดังกล่าวรวมถึงการลดโทษจำคุกสูงสุด รวมถึงกำหนดให้มีข้อยกเว้นบทลงโทษฐานหมิ่นประมาทองค์พระมหากษัตริย์ กรณีที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการวิจารณ์โดยสุจริตตามความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ โดยพรรคได้เน้นย้ำถึงพันธกิจที่จะแก้ปัญหาการนำกฎหมายไปใช้อย่างมิชอบ ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดแย้งต่อไปในอนาคต
“ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในไทยถึง 14.4 ล้านคน ได้โหวตสนับสนุนพรรคก้าวไกล ภายใต้กลไกของระบอบประชาธิปไตย” แมธทิว สมิธกล่าว “ความพยายามที่จะยุบพรรคการเมืองถือเป็นการดำเนินการที่มีจุดประสงค์ทางการเมือง ไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็ตาม ประเทศไทยต้องประกันว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งทำงานอย่างไม่ลำเอียง เพื่อนำมาซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคง และจะต้องคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกและการรวมกลุ่มโดยปราศจากการปราบปราม”
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)