Skip to main content
sharethis

'วทันยา' พ้อเสรีภาพไม่มีจริง ลงแชตหลุดมีคำสั่งบล็อกโหวตชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 'นิพิฏฐ์' คาดทิ้งพรรคตาม 'อภิสิทธิ์' ให้กำลังใจ "ดาวฤกษ์อยู่ไหนก็มีแสงสว่างในตัวเอง" - 'ชัยชนะ' ยินดีตรวจสอบไลน์หลุดล็อบบี้สกัด เหน็บคนลาออกรักพรรคจริงหรือไม่


วทันยา บุนนาค | ที่มาภาพเฟซบุ๊คเดียร์ วทันยา บุนนาค

มติชนออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2566 ว่ารายงานว่าวทันยา บุนนาค ได้โพสต์ผ่านแอพพลิเคชั่นเอ็กซ์ โดยรีทวิตข้อความของ พายุ เนื่องจำนงค์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่โพสต์ภาพแชทหลุด ไม่โหวตให้มาดามเดียร์ หากมีการงดเว้นคุณสมบัติที่ว่า “เพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน : เรื่องการยกเว้นข้อบังคับไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรและเคยมีบรรทัดฐานมาแล้วในการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งอื่นที่ผ่านๆ มาเพื่อเป็นแสดงสปิริตของความเป็น “ประชาธิปไตย” ภายในพรรคและไม่ปิดกั้นโอกาสใคร “ทางเทคนิค” ด้วยการใช้ระเบียบและข้อบังคับพรรคเป็นเครื่องมือ.. สำหรับการตั้งใจล็อบบี้โหวตไม่รับรองการเสนอชื่อ มาดามเดียร์ ในวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่ง indicator หล่ะครับ ว่า “ประชาธิปัตย์จะไม่เหมือนเดิม” จริงๆ ต่อไปนี้..”

ทั้งนี้ ก่อนการลงมติขอยกเว้นข้อบังคับพรรคให้กับ นางสาววทันยา บุนนาค ผู้ประกาศตัวลงสมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีขาดคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึง 5 ปี หรือไม่ได้เป็น ส.ส.ในนามพรรคมาก่อน ตามข้อบังคับพรรคที่ 31 (6) และข้อ 32 (1) เพื่อขอยกเว้นข้อบังคับพรรคต่อที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรค ซึ่งต้องใช้เสียงขององค์ประชุม 3 ใน 4 ถึงจะสามารถลงสมัครแข่งเป็นหัวหน้าพรรคได้ แต่ปรากฏว่า ผลการโหวตคะแนนของ นางสาววทันยาไม่ถึง 3 ใน 4 จึงทำให้ขาดคุณสมบัติไม่สามารถลงสมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพิฏฐ์' คาดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ตาม 'อภิสิทธิ์'

เว็บไซต์สยามรัฐ รายงานว่านายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า...

*ให้กำลังใจ “มาดามเดียร์”

-เมื่อวาน ( 9 ธ.ค.) ผมนำทีมทนายความเดินทางไปดูที่เกิดเหตุคดีหนึ่ง ตั้งแต่เช้า-เย็น ไม่ได้ติดตามข่าวการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กับเขาหรอก ตกค่ำๆ ก็ดูข่าวย้อนหลัง ก็เป็นไปตามที่ทราบกันแล้ว

-ผมเขียนข้อความนี้ เพื่อให้กำลังใจ“มาดามเดียร์”( น.ส.วทันยา บุนนาค ) ที่เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่ประชุมไม่โหวตให้เธอเข้าแข่งขัน

-ผมไม่รู้จักเธอ ต่อให้เดินสวนทางกันผมก็ไม่รู้จัก เพราะเธอเดินเข้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอนที่ผมเดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

-แต่ผมติดตามการให้สัมภาษณ์ของเธอหลายครั้ง ผมว่าน่าสนใจ เหมือนเธอเป็นคนเรียนรู้เร็ว และรู้ว่า“แก่น” ของพรรคประชาธิปัตย์จริงๆ อยู่ตรงไหน

-เธอจึงอาสาเป็นแสงสว่างนำพรรค เหมือน“ดาวเหนือ” ที่นำชาวเรือเดินเรือไปในทิศทางที่ถูกต้อง

-เสียดาย เธอมาผิดเวลา มาในขณะมีเมฆหมอกปิดปัง มาในขณะมีพายุรุนแรง ชาวเรือจึงมองไม่เห็นแสงแห่งดาวเหนือ อาจเป็นเพราะชาวเรือไม่รู้จักดาวเหนือ หรือมองดาวเหนือไม่เป็น ผมก็ไม่อาจรู้ได้

-ผมว่า เธอเป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงสว่างในตัวเอง มิใช่ดาวเคราะห์ที่อาศัยแสงสว่างจากดาวดวงอื่น

-จะเขียนต่อไปก็ไม่สมควร ผมไม่บังอาจวิจารณ์ใคร ยังปรารถนาให้พรรคประชาธิปัตย์ดำรงอยู่ต่อไป

-แต่ในฐานะประชาชนผมมีสิทธิให้กำลังใจเธอที่เสียสละตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง

-ผมทราบว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว สังหรณ์ใจว่า เมื่อชาวเรือมองไม่เห็นประโยชน์แห่งแสงสว่างจากดาวเหนือ เธอก็อาจเป็นเลือดอีกหยดหนึ่งที่จะไหลออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เป็นไร ดาวฤกษ์อยู่ไหนก็มีแสงสว่างในตัวเองครับ

‘ชัยชนะ’ ยินดีตรวจสอบไลน์หลุดล็อบบี้สกัด เหน็บคนลาออกรักพรรคจริงหรือไม่

มติชนออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2566 ว่าที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีไลน์กลุ่มประธานสาขาพรรคและตัวแทนสาขาพรรคที่เป็นโหวตเตอร์หลุดว่อนโซเชียล ไม่ให้ยกมือยกเว้นข้อบังคับให้น.ส.วทันยา บุนนาค ว่า ข้อเท็จจริง ส.ส.ของพรรคส่วนใหญ่และตนก็ยกมือให้ยกเว้นข้อบังคับให้มีการแข่งขัน และยินดีที่จะเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ ส่วนโหวตเตอร์ที่เป็นตัวแทนสาขาพรรคก็แล้วแต่ว่าเขาจะโหวตไปในทิศทางใด ส่วนกรณีดังกล่าวนั้น ต้องไปดูว่าผู้ที่กระทำนั้นเป็นใครหากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ร้องเรียนมา ยินดีที่จะตรวจสอบและพิจารณาให้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการล็อบบี้กันก่อนโหวตหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า สามารถมองกันได้แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากัน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นมาอย่างไร

เมื่อถามว่า ภายหลังได้หัวหน้าพรรค ปชป. คนใหม่แล้ว มีสมาชิกหลายคนเตรียมลาออก ถือว่าเป็นประสบการณ์เลือดไหลซ้ำหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ผู้ที่บอกว่ารัก ปชป.นั้น พรรคปชป.เป็นองค์กร มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสี่ปีต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ หากเรารักองค์กร ใครที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เราก็พร้อมที่จะทำงานให้ แต่หากใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วลาออก แปลว่าไม่ได้รักองค์กร เราต่อต้านผู้นำที่ขึ้นมา หากรัก ปชป. เราก็ต้องยืนอยู่กับพรรค ช่วยกันฟื้นฟูพรรค และ กก.บห.ชุดใหม่ไม่ดี ถึงเวลา 4 ปีก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตนเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะอยู่ ในการตัดสินใจเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า เป็นงานหนักของกก.บห.ชุดใหม่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนในฐานะ กก.บห.ชุดใหม่ พร้อมที่จะรับ ทุกเสียง ทุกปัญหา รวมถึงทุกคำวิจารณ์ คำแนะนำนำไปสู่การแก้ปัญหา เพื่อให้พรรคมีเอกภาพ และกลับมาเป็นพรรคหลักได้เหมือนเดิม พรรค ปชป.เดินทางเข้ามาสู่ปีที่ 78 เรามีทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุด สิ่งหนึ่งที่เราบอกว่ามีเจตนาดีต่อพรรค เราต้องช่วยกันแสดงความคิดเห็น ตนคิดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าหัวหน้า ปชป.คนใหม่ มาเพื่อแก้วิกฤต พวกเราขอร้องท่านมา ท่านก็รับฟังทุกปัญหา และได้แถลงชัดเจนว่า ปชป. รับฟังทุกเสียง เราไม่ใช่พรรคอะไหร่ และเราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ส่วนเรื่องของนโยบายพรรค ต้องยอมรับว่าการเมืองขณะนี้ การแข่งขันกันทางความคิด เราต้องพร้อมรับฟังปัญหาของประชาชน

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า “ต้องพูดคุยทุกคน เพราะทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ ไม่มีฝ่าย อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ วันนี้ลืมความหลัง และว่ากันในอนาคต ช่วยกันทำ ท่านหัวหน้าพรรคและพวกผมพร้อมคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน หลังจากนี้จะเดินหน้าไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ แล้วไปเชิญชวนสมาชิกพรรคที่เคยลาออกให้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เราต้องการ”

เมื่อถามว่านายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.ระยอง พรรค ปชป. ระบุว่าคนไม่มีสัจจะ จะไม่สามารถนำพรรคได้ในสถานการณ์เช่นนี้ นายชัยชนะกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของนายสาธิตที่มีสิทธิ์ที่จะพูดว่ากล่าวได้ ซึ่งเราก็ยอมรับในคำพูดของทุกคน และตนคงไม่ไปโต้เถียงใคร วันนี้ไม่ใช่เวลาโต้เถียง เป็นเวลาที่เริ่มต้นการทำงานที่จะฟื้นฟูพรรค ส่วนใครจะติชมหรือตำหนิอย่างไรเราก็พร้อมรับฟัง เราฟังได้ อดทนได้ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือคำพูดคือ ผลการเลือกตั้งข้างหน้าว่า กก.บห. จะนำพาให้ได้ที่นั่งมากกว่าเดิมหรือไม่

เมื่อถามว่า หากสมาชิกพรรคหลายคนต่อต้าน จะนำไป สถานการณ์พรรคแตกหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ”ใครต่อต้านครับ สมาชิกทั้ง 25 คนที่มีอยู่ตอนนี้ เสียง 23 คนรับได้ ส่วนตัวแทนสาขาพรรค เสียงส่วนใหญ่ก็เลือกมา แล้วคนที่ลาออกรักพรรคหรือรักตัวเอง หากรักพรรคต้องสามารถทำงานได้กับทุกคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ทั้งนี้ หากเมื่อวานนี้ (9 ธันวาคม) หากท่านเฉลิมชัยไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ผมก็พร้อมทำงานให้พรรคและไม่ลาออก แต่หากผมลาออกถือว่าผมรักตัวเอง“

เมื่อถามว่า พร้อมที่จะทำงานเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าพร้อมจะพลิกขั้วไปร่วมรัฐบาล เพราะในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาเคยมีการยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัยชนะ กล่าวว่า การโหวตเรื่องนายกรัฐมนตรี ตนพูดชัดเจนว่า เป็นการหาทางออกให้ประเทศและเราเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้บอกว่าโหวตเพื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งตนเป็นหนึ่งใน 16 คนที่โหวตให้นายเศรษฐา และหลังจากวันโหวตนายกรัฐมนตรี ต้องดูว่าตน ทำงานตรวจสอบและออกไปอภิปรายนายเศรษฐาหรือไม่ ขณะนี้เราก็เป็นฝ่ายค้านอยู่

“ส่วนที่มีข่าวว่าจะไปร่วมรัฐบาลนั้น นั่นคือใครพูดครับ มีจุดประสงค์ดีกับพรรคหรือไม่ ที่มาพูดเช่นนี้ พรุ่งนี้ตื่นมาจะหายใจหรือไม่ยังไม่รู้เลย ว่าจะร่วมอย่าไปคาดหวังอนาคตว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะนั่นเป็นเรื่องของอนาคต แต่นาทีนี้ เราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำให้ดีที่สุด” นายชัยชนะ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net