Skip to main content
sharethis

ย้อนดูปี 62 รัฐบาลประยุทธ์ ไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ต่อสภาฯ ส.ส.ยุทธพงศ์ อัดกลางสภาฯ ขณะที่ 'สมพงษ์' ผู้นำฝ่ายค้านขณะนั้นเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ ม. 162 ที่บัญญัติไว้ว่า "จะต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่นำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย" แถมร้องต่อ ป.ป.ช. เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ เหตุขัดต่อกฎหมาย

ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนคณะรัฐมนตรีจะเข้าทำงานบริหารราชการแผ่นดินอย่างเป็นทางการ ที่ห้องประชุมสำนักงาน TOT มีการประชุม 25 ก.ค. 2562

จากกรณี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในสภาและนอกสภาว่าไม่มีการชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบายที่ชัดเจน ทั้งที่รัฐธรรมนูญ ม.162 ระบุให้ชี้แจงในการแถลงนโยบายดังกล่าว

โดย เศรษฐา ระบุเพียงคร่าวๆ ว่า การบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินนโยบายนั้น ให้ความสำคัญกับกรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างเคร่งครัด โดยพิจารณาใช้จ่ายจากแหล่งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณทั้งในส่วนของเงินกู้และการให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งพิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายเพื่อลดภาระการลงทุนจากงบประมาณแผ่นดินและการกู้เงิน

ประเด็นที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบายนั้น หากย้อนไปเมื่อวันแถลงนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 26 ก.ค.2562 ยุทธพงศ์​ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงนโยบายของรัฐบาล โดยระบุว่านโยบายที่นำมาแถลงไม่มีการระบุตัวเลขแหล่งที่มาของรายได้เป็นรายลักษณ์อักษรตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ชี้แจงให้ชัด หากจะแถลงด้วยวาจาก็จะต้องมีเอกสารส่งมาให้รัฐสภาภายใน 3 วันนั้น ทั้งนี้ เห็นว่าตลอดการบริหารราชการของนายกรัฐมนตรี 4 ปีเศษ มีแต่ขาดดุล ต้องกู้เงินมา 2 ล้านล้านบาท หากนายกรัฐมนตรีมาดำรงตำแหน่งครบวาระอีก 4 ปีจะต้องกู้เงินถึง 5 ล้านล้านบาทหรือไม่ และที่บอกว่าประชาชนรวยขึ้น รวยด้วยการเป็นหนี้หรือไม่ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลกู้เงินมาโกงหรือไม่ ดังนั้น บอกว่ามีนโยบายปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในงวดราชการ ตนจึงไม่เชื่อ เพราะนายกรัฐมนตรียังเป็นคนเดิม ไม่ได้ปราบปรามทุจริตอย่างจริงจัง (ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์)

เปิดอภิปราย ปมไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ 'สมพงษ์' ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ

16 ส.ค. 2562 ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ต่อนายกรัฐมนตรี ใน 2 ประเด็น คือ การถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนของ ครม. ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และประเด็นการแสดงแหล่งที่มาของรายได้ในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาไม่ชัดเจน

ต่อมา 18 ก.ย.2562 สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับคณะจำนวน 205 คน เป็นผู้เสนอ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ โดยการอภิปรายทั่วไป โดยครั้งนั้น นอกจากประเด็นถวายสัตย์ปฏิญานก่อนเข้ารับหน้าที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่ ยังมีประเด็นสำคัญคือ การจัดทำงบประมาณในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาที่ไม่มีการแสดงแหล่งที่มาของรายได้ โดยเน้นไปที่การขัดรัฐธรรมนูญ ม. 162 ที่บัญญัติไว้ว่า "จะต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่นำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย" 

ซึ่งในการอภิปรายดังกล่าวของผู้นำฝ่ายค้าน ยืนยันว่า การกระทำของนายกฯ ไม่ปฏิบัติตาม รธน.มาตรา 162 ซึ่งส่งผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน งบประมาณต่างๆ ของรัฐบาลอีกด้วย

สมพงษ์ ยังกล่าวตอนนั้นอีกว่า เห็นว่าคำแถลงนโยบายดังกล่าว ฝ่ายค้านมีการคัดค้านไปแล้วแต่คณะครม.ก็เพิกเฉยไม่ปฏิบัติแต่อย่างไร ปัญหาอยู่ที่ว่า นายกฯ จะหาเงินนั้นมาใช้เป็นงบประมาณได้อย่างไร เมื่อพิจารณาพฤติกรรมของนายกฯ ที่กระทำอย่างต่อเนื่อง ตนพบว่า ท่วงทำนองที่ท่านนายกฯ ได้กระทำมา ขัดรัฐธรรมนูญโดยตลอด สิ่งที่นายกฯไม่ได้กระทำตามรัฐธรรมนูญอาทิ นำครม.ทั้งคณะกล่าวปฏิญาณไม่ครบถ้วน แถลงต่อสภา ไม่แจงที่มาของเงินงบประมาณแผ่นดินที่จะใช้ (ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์ และไทยรัฐออนไลน์)

"การที่แถลงนโยบายโดยไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ ที่จะนำมาใช้ในการดำเนินนโยบายแต่ละเรื่อง เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ การแถลงนโยบายดังกล่าว จึงมีปัญหาความชอบธรรมด้วยรัฐธรรมนูญ และใช้บังคับมิได้ ซึ่งมีผลเท่ากับว่า "รัฐบาลยังมิได้มีการแถลงนโยบาย จึงไม่อาจเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้" สมพงษ์ อภิปราย

ขณะที่การอภิปรายถึงร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สมพงษ์ ยังย้ำด้วยว่า การแถลงนโยบายที่ไม่ได้อธิบาย ถึงแหล่งที่มาของงบประมาณ (ที่มา แนวหน้า)

นอกจากนี้ในการอภิปรายทั่วไปวันที่ 18 ก.ย. 62 สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย จิราพร สินธุไพร กล่าวด้วยว่า ตนขอขีดเส้นใต้เน้นๆที่คำว่า ต้องชี้แจงที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินการของนโยบาย และ เอกสารคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ตนได้อ่านอย่างถี่ถ้วนก็ไม่ปรากฏว่ามีการระบุถึงงบประมาณและที่มาของงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินนโยบาย

"ดิฉันเชื่อว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้ข้อกฎหมายเป็นอย่างดี เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นผลผลิตภายใต้รัฐบาลของท่าน และดิฉันไม่เชื่อว่า คณะรัฐมนตรีทั้งคณะจะไม่ทราบว่าการแถลงนโยบายต้องระบุที่มา แจกแจงรายได้ และที่สำคัญรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ตอกย้ำอยู่เสมอว่าต้องปฏิบัติตามกรอบรัฐธรรมนูญจะละเลยไม่ได้" จิราพร อภิปราย

ประเด็นนี้ 20 ม.ค.2563 ในการประชุมวิปฝ่ายค้าน โดยมีตัวแทนทั้ง 7 พรรคฝ่ายค้านเข้าร่วมประชุม โดยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงว่า หัวหน้า 7 พรรคฝ่ายค้าน รวบรวมรายชื่อส.ส. เพื่อยื่นดำเนินการ 3 เรื่อง เอาผิดกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดย 1 ในนั้นคือกรณีแถลงนโยบายไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย ซึ่งขัดต่อกฎหมาย โดยจะร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการสอบสวนตามกฎหมายต่อไป  (ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net