Skip to main content
sharethis

ทางการจีนเพิ่งจะแต่งตั้ง "หวังอี้" ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแทน "ฉินกัง" รมต. ต่างประเทศคนเดิมหลังจากที่เขาไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตแตกต่างกันไปว่าอะไรทำให้ฉินกังหลบหน้าหายไป เป็นเพราะเรื่องอื้อฉาวกับผู้ประกาศข่าว หรืออาจจะเป็นเรื่องการต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในรัฐบาล แล้วทิศทางการต่างประเทศของจีนจะเปลี่ยนไปหรือไม่


ฉินกัง อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน

คณะกรรมการระดับสูงของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพิ่งจะสั่งปลดรัฐมนตรีต่างประเทศ ฉินกัง ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาหายตัวไปจากสายตาสาธารณชนเป็นเวลาราว 4 สัปดาห์แล้ว และแต่งตั้ง หวังอี้ ผู้ที่เคยทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศมาก่อนกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้หวังอี้ เคยได้รับการเลื่อนขั้นให้กลายเป็นสมาชิก คณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือ โปลิตบูโร หลังจากที่สีจิ้นผิงดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคและประธานาธิบดีจีนแบบอยู่ยาวต่อในสมัยที่ 3 ทั้งนี้หวังอี้ยังเคยได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการคณะกรรมการกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเพิ่งจะได้ไปประชุมกับกลุ่มประเทศ BRICS (บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้) เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมาด้วย

ส่วน ฉินกัง นั้นถึงแม้ว่าจะถูกถอดถอนจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศแต่ก็มีโอกาสที่เขาจะยังคงดำรงตำแหน่งคณะมนตรีรัฐกิจจีนต่อไป โดยที่ฉินกังนั้นเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในทูตคนแรกๆ ที่ใช้วิธีการแบบ "นักรบหมาป่า" ที่ทำการปกป้องจีนแบบชาตินิยมจัดด้วยความดุดันในเวทีโลก

เรื่องนี้ถูกจับตามองและตั้งข้อสงสัยจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งกับ ฉินกัง และกับการเมืองจีนในตอนนี้ ซึ่งมันได้สะท้อนให้เห็นการเมืองที่ขาดความโปร่งใสของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเนื่องจากมันไม่โปร่งใสผู้คนจึงได้แต่คาดเดาว่าสาเหตุที่ ฉินกัง หายไปจากหน้าสื่อและถูกปลดในที่สุดนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่

รัฐบาลจีนบอกฉินกัง หายหน้าไปเพราะเรื่องสุขภาพ

ทางการจีนมีชุดคำอธิบายในเรื่องที่ฉินกังหายหน้าไปว่าเป็นเพราะ "เหตุผลเรื่องสุขภาพ" และหลังจากที่สื่อถามว่าฉินหายตัวไปไหน ทางการจีนก็ขอร้องให้สื่อ "คอยดูต่อไป" ผู้คนไม่ค่อยเชื่อชุดคำอธิบายนี้เท่าไหร่นัก ส่วนหนึ่งเพราะทางการจีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอะไรมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าฉินกังจะหายไปหลายสัปดาห์แล้ว ถ้าหากเขาหายไปมากกว่า 3 สัปดาห์เพราะลาป่วยก็น่าจะต้องมีคำอธิบายอะไรสักอย่าง

นอกจากนี้แล้วเมื่อมีการถามถึงฉินกัง โฆษกการต่างประเทศของจีนก็ไม่สามารถปิดซ่อนความอับอายเอาไว้ได้ นอกจากนี้ในสรุปข้อมูลการประชุมแถลงข่าวของทางการจีนยังมีการลบส่วนที่เป็นการตอบข้อซักถามกับนักข่าวเกี่ยวกับฉินกังออกไป แต่หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นเพื่อนักข่าวถามถึงฉินกัง โฆษกการต่างประเทศของจีนอีกคนหนึ่งกลับบอกให้ไปดูในหน้าเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของจีน

ความสัมพันธ์ฉาวกับนักข่าวหญิง?

มีการตั้งข้อสังเกตจากสื่อต่างประเทศว่า ฉินกัง หายตัวไปจากสายตาผู้คนหลังจากที่ข่าวลือเรื่องอื้อฉาวระหว่างเขากับผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงที่ชื่อ ฟูเสี่ยวเทียน แพร่กระจายไปในโลกออนไลน์

ฟูเสี่ยวเทียน เป็นผู้ประกาศข่าวช่องฟินิกซ์ทีวีของจีน ชาวเน็ตจีนพากันตั้งสมมติฐานนี้จากข้อความทวีตของฟูในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ที่มีรูปของตอนที่เธอสัมภาษณ์ฉินกัง และรูปของลูกเธอที่ไม่เคยเปิดเผยว่าใครเป็นพ่อประกอบโพสต์นั้นด้วย แล้วหลังจากนั้นฟูก็หายตัวไปจากหน้าโซเชียลมีเดีย

ที่น่าสังเกตคือในประเทศจีนที่มักจะมีการเซนเซอร์อินเทอร์เน็ตในประเด็นอ่อนไหวทางสังคมและการเมือง แต่กลับไม่มีการเซนเซอร์ข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ชู้สาวระหว่างฟูกับฉินในพื้นที่โซเชียลมีเดียจีนอย่างเว่ยปั๋ว มีภาพแคปการสัมภาษณ์ฉินกังกระจายไปทั่วโลกโซเชียลจีน และมีเนื้อหาขุดคุ้ยลงไปถึงชีวิตส่วนตัวของฟูรวมถึงเรื่องที่ว่าทำไมเธอถึงมีเงินมากพอที่จะบริจาคให้กับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และสามารถสร้างสวน เสี่ยวเทียน ฟู ที่มหาวิทยาลัยได้ทั้งที่เธอยังมีอายุอยู่ในช่วงวัย 30

หรืออาจจะเป็นเพราะการถูกสอบเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น?

ข้อกล่าวหาเรื่องชู้สาวนำไปสู่อีกข้อกล่าวหาหนึ่งคือเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น จากการที่ฟูซึ่งถูกมองว่ามีความสัมพันธ์กับฉินมีความร่ำรวยผิดปกติ มีกระแสในโซเชียลจีนที่กล่าวหาว่าฟูมีสายสัมพันธ์กับอดีตเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตคอร์รัปชั่นในพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเศรษฐีด้านพลังงานของตีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นภาคส่วนที่สำคัญและอ่อนไหวทางการเมืองจีน

ในตอนที่มีคำถามว่าฉินกำลังถูกสืบสวนในเรื่องที่เขามีความเกี่ยวข้องกับฟูใช่หรือไม่นั้น เหมา หนิง โฆษกการต่างประเทศของจีนไม่ได้ปฏิเสธแต่บอกเพียงว่าเธอไม่มีรายละเอียดมากพอเกี่ยวกับสถานการณ์นี้

การต่อสู้ช่วงชิงอำนาจ?

มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้คนลือกันก็คือ เป็นไปได้หรือไม่ที่การหายไปจากหน้าสื่อของฉินกังจะเป็นเพราะการช่วงชิงอำนาจกันในหมู่พรรคคอมมิวนิสต์จีน สีจิ้นผิงเป็นผู้เลือกฉินกังกับมือตัวเองให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ การแสดงออกทางสัญลักษณ์อย่างแรกของสีจิ้นผิงตอนที่เขาเริ่มดำรงตำแหน่งผู้นำเป็นสมัยที่ 3 คือการโยกย้ายตำแหน่งในกระทรวงการต่างประเทศ

มีอีกคนหนึ่งที่กลายเป็นที่พูดถึงกันในการโยกย้ายของสีจิ้นผิง คือกรณีการถอดถอน จ้าวลี่เจียน ออกจากตำแหน่งในกระทรวงต่างประเทศ โดยที่จ้าวลี่เจียนเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักทูตสาย "นักรบหมาป่า" จอมแข็งกร้าวอีกคนหนึ่งที่มักจะไปหาเรื่องโต้แย้งนักข่าวในทวิตเตอร์ เขาถูกสั่งย้ายจากโฆษกการต่างประเทศของจีนไปเป็น รองอธิบดีกรมแนวอาณาเขตและกิจการมหาสมุทรจีน แทน

การที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งสายหัวแข็งด้านการทูตอย่าง หวังอี้ มาแทนฉินกันนั้น ทำให้นักเขียนจีนพลัดถิ่นที่เป็นผู้สังเกตการณ์การเมืองจีนอย่าง หูปิง มองว่าการที่ฉินหายไปจากหน้าสื่อน่าเป็นผลมาจากการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจทางการเมืองภายในกระทรวงการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์ก็เป็นได้

หูปิงตั้งข้อสังเกตว่าแม้กระทั่งเรื่องอื้อฉาวที่แพร่ไปในโลกออนไลน์ก็ไม่ได้มาจากนักข่าวต่างประเทศหรือประชาชนทั่วไป ทำให้เป็นไปได้ว่าใครก็ตามที่ทำให้ข้อมูลนี้รั่วไหลคือคนที่ไม่พอใจกับการกระทำของสีจิ้นผิง ตัวสีจิ้นผิงเองก็อยู่บนทางสองแพร่ง ทำให้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเขาก็คืนตำแหน่งให้ฉินกังไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่มีการจัดการอะไรกับฉินกัง ถ้าหากสีจิ้นผิงปกป้องฉินกังได้มันก็จะไม่มีการแพร่กระจายข่าวลือพวกนี้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก ซึ่งข่าวลือนี้ทำให้ฉินกังต้องหายหน้าไปจากตำแหน่งการต่างประเทศที่ต้องออกหน้าสื่อ แล้วสีจิ้นผิงก็ไม่ชอบใจกับเรื่องนี้

สื่อโกลบอลวอยซ์ตั้งข้อสังเกตว่ากรณีของฉินกังนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงการไร้ความโปร่งใสของการเมืองจีน สไตล์การจัดการวิกฤตของของสีจิ้นผิงมีลักษณะคล้ายกับของเหมาเจ๋อตุง คือการไม่ยอมให้มีความโปร่งใสใดๆ และพยายามกลบเกลื่อนว่าไม่ได้มีต่อสู้ช่วงชิงอำนาจภายในเกิดขึ้น

นักวิเคราะห์จีนมองเรื่องนี้อย่างไร

นักวิเคราะห์จีนก็ดูเหมือนจะมองไปในทางเดียวกันว่ากรณีการเปลี่ยนตัวรมต.กระทรวงการต่างประเทศของจีนในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นความวุ่นวายภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน

อู่เฉียง นักวิชาการอิสระในจีนกล่าวว่าเรื่องนี้นับเป็นการจบชีวิตทางการเมืองของฉินกัง และหวังอี้น่าจะเป็นคนทำหน้าที่เปลี่ยนผ่านทางบทบาทหน้าที่รัฐมนตรีท่ามกลางวิกฤตระบบการทูตจีนที่กำลังคุกรุ่น

เอียน ชอง ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการต่างประเทศของจีนจากกหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) กล่าวว่าการที่จีนไม่เปิดเผยความจริงว่ามีการถอดถอนฉินกังออกจากตำแหน่งด้วยสาเหตุใดนั้น เป็นสิ่งที่จะทำให้คนมองจีนว่าปราศจากกระบวนการยุติธรรม มีความไม่แน่นอน และกระทำสิ่งต่างๆ โดยพลการ

นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งคือ อัลเฟรด วู ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจีนจาก NUS ระบุถึงปัญหาที่มาตั้งแต่การแต่งตั้งฉินกังแล้ว โดยบอกว่าการที่ฉินกังเคยได้เลื่อนตำแหน่งเร็วมากก่อนหน้านี้สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการเมืองแบบตัวบุคคลคนเดียวของสีจิ้นผิงที่อาศัยการแต่งตั้งเป็นการส่วนตัวแแทนที่จะผ่านระบบการพิจารณาจากภายในรัฐบาล ซึ่งการแต่งตั้งแบบนี้ทำลายการถ่วงดุลอำนาจแบบที่เคยมีอยู่ในพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ทั้งนี้นักวิเคราะห์ทั้งวู และ ชอง ต่างก็มองว่า ทางการจีนกำลังพยายามควบคุมความเสียหายจากฉินกังในเรื่องการปฏิสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ และตั้งหวังอี้ขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความไม่แน่นอนมากกว่านี้

เหวินตี้ ซ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจีนจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียมองว่าการให้หวังอี้มาดำรงตำแหน่งในช่วงเปลี่ยนผ่านอาจจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการที่จีนจะเชื่อมสัมพันธ์กับนานาชาติเพราะความคาดเดาไม่ได้กับความไม่โปร่งใสจะกระทบต่อการสร้างความเชื่อมั่นกับนานาชาติ

อย่างไรก็ตามอู่มองว่าความเปลี่ยนแปลงของระบบการทูตจีนหลังจากถอดถอนฉินกังจะไม่ทำให้ทิศทางนโยบายการต่างประเทศของจีนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะตำแหน่งรัฐมนตรีการต่างประเทศของจีนมีไว้เพื่อปฏิบัติตามไม่ใช่เพื่อตัดสินใจเรื่องนโยบายต่างประเทศของจีน


เรียบเรียงจาก
Xi sacks China’s missing foreign minister after video leaks, reappoints Wang Yi, The Hindustan Times, 25-07-2023
Speculations about China’s Foreign Minister Qin Gang disappearance from the public eye include alleged affair and power struggle, Global Voices, 22-07-2023
China Analysts Say Dismissal of Foreign Minister Reflects Internal Turmoil, Voice of America, 25-07-2023

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net