Skip to main content
sharethis

‘พิธา’ ชี้ ค่ามือถือ-เน็ตบ้านเสี่ยงแพงขึ้น จากบรรทัดฐานที่เลวร้ายของ กสทช. เผย 'ก้าวไกล' เป็นรัฐบาล พร้อมยกเครื่องกฎหมายต่อต้านผูกขาด ปิดช่องโหว่ กสทช. ปฏิเสธอำนาจตัวเอง เปลี่ยน ‘รัฐบาลเกรงใจกลุ่มทุน’ เป็น ‘รัฐบาลเกรงใจประชาชน’

 

21 เม.ย. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกลรายงานต่อสื่อมวลชว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เห็นชอบหลักการกรณี AIS เข้าซื้อหุ้น JAS และ 3BB ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ TRUE-DTAC ว่า ในข่าวไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดมากนัก ยิ่งทำให้ประชาชนเป็นกังวลว่า ‘หลักการ’ ทิศทางเดียวกับ TRUE-DTAC หมายความว่า กสทช.จะยอมให้ควบรวมแบบไม่ต้องขออนุญาตเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะ กสทช. ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายว่าการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม มีช่องโหว่ให้สามารถรวมกันได้ โดยไม่มีหน่วยงานใดในประเทศนี้สามารถยับยั้งได้ และกำลังจะใช้บรรทัดฐานนี้กับการควบรวมครั้งใหม่ของ AIS และ 3BB หรือไม่

พิธากล่าวว่า การควบรวมครั้งใหม่นี้จะส่งผลต่อค่าอินเทอร์เน็ตบ้านอย่างไร อธิบายง่ายๆ ก็คือการที่บริษัท AIS ที่ขาหนึ่งทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน จะเข้าซื้อบริษัท 3BB ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้านอีกราย ทำให้ AIS จะกลายเป็นบริษัทที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านเป็นอันดับหนึ่งของประเทศจนอาจมีอำนาจเหนือตลาด ซึ่งในระยะยาวจะลดการแข่งขันลงและทำให้ค่าเน็ตบ้านที่ประชาชนต้องจ่ายแพงขึ้น

อธิบายให้ละเอียดกว่านั้น คือในขณะนี้ตลาดของอินเทอร์เน็ตบ้าน มีผู้แข่งขันอยู่ 4 ราย ได้แก่ TRUE ครอบครองส่วนแบ่งตลาด 36 เปอร์เซ็นต์, 3BB ครองส่วนแบ่งตลาด 28 เปอร์เซ็นต์, NT (TOT เดิม) ครองส่วนแบ่งตลาด 20 เปอร์เซ็นต์ และ AIS ครองส่วนแบ่งตลาด 13 เปอร์เซ็นต์ การที่ AIS จะเข้าซื้อ 3BB จะทำให้ AIS+3BB ครองส่วนแบ่งตลาด 41 เปอร์เซ็นต์ มากเป็นอันดับหนึ่ง แทนที่ TRUE ถ้าเรายังจำกันได้ ก่อนที่จะมี AIS Fiber และมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้านแค่ 3 ราย ค่าบริการสูงกว่าในปัจจุบัน และคุณภาพการให้บริการก็แย่กว่าในปัจจุบัน

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พิธากล่าวต่อว่า เราคงต้องจับตากันว่ากรณีนี้ กสทช. จะมีมติออกมาเร็วๆ นี้หรือไม่ แต่หลังเลือกตั้งหากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะต้องมีการยกเครื่องกฎหมายต่อต้านการผูกขาดใหม่ทั้งหมด ให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อปิดช่องโหว่ที่ กสทช.จะปฏิเสธอำนาจตัวเอง แล้วปล่อยปละละเลยหน้าที่การกำกับดูแลของตัวเอง ให้เกิดการควบรวมที่จะลดการแข่งขัน สร้างภาระค่าครองชีพให้ประชาชนด้วยราคาสินค้าค่าบริการที่แพงขึ้น

เราต้องยืนยันว่าโอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โอกาสในการเข้าถึงเครือข่ายมือถือที่คุณภาพดีและราคาสมเหตุสมผล คือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียม การปล่อยให้ธุรกิจโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเหล่านี้มีแนวโน้มกระจุกตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเป็นผลเสียกับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชน และเป็นผลเสียกับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผมหวังอย่างยิ่งว่า กสทช. จะปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ให้ประชาชนกังขาอีก

“สุดท้าย ผมอยากบอกทุกท่านว่า ประเทศนี้เต็มไปด้วยหน่วยงาน ผู้บริหาร และผู้นำประเทศ ที่ไม่ได้ตัดสินใจบนผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ แต่กลับตัดสินใจบริหารประเทศบนความเกรงอกเกรงใจกลุ่มทุนใหญ่ ดังนั้น สิ่งที่ก้าวไกลทำคือการเปลี่ยนจาก ‘รัฐบาลเกรงใจกลุ่มทุน’ มาเป็น ‘รัฐบาลเกรงใจประชาชน’” พิธากล่าว

หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวย้ำว่า วันที่ 14 พฤษภาคมนี้เลือกพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย ให้พวกเราเข้าไปแก้กฎหมายแข่งขันทางการค้าให้เป็นธรรม และให้เราเข้าไปสร้างสวัสดิการอินเทอร์เน็ตฟรีให้คนไทยทุกคนเดือนละ 1 GB เพื่อเป็นต้นทุนให้ประชาชนดำรงชีวิต ประกอบธุรกิจ เพื่อให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันกับนานาชาติ

เลือกพรรคก้าวไกลให้ถล่มทลาย ให้พวกเราเข้าไปแก้ไขสัญญาโรงไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรม ที่ทำค่าไฟประชาชนแพงเกินความจริง ให้พวกเราเข้าไปแก้ไขความบิดเบี้ยวของการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ก้าวไกลสามารถเข้าไปจัดการ เพื่อเปลี่ยนค่าไฟแพง เป็นค่าไฟแฟร์ ลดค่าไฟได้ 70 สตางค์/หน่วย และเปลี่ยนจาก ‘รัฐบาลเกรงใจกลุ่มทุน’ มาเป็น ‘รัฐบาลเกรงใจประชาชน’

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net