Skip to main content
sharethis

ทางการสหราชอาณาจักรประกาศยกเลิกภาษีผ้าอนามัย นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความยากจนจากประจำเดือน และหนึ่งในสาเหตุที่สามารถทำเรื่องนี้ได้คือการที่อังกฤษออกจากสมาชิกภาพยุโรป ทำให้ไม่ต้องทำตามกฎของอียูที่ระบุให้มีภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคลอีกต่อไป

เว็บไซต์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักรอังกฤษประกาศเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาว่าพวกเขายกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัย จากเดิมที่พวกเขามีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับผ้าอนามัยอยู่ที่ร้อยละ 5 ซึ่งจะทำให้ผ้าอนามัยถูกลง

ทางการอังกฤษระบุว่าแผนการยกเลิกภาษีนี้เป้นส่วนหนึ่งของการพยายามแก้ไขปัญหาความยากจนจากการมีประจำเดือน โดยการทำให้ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคลเหล่านี้ทำให้ผู้มีประจำเดือนสามารถเข้าถึงได้ แผนการอื่นๆ คือการทำให้เยาวชนในโรงเรียนรัฐบาลของอังกฤษทุกโรงเรียนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัยได้ ซึ่งมีมาตั้งแต่ในปี 2563 และขยายมาถึงปี 2564 มีการแจกจ่ายผ้าอนามัยให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลมาตั้งแต่ปี 2562 รวมถึงมีกองทุนภาษีผ้าอนามัย ซึ่งตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 มีการอาศัยเงินทุนจากภาษีมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์เหล่านี้นำมาช่วยเหลือผู้มีประจำเดือนที่ขาดโอกาสและถูกกีดกัน

หนึ่งในสาเหตุที่สามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้เพราะนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 สหราชอาณาจักรได้ออกจากสมาชิกภาพสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการทำให้พวกเขาไม่มีข้อผูกมัดกับกฎหมายของอียูที่กำหนดให้ต้องมีภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 5 สำหรับผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคลอีกต่อไป


เฟลิเซีย วิลโลว์ ประธานบริหารขององค์กรสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศฟาวเซตต์โซไซตีกล่าวว่า พวกเขายินดีที่มีการยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่มกับผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัย และขอชมรัฐบาลที่มีความก้าวหน้าในทางบวกกับเรื่องนี้ วิลโลว์ กล่าวว่ามันเป็นระยะทางที่ยาวไกลมากกว่าจะมาถึงตรงจุดนี้ ภาษีผ้าอนามัยถือเป็นแนวคิดแบบเหยียดเพศที่มองผลิตภัณฑ์อนามัยประจำเดือนเป็น "ของไม่จำเป็น" เป็น "ของฟุ่มเฟือย" แนวคิดแบบล้าสมัยนี้ควรที่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์เก่าเก็บไปได้แล้ว

ในเดือน พ.ย. 2563 สก็อตแลนด์เป็นประเทศแรกที่อนุญาตให้มีการเข้าถึงผ้าอนามัยได้ฟรีไม่ว่าจะชนิดแผ่นหรือชนิดสอด ขณะที่ในโลกของเรามีไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่กำหนดให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าปลอดภาษีมาก่อนอังกฤษ ตัวอย่างประเทศเหล่านี้ได้แก่ อินเดีย, ออสเตรเลีย, เคนยา, แคนาดา และประเทศสหรัฐฯ หลายประเทศ ขณะที่เยอรมนีมีการลงมติให้ลดภาษีผ้าอนามัยและกำหนดให้เป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย

เรียบเรียงจาก :

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net