ทุกปีในช่วงสิ้นเดือน มี.ค. กองทัพจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวให้ประชาชนทราบว่า ในปีนั้นๆ กองทัพมีความต้องการทหารจำนวนเท่าไร เมื่อเห็นตัวเลขแล้ว คำถามที่ตามจากสังคมคือ เหตุใดกันจำนวนความต้องการทหารจึงสูงถึงแสนนาย ปีนี้การเกณฑ์ทหารยังมีอยู่ แต่กองทัพไม่ตั้งโต๊ะแถลงข่าว และไม่เปิดจำนวนความต้องการทหารที่ต้องการ
ย่างเข้าสู่วันที่ 3 (3 เม.ย. 2562) ของการตรวจคัดเลือกทหารกองประจำการ ภาพบรรยากาศในการเกณฑ์ทหารที่จัดขึ้นทั่วประเทศยังคงเป็นเหมือนเดิมวนเวียนไปทุกปี เสียงโห่ร้องดีใจจากใบดำ ความเงียบและน้ำตาจากใบแดง ยังผสมผสานกันไป ภาพคนดัง และคนสวยก็ยังปรากฎในสื่อต่างๆ ให้เห็นเช่นเดิม สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับคำถามเดิมๆ ที่มีอยู่ในสังคมไทย “ประเทศเรายังจำเป็นต้องบังคับให้คนไปเป็นทหารเกณฑ์อยู่หรือไม่?”
แต่มีหนึ่งสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมคือ ปีนี้กองทัพไม่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรื่องการเกณฑ์ทหาร และมากไปกว่านั้นไม่มีแม้กระทั่งการชี้แจงจำนวนความต้องการทหารเกณฑ์ที่ต้องการ ขณะการเกณฑ์ทหารยังดำเนินไปตามปกติ ในสถานการณ์การเมืองที่ครุกรุ่น ทั้งเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง การคิดคำนวณที่นั่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และความเคลื่อนไหวของนักศึกษาหลายสถาบันที่กำลังล่ารายชื่อยื่นถอดถอน กกต. ท่ามกลางปรากฎการณ์นี้ พรรคการเมืองอย่างน้อย 3 พรรคในกลุ่ม 6+1 พรรคการเมืองที่ลงสัตยาบันแลงคาสเตอร์เคยประกาศนโยบายอย่างชัดเจนว่า หากเป็นรัฐบาลจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนมาใช้ระบบสมัครใจแทน
โดยปกติย้อนหลังไปอย่างน้อย 3 ปีเมื่อถึงช่วงสิ้นเดือน มี.ค. กองทัพจัดตั้งโต๊ะแถลงข่าวให้ทราบว่าในปีนั้นๆ มีความต้องการทหารเกณฑ์ทหารหมดเท่าไร ในปี 2561 มีการแถลงข่าววันที่ 22 มี.ค. ในปี 2560 มีการแถลงข่าววันที่ 29 มี.ค. และในปี 2559 มีการแถลงข่าววันที่ 25 มี.ค.
ขณะที่ปีนี้มีเพียงสารจาก พล.อ.ประวิตร วงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ถึงหทารถึงทหารกองเกิน ที่เข้ารับการตรวจเลือกว่า พวกท่านเป็นผู้ที่มีสำนึก ตระหนักในภาระหน้าที่มีความรับผิดชอบและแสดงออกถึงความเป็นลูกผู้ชายไทยอย่างแท้จริง ปัจจุบันภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติรูปแบบใหม่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อประชาชนและความมั่นคงของชาติโดยตรงทั้งด้านการเมืองเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงกลาโหมจึงต้องเตรียมความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์และขีดความสามารถ ของกำลังพลให้มีความรู้ทักษะทัศนคติรวมทั้งสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติให้มีความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในปัจจุบันและอนาคตซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน
ผู้เข้ารับการตรวจเลือกจะได้รับใบ สด.43 ภายในวันเดียวกันจากประธานคณะกรรมการตรวจเลือกเพื่อเป็นหลักฐาน หากได้รับหลักฐานวันอื่นหรือได้รับโดยไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือกหรือว่าไม่ใช่หลักฐานที่ทางราชการออกให้ เมื่อนำไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้เมื่อเข้าทำงานทั้งภาครัฐและเอกชนจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานใบรับรองผลการตรวจเลือก ถ้าหลักฐานนั้นไม่ถูกต้องจะเสียโอกาสในการเข้าทำงานและอาจจะได้รับโทษทางอาญาตามกฎหมายด้วย ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่าคณะกรรมการตรวจเลือกจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงตรงซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ ยุติธรรม ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนและพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน สำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับการตรวจเลือกฯตามกำหนดในหมายเรียกจะมีความผิดตามกฎหมายอาญาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีและถูกแจ้งความดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุด
กระทรวงกลาโหมจะให้การดูแลเป็นอย่างดีโดยถือว่าทุกท่านเป็นบุตรหลานในครอบครัวเดียวกันและเป็นผู้มีความเสียสละ พร้อมจะอุทิศกำลังกาย กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อันมีเกียรติ เพื่อพิทักษ์รักษา ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนด้วยความเป็นทหารอาชีพที่มีคุณธรรมมีความสามัคคีมีระเบียบวินัยซื่อสัตย์สุจริตมีความอดทนกล้าหาญเข้มแข็งยึดมั่นในเกียรติยศ เกียรติศักดิ์มีความตั้งใจปฏิบัติภารกิจให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพอันส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยและความสงบสุขของประเทศชาติ
สถิติความต้องการทหารกองประจำการตั้งแต่ปี 2557 -2561
ปี | ความต้องการทหารกองประจำการทั้งหมด (นาย) | จำนวนผู้สมัครใจเข้ารับราชการทหาร (นาย) | จำนวนผู้ที่ไม่ได้สมัครใจรับราชการทหาร (นาย) |
2557 | 100,865 | 33,644 | 67,221 |
2558 | 99,373 | 43,446 | 55,927 |
2559 | 101,307 | 47,172 | 54,135 |
2560 | 103,097 | 50,580 | 52,517 |
2561 | 104,734 | 44,797 | 59,937 |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)