ประชาไท—29 ก.ค. 2549 คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยไอโอวา สหรัฐอเมริกา รายงานในวารสารโรคติดเชื้อเกิดใหม่ว่ามีการตรวจพบเชื้อไวรัสเอช 11 เอ็น 9 (H11N9) ในเลือดของนักล่าเป็ดคนหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ด้านสัตว์ป่าอีก 2 คน

โดยไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์นี้พบไม่บ่อยในคน แม้เชื้อดังกล่าวจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่การตรวจพบเชื้อในคนก็แสดงให้เห็นว่าเชื้อไวรัสเอช 11 เอ็น 9 สามารถติดต่อจากนกป่าหรือเป็ดป่าไปยังคนได้โดยตรง

ทั้งนี้ นักวิจัยทีมดังกล่าวสันนิษฐานผู้ติดเชื้อทั้งสามอาจได้ไวรัสมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ร่างกายได้สร้างภูมิต้านทานกำจัดการติดเชื้อไปแล้ว เพราะผู้ติดเชื้อทั้ง 3 คน คลุกคลีกับนกมาเกือบทั้งชีวิต และมีการตั้งข้อสังเกตว่าการติดเชื้ออาจเกิดจากการที่นักล่าเป็ดและเจ้าหน้าที่ต้องคลุกคลีกับนกป่าหลายปีโดยไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันตัว เช่น ถุงมือ หน้ากาก หรือแว่นสวมป้องกันตา

ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แสดงความเคลื่อนไหวในการจัดการปัญหาไข้หวัดนกโดยสั่งการให้นายยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายแพทย์จรัล ตฤคณาวุฒิพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ อยู่ดูแลในพื้นที่เพื่อทำลายสัตว์ปีกที่ป่วยตายผิดปกติใน 5 จังหวัดดังกล่าว รวมทั้งสอบสวนสาเหตุที่ทำให้สัตว์ปีกป่วยตายให้เสร็จภายใน 5 วัน

จากการตรวจสอบในพื้นที่พบว่า 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย และนครสวรรค์ เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกซ้ำซาก และมีปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อค่อนข้างสูง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกมาก ซึ่งเอื้อต่อการทำให้เชื้อไข้หวัดนกแข็งแรง จึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่เสี่ยง ใช้มาตรการควบคุมโรคไข้หวัดนกตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติในจุดใดให้ทำลายในรัศมี 1 กิโลเมตรทันที เสมือนว่ามีการพบเชื้อหวัดนก โดยไม่ต้องรอผลแล็บและห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกในรัศมี 5 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ยังมีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ อาสาสมัคร(อสม.) และกระทรวงมหาดไทย ผสานกำลังลงพื้นที่เพื่อเอกซเรย์และสำรวจทุกครัวเรือนว่ามีสัตว์ปีกป่วยตายหรือไม่ พร้อมให้ความรู้แก่ชาวบ้านในการป้องกันและเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก นอกจากนี้หากพบว่าครัวเรือนที่มีไก่และยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสัตว์ปีกต้องรีบดำเนินการขึ้นทะเบียนโดยด่วน