สหรัฐฯ และรัสเซียประกาศ "แผนต่อต้านการก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์" ทั้งนี้ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชแห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ได้แถลงข่าวในวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 ก.ค.) ว่า รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ มีแผนจะเปิดการเจรจาทำข้อตกลงร่วมมือกันพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พร้อมเรียกร้องให้พันธมิตรหาทางป้องกันไม่ให้วัตถุนิวเคลียร์ตกอยู่ในมือกลุ่มก่อการร้าย

แผนดังกล่าวจะสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยจะมุ่งเน้นความสำคัญในการปราบปรามการลักลอบนำเข้าวัตถุนิวเคลียร์ การพัฒนาด้านเทคนิคในการปราบปราม การบังคับใช้กฎหมายทำลายแหล่งหลบซ่อนของผู้ก่อการร้าย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังสนับสนุนการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ โดยเชื่อว่า การเสริมสร้างความร่วมมือเป็นผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มต้องการพลังงานสูงขึ้น

ทั้งนี้ เซียร์เกย์ คีรีเยนโค ผู้อำนวยการสำนักงานปรมาณูของรัสเซียระบุว่า ข้อตกลงนี้ครอบคลุมไปถึงการร่วมมือกันในการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นที่ 4 นอกจากนั้นยังจะยกเลิกกฎข้อจำกัดในการขายแร่ยูเรเนียมของรัสเซียให้แก่สหรัฐฯ โดยที่ฝ่ายรัสเซียยังได้รับอนุญาตให้นำเชื้อเพลิงใช้แล้วซึ่งเหลือจากเตาปฏิกรณ์ในสหรัฐฯ กลับไปเก็บในรัสเซียได้อีกด้วย

นอกจากนี้รัฐบาลทั้งสองประเทศยังมีแผนสร้าง "ระบบที่มีศูนย์กลางระหว่างประเทศหลายๆ ศูนย์ ซึ่งจะทำหน้าที่ให้บริการด้านต่างๆเกี่ยวกับเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ อาทิ การเพิ่มความเข้มข้นแร่ยูเรเนียม ภายใต้การควบคุมของทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ)" ด้วย โดยคีรีเยนโคเสริมว่า ศูนย์กลางแห่งแรกซึ่งตั้งอยู่ในไซบีเรียตะวันออกนั้น พร้อมที่จะเปิดให้บริการภายใต้การดูแลของไอเออีเอในปีหน้า

……………………………….

เรียบเรียงจาก : ศูนย์ข่าวแปซิฟิค และผู้จัดการออนไลน์