ประชาไท—6 พ.ค. 2549 ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ เอดีบี เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมเรื่องการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดนก ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 4 - 6 พฤษภาคม 2549 โดยผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ รัฐมนตรีและตัวแทนจากเขตเศรษฐกิจเอเปคทั้ง 18 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 21 เขตเศรษฐกิจ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ให้ความสำคัญกับการป้องกันไม่ให้ไข้หวัดนกกลายพันธุ์ เนื่องจากเอดีบีคาดว่าถ้าเชื้อไข้หวัดนก หรือไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ที่กลายพันธุ์แพร่ระบาดออไป จะสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจเอเชียเป็นมูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ผู้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้กล่าวว่า แต่ละประเทศได้พยายามนำเสนอแผนการและมาตรการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดนกที่คล้ายคลึงกัน และต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่าเชื้อไข้หวัดนกอาจมีการกลายพันธุ์จนถึงขึ้นที่สามารถเกิดการระบาดรุนแรงได้โดยที่ไม่อาจมีใครคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแน่ชัด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกประเทศต้องแจ้งข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับไข้หวัดนกอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างจริงจังและทันท่วงที

แม้รายงานการติดตามและประเมินผลขององค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกจะบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกจะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเหมือนที่โรคซาร์สเคยทำไว้ แต่หากไวรัสเอช 5 เอ็น 1สามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้เมื่อไหร่ ก็จะทำให้ประเทศทั้งหลายที่ขาดแคลนระบบสาธารณสุขที่ดีมีอัตราผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงกว่าที่คิด และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจเอเชียเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่

จากการคาดการณ์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียระบุว่า ถ้าหากเชื้อแพร่ระบาดเป็นเวลานาน 6 เดือน จะส่งผลให้เศรษฐกิจเอเชียสูญเสียถึง 113,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (4,309,200 ล้านบาท) โดยจีนจะสูญเสียประมาณ 28,000 ล้านดอลลาร์ อินโดนีเซีย 14,000 ล้านดอลลาร์ มาเลเซีย 81,000 ล้านดอลลาร์ และไทย 10,300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 412,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศได้นำเสนอวิธีการป้องกันเอาไว้แล้ว โดยจะมุ่งเน้นที่การป้องกันมิให้เกิดโรคในสัตว์และคน รวมถึงมาตรการควบคุมเฝ้าระวังโรคในสัตว์ปีกและคน ตลอดจนระบบการปฏิบัติการควบคุมโรคในพื้นที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วทันเวลา