Skip to main content
sharethis

 



แอลเอ (ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์) : "วสันต์" ชี้การไม่รับตำแหน่งนายกฯ ของ ทักษิณคือ "การถอยเพื่อบุก" หากไม่ใช้มาตรา 7 โดยเร็ว เมืองไทยอาจนองเลือด เตรียมออกแถลงการณ์เรียกร้องนายกฯพระราชทานและทักษิณต้องออกไปแบบสิ้นเชิง ขณะ "ชะบา" ชี้เป็นผลดีกับรัฐบาลทั้งระยะสั้นและยาว แถมผลเสียจะตกกับประชาธิปัตย์ เพราะกดดันให้นายกฯ มากเกินไป



สืบเนื่องจากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 เมษายน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อสร้างความสมานฉันท์ของชาติในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น


 


นายวสันต์ สิทธิเขตต์ ศิลปินชื่อดัง ซึ่งจะเปิดแสดงผลงานตามคำเชิญของพิพิธภัณฑ์ศิลปะชื่อ 18th street Art Center เลขที่ 1639 18th St., Santa Monica, CA 90404 โทร 310-453-3711 ในวันที่ 15 เมษายน ศกนี้ กล่าวแสดงความเห็นว่า เป็นเพียงแค่การถอยเพื่อบุก และเป็นการลดกระแสกดดันจากประชาชนที่ออกเสียงไม่เลือกใคร หรือกลุ่มโนโหวต และเป็นการยั่วยุให้กลุ่มสนับสนุนพรรคไทยรักไทยจำนวน 16 ล้านเสียงเกลียดชังกลุ่มโนโหวตด้วย ถือว่าเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง


 


"ผมเห็นว่าการปกครองตอนนี้ ไม่ว่ารัฐบาลจะให้ใครขึ้นมา พวกโนโหวตก็ยังไม่ยอมรับการปกครอง หรือแม้ว่าฝ่ายค้านจะเข้ามาร่วม มีการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาก็คงจะไม่ได้ เพราะ 16 ล้านคนก็ไม่ยอมรับ เพราะฉะนั้น ทางออกมีทางเดียว คือมาตรา 7 คือรัฐบาลพระราชทาน มาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปการเมือง ทุกฝ่ายมาร่วมกัน ผมว่าเป็นทางออกดีที่สุด ไม่งั้นเมืองไทยอาจจะต้องนองเลือดเหมือนกับเขมรแดง ฆ่ากันเป็นล้านๆ คนแน่นอนครับ"


 


ศิลปินชื่อดัง ซึ่งเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ครั้งนี้ ตนและกลุ่มพันธมิตรฯ ในอเมริกามองว่า อาจจะทำให้ประชาชนที่ไม่เข้าใจการเมืองอย่างลึกซึ้งคิดว่า นายกฯรักษาการได้ถอยแล้ว ทั้งที่จริงคือการคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง


 


"ผมอยากจะบอกว่า การคอยชักหุ่นนี่ ทำให้เขาทำความผิดอะไรได้อย่างเต็มที่เพราะไม่ต้องรับผิดชอบแล้ว สมคิด (จาตุศรีพิทักษ์) หรือใครขึ้นมาเป็นนายกฯ ถ้าเกิดมีความรุนแรงเกิดขึ้น เขาอยู่ข้างหลังก็ปลอดภัย ผมเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เขาก็ยังเหมือนเป็นนายกฯ ตัวจริง เพียงแต่มีหุ่นมาชักเท่านั้น"


 


ส่วนท่าทีของกลุ่มพันธมิตรฯ ในสหรัฐฯ นั้น นายวสันต์กล่าวว่า จะยังคงมีการเคลื่อนไหวต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่อไป ทั้งกิจกรรมชุมนุมที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ทุกวันอาทิตย์ และกิจกรรมอื่นๆ ด้วย เช่นการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ เพื่อรวบรวมและขยายเครือข่ายพันธมิตรฯ ในอเมริกาให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยขณะนี้รายชื่อผู้สนับสนุนกว่า 800 คนแล้ว


 


"เรากำลังคุยกันว่าจะออกแถลงการณ์ของเราว่า เราต้องการสองอย่าง หนึ่งคือมาตรา 7 เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งรุนแรง เพื่อไม่ให้คนไทยฆ่ากันเอง และสองคือให้นายกฯ ทักษิณออกไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่มาแอบๆ ใช้อำนาจ ซึ่งจะรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม


 


ส่วนกิจกรรมการออกบูธในงานไทยนิวเยียร์เดย์ 2005: สงกรานต์เฟสติวัล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายนที่ผ่านมานั้น นายวสันต์ สิทธิเขตต์ กล่าวว่า บรรยากาศคึกคักมาก เพราะได้เจอกับกลุ่มคนที่สนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ รายใหม่เป็นจำนวนมาก มีการจำหน่ายเสื้อยืดได้กว่า 200 ตัว เพื่อนำเงินเป็นทุนในการจัดทำเอกสารเผยแพร่ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนในอเมริกา และว่าซีดี "คนหน้าเหลี่ยม" คือ "ท็อปฮิต" ของงาน


 


ทั้งนี้ นายวสันต์ สิทธิเขตต์ กล่าวด้วยว่า จะมีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงสองท่านจากประเทศไทย คือ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ อ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางมาอภิปรายที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์คเลย์ (ยูซีเบิร์คเล่ย์) ที่ซานฟรานซิสโก ในวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน ระหว่างเวลา 16-18.00 น. และขอทราบรายละเอียดได้ที่สมาคมนักเรียนไทยเบิร์คเล่ย์ โทรศัพท์ 510-540-6231


 


ส่วนความคิดเห็นของแกนนำกลุ่มไทยรักประเทศไทยในอเมริกา ซึ่งประกาศตัวสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย นั้น นางชะบา จตุระบุน แกนนำของกลุ่มกล่าวว่า การประกาศไม่รับตำแหน่งนายกฯ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผลดีต่อรัฐบาล ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว


 


"หนึ่งคือนายกฯ ได้พักผ่อน และเตรียมการในอนาคตว่าจะกลับมาหรือไม่ อีกอันคือนายกฯ ถือโอกาสอันนี้ ฝึกรองนายกรัฐมนตรีขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลย จะทำให้เหมือนกับว่ามีนายกฯ สองคนในเวลาเดียวกัน ทำให้สถานการณ์ของรัฐบาลแข็งแรงขึ้น ไม่สั่นคลอน เช่นว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับคนใดๆ คนหนึ่ง คนที่เหลืออยู่ก็จัดการแทนได้เลยในตำแหน่ง รันงานได้เลยโดยรัฐบาลยังคงบริหารไปอย่างไม่มีอะไรคลอนแคลน"


 


แกนนำกลุ่มคนรักทักษิณในแอลเอ ยังกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะส่งผลเสียโดยตรงต่อพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า "ในแง่ประชาชนที่เลือกรัฐบาลไทยรักไทยเป็นรัฐบาล 16 ล้านคน จะรู้สึกเสียใจ ไม่เข้าใจว่าทำไม ดิฉันว่าผลเสียที่เกิดขึ้นน่าจะไปสู่ประชาธิปัตย์ เพราะเป็นฝ่ายที่ประชาชนรู้ว่าไปกดดัน บีบคั้นนายกรัฐมนตรีตลอดเวลา ทั้ง 16 ล้านคนก็มองไปที่ ประชาธิปัตย์ว่าเป็นต้นเหตุ ต่อไป เสียงจากทางอีสานหรือเหนือนั้น อาจจะไม่เทให้ประชาธิปัตย์สักเสียงเลยก็ได้"


 


ทั้งนี้ นางชะบา จตุระบุน ยังกล่าวด้วยว่า สื่อมวลชนไทยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ทั้งสิบกว่าเล่มนั้น ทำหน้าที่ของตนเองไม่ดีนักในเรื่องนี้


 


"สื่อแต่ละแห่ง ดิฉันมองว่าเขาขาดคนทำงาน ทำให้เกิดการลอกข่าวต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตของเมืองไทย คงไปลอกเอาสื่อที่ไม่ถูกต้องมา เช่นไปลอกจากผู้จัดการ ซึ่งเป็นหนังสือของคุณสนธิโดยตรง สื่อก็ออกมาในทำนองนั้นหมด ส่วนสื่อของอเมริกา คือภาษาเขากับภาษาเราก็ต่างกัน ก็ไม่ได้มาร้อยเปอร์เซ็นต์ในภาษาไทย และขึ้นอยู่กับคนไทยที่ให้ข่าวกับนักข่าวฝรั่ง สื่อฝรั่งก็เจอปัญหานี้เหมือนกันในการรับข่าว ถ้าผู้ให้ ให้ข่าวไม่ถูกต้อง ข่าวก็ไม่ถูกต้องไป ด้านหนึ่งเขาก็พยายามหาข่าวจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริงด้วย เพราะงั้นข่าวของสื่อฝรั่งจะออกมาไม่สุดขั้วสุดโต่งไปทางอันใดอันหนึ่งนัก แต่บางทีก็ไปตามกระแสเหมือนกัน แรกๆ ก็โจมตีรัฐบาล เรื่องฆ่าตัดตอน ยาเสพติด เพราะรู้ไม่จริงก็ใส่ใหญ่เลย แต่บอกได้ว่าสื่อนอกให้ความสนใจข่าวบ้านเรามาก อย่างวันนี้ดูช่องเคซีอีที ช่อง 28 ของแอลเอ ก็มีเรื่องของเมืองไทยเกือบสิบนาที แอลเอไทมส์ ก็ลงข่าวหลายครั้งแล้ว"


 


ส่วนกิจกรรมครั้งต่อไปของกลุ่มไทยรักประเทศไทยนั้น นางชะบา จตุระบุนกล่าวว่า จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน ขณะนี้กำลังกำหนดสถานที่อยู่ว่าจะเป็นในสวนสาธารณะ หรือที่ริมทะเลสาป ซึ่งจะแจ้งให้ทราบผ่านสื่อมวลชนไทยในอเมริกาต่อไป.


 


………………………………………………………….


ที่มา : ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net