เมื่อวันที่ 9 มี.ค. เวลา 14.00 น. ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 2516 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเครือข่ายวิทยุชุมชน ร่วมกันแถลงข่าวเรื่องรัฐคุกคามสื่อในภาวะวิกฤตการเมือง รัฐไม่เคารพกติกาประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ
แถลงการณ์ดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการและนายกรัฐมนตรียุติการใช้สื่อของรัฐในการโฆษณาชวนเชื่อ หาเสียง หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสารและสร้างช่องว่างแห่งการรับรู้ข้อมูลข่าวสารในสังคม
นอกจากนี้ ยังมีข้อเรียกร้องต่อสื่อของรัฐ ให้สื่อในเครือกองทัพ ให้ข้อมูลข่าวสารต่อประชาชนอย่างรอบด้าน ไม่เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาลรักษาการและพรรคไทยรักไทย อีกทั้งเปิดพื้นที่ให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มประชาสังคมอื่นๆ ได้สื่อสารความจริงและความคิดเห็นต่อประชาชนอย่างเสมอภาค ขอให้สื่อในเครือของบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระ ไม่ใช่ตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาลเผด็จการรัฐสภาและกลุ่มทุนผูกขาด และสำหรับสื่อในเครือกรมประชาสัมพันธ์ ถ้าไม่สามารถทำหน้าที่อย่างเป็นกลางได้ ก็ต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงและให้ร้ายฝ่ายที่เห็นต่างจากรัฐบาลรักษาการ
สุดท้ายเรียกร้องให้ไอทีวีซึ่งเป็นสถานีเอกชนที่มีเจตนารมณ์จากเหตุการณ์พฤษภา 2535 เลือกข้างแสดงจุดยืนว่าจะยืนอยู่ข้างรัฐบาลรักษาการที่หมดความชอบธรรมหรือจะยืนอยู่ข้างภาคประชาชน ถ้าไอทีวีเลือกข้างรัฐบาลรักษาการ ก็ควรประกาศต่อสาธารณะทุกต้นชั่วโมง ผ่านสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงจุดยืนที่แท้จริงและไม่ต้องมีความคาดหวังอีกต่อไป
รศ.ดร.
กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณซื้อพื้นที่โฆษณาทางหน้าหนังสือพิมพ์ นางอุบลรัตน์ แสดงความเห็นว่า การใช้เงินซื้อพื้นที่โฆษณาในสื่อเป็นการสู้รบอีกวิธีหนึ่ง หากเราเรียกร้องให้สื่อเสนอข่าวอย่างเป็นธรรม แต่ในหนังสือพิมพ์ก็ยังมีหน้าโฆษณาที่เกลื่อนไปด้วยข้อมูลข่าวสารที่พรรคการเมืองประสงค์ที่จะสื่อออกมา เท่ากับการเรียกร้องยังไม่สมบูรณ์ เพราะอำนาจการใช้พื้นที่ไม่เท่ากัน จึงเป็นคำถามไปถึงสื่อว่า จะมีวิธีการสร้างดุลยภาพอย่างไร เพราะแม้จะมีการเสนอข่าวของประชาชนมากขึ้น แต่ก็มีโฆษณาด้วย พื้นที่ของประชาชนจะถูกกลบและบิดเบือนประเด็นไหม
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)