ประชาไท—19 ก.พ. 2549 เครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ กว่า 23 องค์กร ประกาศตั้ง "เครือข่ายองค์กรประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลทักษิณ"ยกมือไม่เอาทักษิณ พร้อมร่วมกันแสดงพลังจัดชุมนุมขึ้นที่เชียงใหม่ ในวันที่ 26 นี้ เพื่อแสดงจุดยืนให้นายกฯ ทักษิณออกจากตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสถานบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.ภาคเหนือ) พร้อมด้วยเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ กว่า 23 องค์กร ได้ร่วมกันจัด "เวทีรณรงค์ปฏิรูปการเมืองรอบสอง ร่วมต้านการผูกขาดของประเทศไทย ครั้งที่ 1" โดยมีองค์กรชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการและนโยบายของรัฐบาลทักษิณ ออกมายืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้หมดความชอบธรรมแล้ว

นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยจากโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะ จ.ลำปาง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านแม่เมาะต่างได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐมานานแล้ว เมื่อร้องเรียนไปยังรัฐบาลชุดนี้มากว่า 50 ชุด แม้กระทั่งมีมติครม.ออกมา แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว ฉะนั้น รัฐบาลชุดนี้ถือว่าหมดความชอบธรรม และตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป

"ตั้งแต่นี้ไปตนและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐ พร้อมจะออกเดินสายเพื่อแฉความชั่วร้ายของรัฐบาลทักษิณให้สังคมรับรู้ทั่วทุกเวที" นางมะลิวรรณ กล่าว

ด้านนายบุญส่ง ชินาวงศ์ ตัวแทนชาวบ้านจากเครือข่ายลุ่มน้ำวาง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตนไม่ใช่นักการเมือง แต่ตนสนใจเรื่องการเมือง ซึ่งก่อนนั้น เคยมีความหวังกับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย ว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหา แต่สุดท้ายกลับมาสร้างปัญหา

"ตอนนี้ จะเห็นว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ชักจะยุ่งไปกันใหญ่ ตั้งแต่รัฐบาลทักษิณได้เอาระบบทุนเข้ามา ซึ่งทำให้ตนและชาวบ้านได้รับผลกระทบกันอย่างหนัก ไม่ว่าในเรื่องนโยบายการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน หรือว่าเมกะโปรเจคเข้ามา ซึ่งหากเราไม่ช่วยกันหยุดยั้ง ก็จะได้รับผลกระทบ แล้วอนาคตลูกหลานเราอยู่อย่างไร อีกทั้งทักษิณก็ยังดื้อ ไม่ยอมลาออก ไม่ยอมยุบสภา และยังออกมาอ้าง 19 ล้านเสียง เพราะฉะนั้น เราก็ควรจะเร่งล่ารายชื่อ 5 หมื่นเพื่อถอดถอนนายกฯ ได้เช่นกัน" นายบุญส่ง กล่าว

ในขณะที่ นายธนา ยะโสภา กำนันตำบลศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน กล่าวว่า อยากให้เราร่วมกันออกเคลื่อนไหวเพื่อนำเสนอปัญหาที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาลให้สังคมรับรู้อย่างต่อเนื่อง ว่ามันเกิดปัญหากระทบกับชาวบ้านอย่างไรบ้าง ซึ่งจะทำให้สังคมรู้ว่าไม่ใช่เป็นการออกมาแสดงพลังเพื่อสนับสนุนนายกฯ ทักษิณ เหมือนกับที่มีการเกณฑ์ การจ้างชาวบ้านรายละ 300 บาท ให้ไปสนับสนุนนายกฯ ทักษิณที่หน้าทำเนียบ หรือที่ป่าช้า อ.สันป่าตอง เหมือนที่ผ่านมา เพราะนั่นถือว่า เป็นพลังเพียงชั่วคราว และไม่ใช่พลังที่แท้จริง

นายประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ(กป.อพช.ภาคเหนือ) กล่าวว่า รัฐบาลและตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นหมดความชอบธรรมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว และเห็นว่าเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลทักษิณจะต้องออกชี้ให้สังคมได้รับรู้ถึงปัญหาทั้งหมด โดยน่าจะร่วมกันตรวจสอบและรณรงค์ให้ชาวบ้านได้เข้าใจ รวมไปถึงการรณรงค์ถึงเรื่องการปฏิรูปการเมืองโดยประชาชนต่อไปอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้น ทางองค์กรเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ ได้ลงมติพร้อมใจกันยกมือ ไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป พร้อมกับประกาศตั้ง "เครือข่ายองค์กรประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลทักษิณ" ก่อนออกแถลงการณ์ร่วมกัน ว่า ภายใต้ความผิดพลาดจากนโยบายการบริหารประเทศทุกๆ ด้าน ของรัฐบาลปัจจุบันที่กระทบต่อประชาชน เกษตรกรรายย่อย คนจน กรรมกรอย่างรุนแรง เราเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หมดความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อที่จะบริหารประเทศได้อีกต่อไป และก็ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะมาขอเป็นเจ้าภาพในการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยข้ออ้างว่าต้องการจะปฏิรูปการเมืองไทย

และขอประกาศจัดตั้งศูนย์ประสานในนาม "เครือข่ายองค์กรประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลทักษิณ" เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานเพื่อให้เกิดการเปิดโปงตรวจสอบนโยบายรัฐบาล นำเสนอปัญหาผลกระทบจากนโยบายของรัฐที่เกิดขึ้นกับประชาชนกลุ่มต่างๆ รณรงค์จัดเวทีให้ความรู้แก่สังคมทุกระดับ ทั้งระดับจังหวัด ระดับชุมชนอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเมืองไทยรอบใหม่ คืนประชาธิปไตยให้กับภาคประชาชนอย่างแท้จริง โดยจะร่วมกับพันธมิตรประชาชนอื่นๆ ในการจัดเวทีการปฏิรูปการเมือง ทั้งระดับภาคและระดับพื้นที่ และพวกเราพร้อมจะเข้าร่วมและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการเคลื่อนไหวเรียกร้องในระดับชาติต่อไป

ทั้งนี้ นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด กองเลขานุการสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) กล่าวในตอนท้ายว่า ทาง "เครือข่ายองค์กรประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลทักษิณ" ยืนยันจะร่วมชุมนุมกันในวันที่ 26 ก.พ.นี้ที่ จ.เชียงใหม่ โดยจะมีการถ่ายทอดการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ให้ชมด้วย เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่า ไม่เอาทักษิณ

"การชุมนุมครั้งนี้ เราจะไม่ใช้วิธีการระดมคนมา เพราะเราจะไม่นับจำนวนคน แต่เราจะเน้นการรณรงค์กิจกรรมทางการเมืองตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรารู้ว่าที่เชียงใหม่นั้นก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับทักษิณแต่เราไม่ต้องการการเผชิญหน้า ไม่ต้องการความรุนแรง ซึ่งหากการชุมนุมครั้งนี้มีการปะทะกัน ขอให้เชื่อเลยว่า มาจากฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างแน่นอน และหากเกิดอะไรขึ้น กลุ่มนั้นจะต้องรับผิดชอบกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นด้วย" นายสุริยันต์ กล่าวทิ้งท้าย