ผศ.
วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2005 14:02น.
สมเกียรติ จันทรสีมา, ปกรณ์ พึ่งเนตร : ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ผศ.
ทั้งนี้ ปฏิญญาดังกล่าวได้เน้นแนวทางสันติของอิสลาม ด้วยการเรียกร้องให้ชาติมุสลิม "ต่อสู้อย่างแข็งขันกับคำสอนที่บิดเบือนหลักการสันติของอิสลาม" และสร้าง "สามัคคีมหาประชาชาติ" เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาวิธีคิดแบบสุดขั้วของกลุ่มก่อการร้าย อีกทั้งพยายามตอบคำถามกรณีที่มีผู้พยายามนำคำสอนไปเชื่อมโยงกับการก่อการร้าย
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังเน้นเป็นพิเศษถึงเรื่องการ "ฟัตวา" หรือการชี้ขาดปัญหาที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ว่าต้องดำเนินการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับเท่านั้น และเสนอให้จัดตั้ง "สถาบันนิติศาสตร์อิสลาม" ของโอไอซี เพื่อให้เป็นองค์กรอ้างอิงสูงสุด เพื่อกำหนดวิธีการที่จะระงับการตีความและการชี้ขาดที่แตกต่างกัน จนขยายกลายเป็นความขัดแย้ง
"ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นเรื่องการฟัตวา เกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ของไทย ไม่ใช่แค่เฉียดๆ แต่มันตกลงตรงกลางเลย" ผศ.วรวิทย์ วิเคราะห์
เขาอธิบายว่า ปัญหาปัตตานีเป็นปัญหาใหญ่ที่โลกมุสลิมกำลังให้ความสนใจ และต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องจับตามอง ต้องสอบสวนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งปัญหานี้ต่างกับปัญหา บิน ลาเดน (แกนนำกลุ่มก่อการร้ายอัล กออิดะห์) เพราะเป็นปัญหาในลักษณะชนกลุ่มน้อย
ผศ.วรวิทย์ กล่าวต่อว่า ปฏิญญามักกะห์ ซึ่งเป็นแถลงการณ์ที่ประกาศออกมาหลังการประชุมโอไอซีครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะกระชับประชาชาติมุสลิม เพื่อความเป็นเอกภาพ และต้องกลับไปสู่อิสลามสายกลาง อย่าไปตีความด้วยตัวเอง มิฉะนั้นจะกลายเป็น "สุดโต่ง" หรือไม่ก็ "หย่อนยาน" เกินไป
"สิ่งที่โอไอซียึดถือมาตลอด ก็คือความสามัคคี ไม่แตกแยกกัน โดยสามารถแตกแยกทางความคิดเห็นได้ แต่สุดท้ายต้องกลับไปสู่อัลกุรอาน และแนวทางของศาสดา" ผศ.วรวิทย์ ระบุ
เขาย้ำด้วยว่า แถลงการณ์ของโอไอซี เป็นการแสดงท่าทีซึ่งอยู่บนพื้นฐานที่ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นธรรมดาของการประชุมโอไอซีทุกครั้ง
"จุดยืนดังกล่าวนี้แตกต่างกับนายกฯทักษิณ" ผศ.วรวิทย์ วิจารณ์ถึงท่าทีของผู้นำไทย "นายกฯพูดไม่ระวัง ไปต่อว่าโอไอซี ทั้งๆ ที่ตัวแทนที่เดินทางมาประเทศไทยแต่ละครั้ง ล้วนเป็นอดีตทูต เป็นนักวิชาการชื่อดังทั้งสิ้น ฉะนั้นไม่ว่าจะปฏิบัติอย่างไร คนเหล่านี้ก็รู้เท่าทันทั้งหมด"
กรรมการ กอส.ผู้นี้ ยังเห็นว่า รัฐบาลไทยไม่ควรมองว่าโอไอซีเข้ามาก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศ เพราะปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาอ้างว่าเป็นปัญหาภายในของประเทศไทยที่เกิดขึ้นกับคนในประเทศ เพราะมุสลิมไม่ได้คิดเช่นนั้น ความรู้สึกของมุสลิมเป็นพี่น้องกันโดยไม่มีเขตแดน ดังนั้นเมื่อรัฐบาลคิดอย่างนี้ ก็ผิดตั้งแต่ต้นแล้ว
"ในเมื่อประชาชนของคุณเป็นแบบนี้ แทนที่จะไปหาทางออกด้วยการจัดทำนโยบายเพื่อแก้ปัญหา กลับไปไล่โอไอซี ห้ามไม่ให้เขามายุ่ง ซึ่งมันไม่ถูกต้อง"
ผศ.
"ส่วนตัวผมมองว่าเราสามารถใช้ความเป็นไทยแก้ไขปัญหาได้ โดยเฉพาะนิสัยคนไทยที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตร แต่รัฐบาลกลับไม่ทำ" เขาสรุป และว่า จะนำแถลงการณ์โอไอซี รายงานต่อที่ประชุม กอส. เพื่อขอความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหรือไม่ เพราะท่าทีของ โอไอซี ครั้งนี้นับว่าน่าจับตามองอย่างมาก
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)