ประชาไท-11 พ.ย. 48       เรื่องวุ่นๆ ในวงการครูยังคุกรุ่น เครือข่ายองค์กรคัดค้านการถ่ายโอนการศึกษาระบุเตรียมนัดประชุมแกนนำ 14 พ.ย. นี้ เพื่อหารือถึงแนวทางคัดค้านการถ่ายโอนสถานศึกษาให้กับองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

ด้าน พรรคไทยรักไทย นัดถกปัญหา 14 พ.ย. เช่นกัน โดยนายปองพล อดิเรกสาร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหาการถ่ายโอนการศึกษาไปให้  อปท. ระบุว่าขณะนี้กำลังประสานไปทางตัวแทนข้าราชการครูที่เคลื่อนไหวคัดค้านให้เข้าร่วมหารือกับคณะกรรมการด้วย

สำหรับวันนี้ (11 พ.ย.) มีรายงานว่า ครูจาก 123 โรงเรียนใน จ.มหาสารคามได้หยุดการเรียนการสอนเพื่อคัดค้านการโอนย้ายโรงเรียน ล่าสุด นางพรนิภา ลิมปพยอม เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ออกมาชี้แจงในกรณีดังกล่าวแล้ว

โดยกล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) มหาสารคาม เขต 2 ว่า มีการประชุมครู เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจการถ่ายโอนสถานศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่โรงเรียนหลักเมือง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม และมีการหยุดการเรียนการสอน 123 โรงเรียน จากทั้งหมด 319 โรงเรียน จริง ซึ่งจะทำการสอบสวนหาสาเหตุการหยุดการเรียนการสอนดังกล่าวต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นคาดว่า  123 โรงเรียนที่หยุดการเรียนการสอนนี้ อาจเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูเพียง 1-3 คน เมื่อครูไปร่วมประชุมแล้วจึงไม่มีใครจัดการเรียนการสอน และถ้าการประชุมครั้งนี้เป็นการทำความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลก็ไม่เป็นการผิดวินัยข้าราชการ เพราะทางโรงเรียนยืนยันว่าจะมีการสอนชดเชยให้ ในวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน

นอกจากนี้ นางพรนิภา ยังกล่าวอีกว่าหลังจากนี้จะทำจดหมายเวียนชี้แจงไปยัง สพท.ทั่วประเทศไม่ให้ปิดโรงเรียนไปชุมนุมคัดค้านการถ่ายโอนโรงเรียน เพราะหากการหยุดเรียนโดยไม่มีเหตุผลส่งผลกระทบถึงนักเรียนโดยตรง ซึ่งข้าราชการครูต้องมีความรับผิดชอบและคำนึงถึงเด็กเป็นหลัก

ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่าไม่เห็นด้วยที่มีข่าวว่าครูจะหยุดสอนเพื่อคัดค้านการถ่ายโอนโรงเรียน เพราะจะเกิดความเสียหายต่อเด็กและเยาวชน โดยครูสามารถแสดงความเห็นคัดค้านกรณีไม่เห็นด้วยได้ แต่ถ้าถึงขั้นหยุดสอนขอให้คิดให้รอบคอบ ก่อนหน้านี้ ครูบอกว่าที่ค้านถ่ายโอน เพราะห่วงคุณภาพการเรียนการสอนแล้วมาหยุดสอนเสียเอง จะตอบสังคมไม่ได้

นายจาตุรนต์ ยังย้ำต่อว่า ศธ. ไม่มีอำนาจที่จะยกเลิกหรือชะลอการถ่ายโอนโรงเรียน เพราะเป็นกฎหมายและต้องทำตามมติ ครม.แต่ได้พยายามหาแนวทางเพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุดแล้ว โดยในปีการศึกษา 2549 นี้ คาดว่า จะมีโรงเรียนที่โอนไป อปท.ประมาณ 100-200 เท่านั้น จากจำนวนกว่า 30,000 โรงเรียน ส่วนการแก้ไขกฎกระทรวงที่ยังไม่ลงตัวนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่คงตัดสินใจและเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทันวันอังคารนี้