ประชาไท—29 ต.ค. 2548 อุณหภูมิตะวันออกกลางพุ่งสูง ผู้นำของหลายประเทศรุมประณามนายมาห์มูด อะห์มาดิเนจัด ประธานาธิบดีของอิหร่าน หลังจากที่เขาประกาศกำจัดอิสราเอลออกไปจากแผนที่ ขณะที่ผู้นำอิหร่านออกมาตอบโต้กลับอย่างเผ็ดร้อนเช่นกัน ด้านสถานการณ์ในอิสราเอล ผู้นำอิสราเอลตอบโต้เหตุระเบิดพลีชีพที่กลุ่มอิสลามิก ญีฮัดออกมาแสดงความรับผิดชอบเมื่อ 3 วันก่อนด้วยการบุกโจมตีเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซาของปาเลสไตน์อันเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มดังกล่าว

ภายหลังจากที่นายมาห์มูด อะห์มาดิเนจัด ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวถ้อยคำที่โลกตะลึงในการประชุมหัวข้อ "โลกที่ปราศจากลัทธิไซออน" ในกรุงเตหะราน โดยอ้างคำพูดของอะญะตุลเลาะห์ รูฮุลเลาะห์ โคมัยนี ผู้นำการปฏิวัติของอิหร่านผู้ล่วงลับซึ่งเคยกล่าวเอาไว้ว่า อิสราเอลต้องถูกกำจัดออกไปจากแผนที่ เป็นผลให้ผู้นำของหลายประเทศออกมากล่าวประณามนายอะมาดิเนจัดอย่างรุนแรง

โดยนายจอน โฮเวิร์ด นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่าสิ่งที่ประธานาธิบดีของอิหร่านกล่าวนั้นถือเป็นถ้อยคำอันตรายและเรียกร้องให้สหประชาชาติหามาตรการตอบโต้อิหร่าน ขณะที่ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่าคำพูดดังกล่าวนั้นถือเป็นถ้อยคำที่ยอมรับไม่ได้ ฝ่ายรัฐบาลอังกฤษได้เรียกทูตอิหร่านเข้าพบพร้อมประณามว่า การพูดของนายอะห์มาดิเนจัดนั้นน่ารังเกียจ ด้านรัฐบาลเสปนก็ออกมาประณามด้วยเช่นกัน พร้อมเรียกร้องคำอธิบายจากประเทศอิหร่าน

สำหรับอิสราเอลนั้น ตอบโต้ถ้อยคำของประธานาธิบดีอิหร่านด้วยการร้องเรียนไปยังสหประชาชาติให้ขับอิหร่านออกจากการเป็นสมาชิก

แต่แม้ว่าจะถูกประนามอย่างรุนแรงจากหลายประเทศ แต่ผู้นำอิหร่านยังคงยืนยันคำพูดเดิมพร้อมกับย้ำว่า สิ่งที่เขาพูดนั้นคือถ้อยคำที่แท้จริงของชาวอิหร่าน อีกทั้งโต้ตอบด้วยว่า ผู้นำเหล่านั้นมีเสรีภาพที่จะพูด แต่คำพูดของพวกเขาก็ไม่ได้มีความถูกต้อง และก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่เองที่หากมีคำพูดที่ถูกต้องเที่ยงตรงเกิดขึ้นก็ย่อมจะถูกตอบโต้

ทั้งนี้ อะห์มาดิเนจัด ประณามว่า ผู้นำประเทศต่างๆ ที่ออกมาประณามเขานั้น เป็นมนุษย์เจ้าเล่ห์ที่คิดว่าโลกต้องเชื่อฟังตัวเอง และคนเหล่านั้นทำลายครอบครัวชาวปาเลสไตน์ เขายังกล่าวถึงลัทธิไซออนสากลและลัทธิขยายดินแดนและเศรษฐกิจอันยิ่งยโส ซึ่งมีนัยพาดพิงถึงอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม สถานทูตอิหร่านประจำกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียได้ออกมาอธิบายเมื่อวานนี้ ( 28 ต.ค.) ว่า สิ่งที่นายอะห์มาดิเนจัดพูดนั้น ไม่ได้ต้องการที่จะตัดสัมพันธ์และก่อความขัดแย้ง แต่ความหมายของนายอะห์มาดิเนจัดก็คืออิหร่านไม่สามารถยอมรับประเทศที่มีการเหยียดชนชาติได้ เนื่องจากอิสราเอลจำกัดสิทธิพื้นฐานของประชาชนชาวปาเลสไตน์ในเขตยึดครองของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการเหยียดชนชาติ

ด้านสถานการณ์ในอิสราเอล ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดพลีชีพในเมืองฮาเดอรา ทางตอนเหนือของประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และบาดเจ็บกว่า 30 เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมาโดยกลุ่มอิสลามิก ญีฮัด ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบพร้อมระบุว่าเป็นการกระทำเพื่อแก้แค้นที่อิสราเอลสังหารสมาชิกระดับสูงของกลุ่มไปเมื่อวันที่ 24 ต.ค. นั้น

นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเอเรียล ชารอน เห็นชอบให้นำกองกำลังบุกเข้าไปในเขตเวสต์แบงก์และจับกุมผู้นำกลุ่มอิสลามิก ญิฮาด เพื่อตอบโต้การก่อเหตุระเบิดพลีชีพดังกล่าว พร้อมระบุว่าอิสราเอลจะใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อไปจนกว่าจะปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายได้

โดยสำนักข่าวเอพีรายงานวานนี้ (28 ต.ค.) ว่า กองกำลังอิสราเอลพร้อมด้วยรถทหาร 35 คัน และเฮลิคอปเตอร์หลายลำบุกเข้าไปในเมืองจานินในเขตเวสแบงก์ และล้อมจับนาย อับดุล คาลิม อิซซาดิน ผู้นำกลุ่มอิสลามิก ญีฮัด พร้อมกันนี้ อิสราเอลได้โจมตีเขตฉนวนกาซาและพื้นที่ตอนเหนือของเขตเวสต์แบงก์ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มอิสลามิก ญีฮัดทั้งทางบกและทางอากาศ ถึง 4 ระลอก ซึ่งนับเป็นการตอบโต้ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การถอนชาวอิสราเอลออกจากฉนวนกาซา

ทั้งนี้ นายชารอนกล่าวว่า อิสราเอลจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร เนื่องจากปาเลสไตน์ล้มเหลวในการจัดการกับกลุ่มติดอาวุธในประเทศ ซึ่งก็หมายความว่าการเจรจาสันติภาพย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้ โดยนายชารอนระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลจะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าจะสามารถปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายได้