Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 48 ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร ศาลสืบพยานโจทก์คดีอุ้มนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 และนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยา และบุตรสาวทั้ง 4 คนของนายสมชาย ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ต.เงิน ทองสุก กับพวกรวม 5 คน ซึ่งเป็นนายตำรวจกองปราบปราม เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์และข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมโดยใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547



การสืบพยานในช่วงเช้า พนักงานอัยการนำ พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ขึ้นเบิกความเป็นพยานโจทก์ปากแรก



พ.ต.อ.ปกรณ์ เบิกความสรุปว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้พยานทำหน้าที่สืบสวน เสาะหาและติดตามพยานที่เห็นเหตุการณ์กรณีทนายสมชายหายตัวไปมาสอบคำให้การ โดยการติดตามพยานเมื่อ เวลาประมาณ 20.00-21.00 น. วันที่ 24 มีนาคม 2547 มี น.ส.ฉวีวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) เข้ามาแจ้งเบาะแสว่าเห็นเหตุการณ์ในวันที่ 12 มีนาคม2547 พยานจึงเรียกตัวมาสอบถามซึ่ง น.ส.ฉวีวรรณ แจ้งว่า เมื่อเวลา 20.00 น.เศษ ของวันดังกล่าว เห็นรถยนต์ 2 คันจอดเยื้องไปทางร้านอาหารแม่ลาปลาเผา ถนนรามคำแหง คันแรกเป็นรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเขียว ส่วนคันหลังเป็นรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีดำ เปิดไฟกะพริบไว้



พ.ต.อ.ปกรณ์ เบิกความด้วยว่า น.ส.ฉวีวรรณ ยังบอกอีกว่าเห็นผู้ชายที่รถฮอนด้า ลงจากที่นั่งคนขับแล้วเดินอ้อมไปด้านหน้ารถ ไปยืนคุยกับกลุ่มชายที่ทางเท้า ซึ่งได้ยินผู้ชายที่ลงมาจากรถฮอนด้าพูดว่ากำลังจะไปทำธุระ โดยชี้มือไปทางแยกลำสาลี ต่อมาก็ได้ยินเสียงร้อง "โอย โอย..." เมื่อหันกลับมาเห็นชายคนหนึ่งถูกดันตัวเข้าไปในรถยนต์โตโยต้า และเหมือนมีคนในรถดึงตัวชายคนดังกล่าวเข้าไปด้วย จากนั้นเห็นชายคนหนึ่งวิ่งไปขึ้นรถฮอนด้า แล้วขับออกไปจากจุดเกิดเหตุพร้อมกันทั้ง 2 คัน โดยลักษณะชายที่ดันตัวผู้ชายเข้าไปในรถโตโยต้าว่า รูปร่างสูง สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงสีเข้ม ส่วนคนขับ น.ส.ฉวีวรรณจำไม่ได้



พ.ต.อ.ปกรณ์ เบิกความอีกว่า หลังจากสอบเบาะแสจาก น.ส.ฉวีวรรณ แล้ว วันที่ 31 มีนาคม 2547 พยานได้นำตัว น.ส.ฉวีววรณมาที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 เพื่อให้ดูรูปสำเนาบัตรประชาชนของผู้ชายประมาณ 15-16 รูป ซึ่ง น.ส.ฉวีวรรณได้ชี้ที่รูปของ พ.ต.ต.เงิน ทองสุก ว่ามีลักษณะคล้ายกับชายในที่เกิดเหตุ โดยการชี้ภาพถ่ายนั้นกระทำต่อหน้า พล.ต.ท.บุญฤทธิ์ รัตนะพร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.จักรทิพย์ กุญชร ณ อยุธยา และ พล.ต.ต.กฤษดา พันธุ์คงชื่น รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล



อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ปกรณ์ เบิกความยืนยันว่าไม่รู้จัก และไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยทั้ง 5 คนซึ่งเป็นตำรวจกองปราบปรามมาก่อน



ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปกรณ์ เบิกความตอบการซักค้านทนายจำเลยที่ถามว่า เรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาได้มีคำสั่งเร่งหรือกดดันพยานในการติดตามตัวพยานหรือไม่ พ.ต.อ.ปกรณ์ ตอบว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้พยานติดตามเสาะหาพยานมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งพยานได้ติดตาม น.ส.ฉวีววรรณ มาให้การได้ ส่วนความกดดันในการทำคดีถ้าจะมี ก็เพราะบุคคลที่หายตัวไปเป็นคนมีชื่อเสียง และสื่อมวลชนกำลังติดตาม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net