ประชาไท-5 ส.ค. 48 "นโยบาย 3 จังหวัด น่าเสียดายที่ภาครัฐ ยังไม่เข้าใจชัดเจน เพราะการยอมรับความหลากหลายเป็นแนวความคิดใหม่ จึงมักมีคำถามเสมอว่า มีนโยบายที่สอดคล้องกับคน 3 จังหวัด แต่ทำไมไม่สำเร็จ" นางจิราภรณ์ บุนนาค รองเลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวในเวที อภิปรายเรื่อง "ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภาษา และชาติพันธุ์ บนเส้นทางสู่ความสมานฉันท์" วานนี้ (4 ส.ค. )
รองเลขาธิการสภาความมั่นคง กล่าวด้วยว่า สมช. ต้องมองว่า ความหลากหลายคือจุดแข็ง ใน ขณะที่ไทยเป็นประเทศเล็กก็ต้องหาจุดแข็งมาเป็นจุดยืนของชาติร่วมกัน ดังนั้นก็ควรเอาความหลากหลายที่มีนั้นมาเป็นจุดยืนที่สำคัญ
นางจิราภรณ์ ระบุว่า การที่จะนำมุมมองดังกล่าวมาสู่การปฏิบัตินั้นยังทำได้ยาก เพราะจะต้อง ปรับทัศนคติ และวิสัยทัศน์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งหมด เนื่องจากเดิมทีเคยมองกันว่า ความมั่นคงจะต้องกำหนดจากรัฐเท่านั้น เพราะคิดว่ารัฐรู้ดีกว่าภาคส่วนอื่น แต่ปัจจุบันนั้นอยู่ที่ประชาชนมากกว่า
ทั้งนี้ ในอดีตการสร้างความมั่นคงของชาติแบบรัฐชาติ ก็เพื่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์ ในช่วงหลังสงครามโลก แต่ปัจจุบันลัทธิคอมมิวนิสต์สลายไปจากสังคมไทย กรอบความคิดเรื่องความมั่นคงแบบเดิมก็ได้ตกขอบไปแล้ว จึงต้องหันมามองความจริงที่พบมากขึ้น นั่นก็คือมองว่าในสังคมมีความหลากหลาย และความหลากหลายก็จะทำให้เกิดปัญญาที่หลากหลาย จนต่อมากลายเป็นปัญญาที่จะแก้และป้องกันปัญหาที่จะนำมาสู่ความมั่นคงที่แท้จริงได้
อย่างไรก็ตาม รองเลขาธิการ สมช. ได้นำเสนอวิธีการที่จะทำให้มองเรื่องความมั่นคงเกี่ยวข้องกับเรื่องความหลากหลายไว้ช่วงท้ายของการอภิปรายว่า คงจะต้องเริ่มจากการทำงานวิจัยเรื่องความหลากหลาย เพื่อทำให้ง่ายขึ้นในการทำความเข้าใจกับหน่วยงานรัฐ เพราะขณะนี้ ใน สมช. เองฐานข้อมูลที่จะอ้างคุณค่าของความหลากหลายยังไม่เพียงพอกับการอธิบายในหน่วยงานซึ่งยังมีความเชื่อเรื่องความมั่นคงแบบในอดีต
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)