Skip to main content
sharethis

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ได้พิจารณาญัตติด่วน ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) สำนักงานอัยการสูงสุด และกรมที่ดิน ที่เสนอโดยนายจรูญ ยังประภากร ส.ว.สมุทรปราการ จากการดำเนินการแก้ปัญหาการทุจริตใน โครงการจัดการน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ เพราะเห็นว่าแม้จะมีการตรวจพบทุจริต แต่การกระทำของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กรมที่ดิน และ ป.ป.ช.ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีกับเอกชน และการดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปอย่างไม่ชอบมาพากล

ด้านนายนิวัติ อยู่ภักดี ส.ว.ชัยภูมิ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้ตั้ง กมธ.วิสามัญฯดังกล่าว เพราะไม่เห็นความจำเป็น เนื่องจากมีคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภาอยู่แล้ว สามารถส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมพิจารณาได้เลย ไม่จำเป็นต้องตั้ง กมธ. ขึ้นมาซ้ำซ้อนอีก

อย่างไรก็ตาม นายแก้วสรร อติโพธิ ส.ว.กรุงเทพฯ ได้สนับสนุนข้อเสนอของนายจรูญ โดยกล่าวว่า การตั้ง กมธ. วิสามัญฯตามที่นายจรูญเสนอ ไม่ได้ให้มาศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เป็นเรื่องของการติดตามคดี หากสู้กันจริงๆ เชื่อว่า รัฐอาจจะไม่ต้องเสียค่าโง่ สิ่งที่ต้องสู้คือมีคนของรัฐร่วมทุจริต มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นจึงหนีไปพ้น ที่สภานี้จะต้องดำเนินการ

"ผมเห็นว่า ต้องมี กมธ.โดยเฉพาะ จะได้ทำงานกันเจาะลึก ผมขอเรียนว่า เพื่อนผมลูกศิษย์ลูกหาผม ที่อยู่สำนักงานอัยการกำลังร้องบอกกันมาว่า เดี๋ยวนี้เลิกสัญญาทีไร เตรียมค่าโง่ให้เขาแล้ว แล้วส่งเรื่องไปอนุญาโตตุลาการ ซึ่งการเลือกคนเลือกตัว บางทีไปเลือกมวยล้ม ก็แพ้อีก อีกหน่อยหากินง่ายๆ ไปทำสัญญากับรัฐ แล้วหลอกให้เลิกสัญญา แล้วเข้าอนุญาโตตุลาการ กินค่าโง่กันเฉยๆ กำไร โดยไม่ต้องทำอะไร หลายคดีแล้ว" นายแก้วสรร กล่าว

จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญฯตามที่นายจรูญเสนอ ด้วยคะแนน 72 ต่อ 3 คะแนน และให้ตั้ง กมธ. จำนวน 21 คน ใช้เวลาศึกษาพิจารณา 180 วัน โดยจะให้ กมธ.รายงานความคืบหน้าภายใน 45

มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 17 พ.ค. 2548 หน้า 15

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net