Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-3 ก.ค.48กรรมการสิทธิฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุคดีฆ่าพระ พร้อมตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับความจริง และไม่เชื่อว่าสาเหตุการตายนั้นมาจากการฆาตกรรมนั้น มาจากการลอบตัดไม้ไผ่และเกิดบันดาลโทสะ พร้อมกำชับให้ตำรวจทำการสอบพยานทั้งหมดให้ชัดเจนและรัดกุม ก่อนนำเสนอต่อกรรมาธิการสภา

"หลังจากที่มีการเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้ข้อมูล และความคืบหน้าของคดีที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แล้วมาลงตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุ พบว่า ข้อมูลที่ตำรวจมีอยู่นั้น แม้จะตั้งประเด็นเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ แต่ดูน้ำหนักยังไม่ชัดเจนนัก เพราะทาง
พ.ต.ท.ธนาพจน์ เกิดภู่ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอฝาง ได้ให้ข้อมูลชี้แจงที่ห้องประ ชุมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่เอาไว้ว่า กุฏิที่พักของพระสุพจน์อยู่ห่างจากพื้นที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร และใช้ระยะเวลาเดิน 3 นาที แต่เมื่อเราเดินดูแล้วเห็นว่า ทางที่เดินเข้าไปนั้นมีระยะ ทางประมาณ 400-500 เมตร ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ตำรวจชี้แจงครั้งแรก" นางสุนี ไชยรส กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสช.) และประธานอนุกรรมการสิทธิการจัดการทรัพยากรป่าไม้และที่ดิน ระบุ

ทั้งนี้นางสุนี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากได้เชิญเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลและความคืบหน้ากรณีการฆาตกรรมพระสุพจน์ ด้วงประเสริฐ ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นอีก 2 วัน นางสุนีและสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ โดยมี พ.ต.อ.ธนสาร พลายโถ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอฝาง ปลัดอำเภอฝาง ผู้ใหญ่บ้านห้วยงูใน รวมทั้งสื่อมวลชน ได้เข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง

นางสุนีกล่าวว่า เนื่องจากระยะทางยาวไกลพอสมควร และต้องข้ามลำห้วยซึ่งต้องข้ามด้วยความลำบาก เป็นเส้นทางที่รกมาก และไม่ใช่เส้นทางที่คุ้นเคย ไม่ได้เป็นเส้นทางเดินประจำ ประกอบกับพระสุพจน์นั้นอาพาธด้วยโรคเข่าอักเสบ จึงเป็นไปได้ยากว่า พระสุพจน์จะเดินเข้าไปยังพื้นที่นั้นได้โดยง่าย อีกทั้ง เมื่อสอบถามข้อมูลประวัติและบุคลิก อุปนิสัยของพระสุพจน์จากหลายๆ ฝ่ายแล้ว ไม่น่าจะเป็นมูลเหตุให้พระสุพจน์เข้าไปขัดขวางการการตัดไม้ไผ่เพียงลำเดียว

ดังนั้น จึงน่าจะเชื่อว่ามีมูลเหตุน้ำหนักไปที่ความขัดแย้งการแย่งชิงฐานทรัพยากรในภาพรวมทั้งหมดมากกว่า เพราะพื้นที่อำเภอฝางในขณะนี้ มีเรื่องการบุกรุกที่ดินและพื้นที่ป่ากันรุนแรงมาก ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทางตำรวจได้หามูลเหตุหลายๆ ด้าน

นางสุนี กล่าวว่า กรรมการสิทธิฯ ให้ความสนใจต่อกรณีนี้เป็นพิเศษ เพราะประเด็นเรื่องความขัดแย้งการแย่งชิงฐานทรัพยากรดิน น้ำ ป่า ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำฝางทั้ง 3 อำเภอ คือฝาง แม่อาย ไชยปราการ ซึ่งทางกสช.ได้ติดตามกรณีนี้มานานหลายปี ซึ่งกรณีคดีดังกล่าว ไม่ได้อยู่ที่การฆาตกรรมธรรมดา แต่อยู่ที่ผลการสรุปบทเรียนว่า ความขัดแย้งการแย่งชิงทรัพยากรนั้น ได้นำไปสู่การข่มขู่ คุกคาม และลอบฆ่าชาวบ้านไปทั่วประเทศ ดังนั้น คดีนี้น่าจะมีเหตุอื่นมากกว่าการฆาตกรรมธรรมดา

หลังจากนั้น พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ พระประจำสำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรม และประธานกลุ่มเสขิยธรรม ได้พาทุกคนเดินดูพื้นที่รอบๆ บริเวณกุฏิและที่พักของพระสุพจน์ พร้อมกล่าวว่า อยากให้ทางตำรวจเก็บประเด็นต่างๆ มาประกอบการพิจารณาสืบสวนสอบสวนให้ละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าเหตุการณ์ในวันนั้น มีร่องรอยหลักฐานว่า ในเวลาช่วงบ่ายนั้น มีการแช่ผ้าจีวร ตรงลำห้วยหน้ากุฏิ ซึ่งปกติพระสุพจน์ จะแช่ผ้าจีวรไว้ในถัง ก่อนทำการสรงน้ำเป็นประจำ
รวมไปถึงกรณีที่พระสุพจน์ ได้มีการเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ โดยมีการเปิดหนังสือคู่มือการทำเว็บไซต์วางทิ้งไว้ เพื่อเตรียมทำเวบไซต์ จิตวิวัฒน์ ของ น.พ.ประเวศ วะสี

"ประเด็นเหล่านี้ มีลักษณะที่คล้ายๆ กับว่า ในช่วงเวลานั้น กลุ่มคนร้ายมีสิ่งที่บ่งบอกว่า มีการพยายามที่จะให้พระสุพจน์ต้องเดินออกไปข้างในสถานที่เกิดเหตุ ทั้งที่เป็นไปไม่ได้ที่พระสุพจน์จะต้องออกไปไกลเช่นนั้น เนื่องจากอาพาธด้วยโรคเข่าอักเสบ และมักอยู่ในบริเวณรอบๆ กุฏิที่พักเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดตรงนี้ด้วย ซึ่งสามารถติดต่อมาได้ และพร้อมที่จะให้ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด" พระกิตติศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแผ้วถางพื้นที่ป่ารอบๆ บริเวณที่เกิดเหตุจนโล่งเตียน อีกทั้งยังมีร่องรอยการถากลำไม้ไผ่ที่ถูกตัดในที่เกิดเหตุจนร่องรอยเดิมเสียหายไปบางส่วน ซึ่งนางสุนี ได้ซักถามถึงสาเหตุของการกระทำในครั้งนี้ พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า เกรงจะเสียหายต่อรูปคดี

พ.ต.อ.ธนสาร พลายโถ ผกก.สภ.อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ที่เป็นรอยถากลำไม้ไผ่นั้น เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทดลองเคาะลำไม้ไผ่ เพื่อทดสอบว่า เมื่ออยู่บริเวณกุฏิที่พักของพระสุพจน์จะได้ยินเสียงตัดไม้หรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการแผ้วถางพื้นที่ป่ารอบๆ นั้น ก็เพื่อจะค้นหาอาวุธหรือหลักฐานของคนร้ายที่อาจทิ้งไว้

ทั้งนี้ นางสุนี ได้กำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดถูกต้อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ฝาง เจ้าของคดีจะนำไปเสนอให้แก่สาธารณะ โดยเฉพาะการชี้แจงข้อมูลให้แก่กรรมาธิการสภาฯ อีกหลายคณะ ในวันที่ 5 และ 7 ก.ค.นี้ ถ้าไม่เช่นนั้น อาจทำให้เสียหายและสร้างความสับสนต่อรูปคดีได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net